รีวิว LG G Watch R บทสรุปการใช้งาน

คลิปรีวิว นาฬิกาแอนดรอย์ ตัวล่าสุด ดีไซน์สปอร์ตสุดเท่ห์ด้วยสีดำด้าน พร้อมบทสรุปความแรงเมื่อเทียบกับ Moto360

จาก รีวิวแกะกล่อง G Watch R นาฬิกาแอนดรอย์สุดเจ๋ง หัวใจ Snapdragon สุดเท่ห์ วันนี้เราจะมาต่อกันด้วยคลิปทดสอบการตอบสนองของ ซีพียู Sanpdragon 400 กับหน้าจอ OLED ที่สีจัดแถมกินไฟน้อยกัน

มาดูซิว่าทั้งสวย ทั้งฉลาด นี้เมื่อใช้งานจะสวยขนาดไหน

ความสว่างในตัวเครื่องมีให้เลือก 6 ระดับ ผมลองปรับระดับ 5

ทดสอบดูกลางแจ้งอ่านเวลาได้ถึงแม้จะไม่สว่างชัดเจนเหมือนหน้าจอมือถือ แต่โดยรวมใช้ดูเวลาได้ อ่านข้อความยาว ๆ ยากนิดนึง ควรปรับเป็นเบอร์ 6 น่าจะดีกว่า ซึ่งปัญหาหน้าจอไม่สู้แดดนี้เป็นปกติของจอ OLED

ส่วน Moto360 ที่เป็นจอ LCD เวลาดูกลางแจ้งก็ไม่ชัดเจนเหมือนกัน

หน้าจอตอนวัดอัตราการเต้นของหัวใจ สามารถเรียกดูประวัติ หรือ log ได้ด้วย

การทำงานเกี่ยวกับสุขภาพนั้น ตอนนี้แต่ละยี่ห้อที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Wear ทำได้ดีพอ ๆ กัน ฟังค์ชั่นก็คล้าย ๆ กันสบายใจได้

เนื่องจาก LG G Watch R ไม่มีเซ็นเซอร์ปรับแสงหน้าจออัตโนมัติ เค้าใส่ระบบ Always On หรือ หน้าจอติดตลอดเวลามาให้

เห็นโหมดนี้ครั้งแรกกลัวว่าจะกินแบต หรือ หากเปิดหน้าจอสว่างเกินไปเวลาไปที่มืด ๆ หรือ เดินไปไหนมาไหนข้อมือเราคงเด่นไม่น้อย อารมณ์นึกถึงเปิดหน้าจอมือถือเดินไปเดินมา

พอลองใช้งานแล้วก็รู้ว่า LG เค้าไม่ได้มักง่ายขนาดนั้น 555

เมื่อเราเปิดใช้ระบบนี้แล้วการทำงานจะคล้าย ๆ การมีโหมด Auto เพราะเวลาเราไม่ได้ใช้งาน หน้าจอที่ติดตลอดเวลานั้นจะแสดงผลแบบลดการใช้พลังงานตามภาพด้านบน เน้นสีดำประหยัดพลังงาน แสดงเส้นจาง ๆ บอกเวลาเท่านั้น

ซึ่งการทำงานแบบนี้ทำให้ไม่กินแบต ผมใช้โหมดนี้ตั้งแต่เที่ยงวัน ถึงประมาณ 6 โมงเย็น แบตลดไปเพียง 30% เท่านั้นทั้ง ๆ ที่เมล และ การเตือนต่าง ๆ เข้าตลอดเวลา….แบตอึดมากกกกกกกก

บทสรุปการใช้งาน

เป็นอย่างไรบ้างครับ ดูคลิปรีวิว และ ภาพทดสอบต่าง ๆ กันไปแล้ว

ต้องบอกว่า….ชอบรูปทรงของมันเป็นหลัก เพราะสำหรับผมนาฬิกาเป็นมากกว่าเครื่องบอกเวลา มันคือเครื่องประดับชิ้นหนึ่ง และ LG G Watch R เป็นเครื่องประดับบอกเวลาที่สามารถทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่พลาดการติดต่อสื่อสารในทุกสถานะการณ์ บางครั้งไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาก็รู้ได้ว่าเมลที่เข้ามานั้นไม่สำคัญ หรือ รู้ว่าสำคัญมากต้องหยิบมือถือขึ้นมาตอบคำถามลูกค้าด่วน

ด้านการใช้งานหากเทียบกับ Moto360 นั้น เจ้า G Watch R มีหน้าจอคมชัดสวยงามกว่า และ หน้าจอเต็มกว่า เวลาเลือกหน้านาฬิกาทำให้สามารถเลือกหน้าขาวได้

ด้วยสเปคที่แรงกว่ากับซีพียู Snapdragon 400 ประสานกับเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว 9 แกน ความหวังแรกคือ มันต้องตอบสนองเร็วกว่า เวลาพลิกข้อมือปุ๊ปหน้าจอติดปั๊บ สั่งอะไรก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว

แต่….ผลการใช้งานมันแทบไม่ต่างกับ Moto360 ที่ใช้ ซีพียู TI OMAP เลย

แบตเตอรี่นั้นหายห่วง ดีกว่า Moto360 เยอะมากกกกก ใช้ตั้งแต่ 9 โมงเช้า กลับบ้านถอดนาฬิกาตอน 6 โมงเย็น แบตเตอรี่เหลือสุทธิ 60% โดยครึ่งวันหลังเปิดโหมด “หน้าจอติดตลอดเวลา” ด้วยซ้ำ

แม้ว่า Android Wear ยังไม่สมบูรณ์แบบเท่าไหร่นัก และยังมีทางให้พัฒนาได้อีกเยอะ สำหรับผมหน้าตาแบบนี้ ราคา 11,000 บาท (รวมภาษีนำเข้า) ทำงานได้แบบนี้ ผมพึงพอใจแล้วหล่ะ คำถามสำคัญที่กำลังถามตัวเองในตอนนี้คือ หากต้องเดินทางไปต่างประเทศ จะเอา LG G Watch R ที่ต้องชาร์จแบตทุก 2 วันไป หรือ จะเอานาฬิกาธรรมดาไป

แล้วเพื่อน ๆ หล่ะครับ คิดยังไงกับ G Watch R บ้าง สามารถแช์ไอเดียกันได้ที่ท้ายบทความนี้ หรือ หน้าแฟนเพจได้เลย