20141019_145747

ประสบการณ์สัมผัสครั้งแรก Galaxy Note Edge หน้าจอโค้งลงขอบเครื่อง…..มันจะดี จะโดนหรือไม่ ความรู้สึกที่ได้ลองเป็นอย่างไร วันนี้จะมาเล่าให้ฟัง

กลับจากไปลั้นลา ญี่ปุ่น แล้วครับเพื่อน ๆ แฟนเพจทั้งหลาย และ ก็ไม่ลืมเอาอะไรดี ๆ กลับมาฝากกันด้วย เพราะคราวนี้โชคดีได้ไปจับลองเล่น Samsung Galaxy Note Edge ตัวเป็น ๆ ที่ Yodobashi-Akiba ตึกใหญ่ยักษ์อลังการที่รวบรวมทุกอย่างไม่ว่าจะไอที ของเล่น หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ในตึกใจกลางย่าน อากิฮาบาระ เมืองโตเกียวนั่นเอง

อ้อ Note Edge เปิดขายที่ ญี่ปุ่น เป็นที่แรกของโลกนะจ๊ะ เกาหลี เมกา รอไปก่อน ส่วนที่ไทยเราคงธันวา หรือ มกราโน่น (มั๊ง…มั่วสุด ๆ)

ใครยังไม่รู้จักเจ้า Note Edge บอกให้ฟังสั้้น ๆ ง่าย ๆ ว่ามันคือ Galaxy Note 4 ที่ใช้หน้าจอโค้งถึงขอบด้านซ้ายมือนั่นเอง โดยมีสเปคดังนี้

สเปค Samsung Galaxy Note Edge

  • ขนาด 151.3 x 82.4 x 8.3 มม.
  • หนัก 174 กรัม
  • หน้าจอ 5.7 นิ้ว Quad HD Super AMOLED ความละเอียด 2,560 x 1,440 พิกเซล
  • ซีพียู Snapdragon 805 Quad Core 2.7 กิ๊ก
  • แรม 3 กิ๊ก
  • พื้นที่หน่วยความจำในตัวเครื่องมีให้เลือกระหว่าง 32 กิ๊ก หรือ 64 กิ๊ก
  • มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android Kitkat 4.4
  • กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) ดิจิตอลซูม 8 เท่า
  • กล้องหน้า 3.7 ล้านพิกเซล
  • เพิ่มเมมได้สูงสุด 64 กิ๊ก
  • รองรับ LTE
  • แบตเตอรี่ความจุ 3,000 มิลิแอมป์

Galaxy_edge_tokyo (1)

ตัวเครื่องขนาดเหมือนกับ Note4 นั่นแหละ ถือจับกระชับมือเหมือนกัน หน้าจอคมชัดสวยงาม และ มีระบบจดจำลายนิ้วมือเช่นกัน

Galaxy_edge_tokyo (2)

ขอบโค้งที่มาจรดตรงขอบล่างของเครื่องทางด้านซ้ายมือ เป็นจอแสดงผลแยกต่างหากที่เอาไว้ใส่ไอค่อนแอพฯ ต่าง ๆ เพื่อให้เรียกใช้งานได้อย่างสะดวก

นอกจากนี้ยังสามารถแสดงข้อมูลต่าง ๆ ได้มากมายไม่ว่าจะเป็นการเตือนต่าง ๆ รวมถึงแสดงข้อความ sms ด้วย แน่นอนว่าตอนนี้ใช้ได้เฉพาะแอพฯ ของซัมซุงเท่านั้น

Galaxy_edge_tokyo (4)

ด้านหลังยังคงใช้ DNA ของตระกูล Note นั้นคือ พลาสติคปั๊มลายหนังซึ่งแม้จะไม่ไฮโซเหมือนใช้หนังจริง ๆ แต่ดูแลรักษาง่าย และ เบากว่าเยอะ

กลัองหลัง 16 ล้านพิกเซล จะเทพแค่ไหนเดี๋ยวลอง Note 4 ก็น่าจะใกล้เคียงกัน

Galaxy_edge_tokyo (5)

ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟัง และ ปุ่ม Power ที่เดิมเคยอยู่ขอบเครื่องด้านซ้าย แต่ด้วยหน้าจอที่โค้งไปทางซ้ายทำให้ต้องย้ายปุ่ม Power มาไว้ด้านบน

Galaxy_edge_tokyo (3)

ขอบตัวเครื่องอีกด้านหนึ่งเป็นสันเรียบ ๆ สีเดียวกับตัวเครื่องสไตล์เดียวกับ Note 4

ปุ่มปรับเพิ่ม – ลดเสียงถูกย้ายมาอยู่ฝั่งนี้….จะใช้งานสะดวกหรือไม่เดี๋ยวคงต้องลองกันยาว ๆ

Galaxy_edge_tokyo (6)

ด้านล่างของตัวเครื่องเหมือน Note 4 และ มาพร้อมปากกา S-Pen รุ่นใหม่ล่าสุดเช่นเดียวกัน

เท่าที่ลองเล่นมา ความรู้สึกแรกที่จับเครื่องเลยคือ งานประกอบดีมากกกกกก ตัวเครื่องแน่นหนาแข็งแรง หน้าจอที่เคย “มโน” ว่าจะเป็นจุดอ่อนสำคัญแต่จากการ (แอบ) เคาะ ๆ ดู หน้าจอแข็งแรงกว่าที่คิดเยอะ ไม่รู้สึกว่าเปราะบางเลย ซึ่งถ้าหล่นจริง ๆ ก็คงแตกนั่นแหละ

ผมเองก็ยังไม่ได้ Note 4 มา เท่าที่ลองเล่นโน่น นี่ นั่น บอกได้คำเดียวว่า “เริ่ด” และ อยากได้น้ำลายไหล เพราะมันลื่น เร็ว และ สวยกว่า Note 3 LTE ที่ถืออยู่ราวฟ้ากับดิน

ส่วนปากกาไม่ได้ลองเพราะเค้าถอดออกไม่ได้ใส่ไว้ในตัวโชว์ ซึ่งไปลองของ Note 4 แทนก็ได้

สรุปว่า….งานนี้มีโดนแน่ ๆ รอลุ้นราคาอย่างเดียว

ขอให้มีความสุขกับชีวิต LifeStyle IT ครับ

_________________________________________________________________

xenonart80x80

หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย

ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ

http://www.facebook.com/xenonartpage?ref=hl

Facebook-Like

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art

1 Comment