รีวิว Galaxy Tab S ภาคจบ บทสรุปแท๊ปเล็ตเทพ โทรศัพท์ได้ [ชมคลิป]

มาถึงตอนจบ บทสรุปการใช้งาน Samsung Galaxy Tab S ตัวแรงที่วางขายก่อนงานเปิดตัว ที่หลาย ๆ คนเฝ้ารอดูว่าผมจะว่ายังไง

จำได้ว่าแท๊ปเล็ตตัวสุดท้ายฝั่งแอนดรอย์ที่รีวิวไปคือ Galaxy Note 8 ซึ่งก็ปีที่แล้วโน้น

ทำไมหน่ะเหรอ? เพราะส่วนตัวเห็นว่ายังไม่มีแท๊ปเล็ตตัวไหนดีกว่า iPad Mini with Retina ที่ใช้อยู่

จนมาสะดุดกับความสวยเซ็กซี่ของ Galaxy Tab S หน้าจอ 8.4 นิ้วที่ดูแคบ ๆ ยาว ๆ นี่แหละ เอ๊ะ! หรือจะต้องมนต์สีขาวขอบทอง @_@*

ว่าแล้วก็จัดมารีวิวให้ชมกัน อย่าเสียเวลา ชมคลิปกันเลย

เท่าที่ลองเล่นแทนไอแพดมาได้เกือบสัปดาห์ บอกเลย….การทำงานโดยรวมของ Tab S รุ่นหน้าจอ 8.4 นิ้วตัวนี้นั้น ลื่นกว่าที่คิด

หลังแกะกล่อง ผมทำการ Factory reset / ล้านเครื่อง แล้วพอใช้งานวัน สองวันแรก มันจะออกช้า ๆ ติด ๆ หน่วง ๆ แถมบางจังหวะมีกระตุกจนเกือบจะปาทิ้งตั้งแต่ยังไม่ได้ถ่ายรีวิวกล้อง

แต่พอเล่นนานขึ้น ระบบเหมือนจะเข้าที่เข้าทางมากขึ้น มี Cache ไปเก็บที่ระบบ ผลคือทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ทำให้การใช้งานโดยลื่นไหลเหมือนใช้ Galaxy S5 หรือ Note3 รุ่นที่ใช้ OctaCore เลย….สมกับเป็น S5 ขยายส่วน แต่เหนือกว่าด้วยแรม 3 กิ๊ก แถมกล้องดีกว่า อุ อุ อุ

ตัวเครื่องบางมากกกกก เมื่อวางเทียบกับ Galaxy Note3 จะบางกว่าเกือบเท่าตัวทีเดียว แถมน้ำหนักเบาหวิว งานประกอบดีเยี่ยม เรียกว่าเป็นแท๊ปเล็ตที่ดูสวยงาม หรูหราที่สุด (ในตลาดแอนดรอย์)

แต่……..ในทางกลับกันความบาง เลยกลายเป็นอุปสรรคสำหรับผมไปในตัว เพราะเกือบจะทำหลุดมือบ่อยครั้ง บางทีนอนเล่นบนเตียงเกือบหล่นใส่หน้า ปัญหาคือ มันมีขอบจอที่บางเฉียบ จำทำให้มีที่ให้นิ้วจับน้อย แถมระบบไม่ได้อัจฉริยะเหมือนไอแพด

หากนิ้วเราทาบเกินขอบจอไปบนหน้าจอแล้วม้นจะรู้ว่าเราไม่ได้แตะหน้าจอ แต่ “วาง” ไว้เฉย ๆ ดังนั้นมันจะไม่ทำงาน แต่ Tab S หรือ แอนดรอย์ตัวอื่น ๆ มันจะนึกว่าเรา “แตะ” หน้าจออยู่ ทำให้เวลาเอาอีกนิ้วนึงเลื่อนเพื่อดูหน้าเวป หรือ ดูรูป กลายเป็นซูมซะงั้น

ปัญหานี้คาดว่าเมื่อมีเคสคงจะหมดไป การถือจับน่าจะกระชับมือขึ้น….มั๊ง

เพราะยังไม่มีเคสขายเลยไม่กล้าฟันธง รู้อย่างเดียวว่า เครื่องเบาขนาดนี้ ต่อให้ใส่เคสแบบไหนก็ไม่หนักแน่นอน

หน้าจอสวยเว่อร์เป็นจุดเด่น แต่ก็เป็นจุดด้อยในตัวเอง เพราะด้วยความระเอียดเกินกว่า Full HD ทำให้บางแอพไม่รองรับ ไม่สามารถโหลดมาใช้งานได้ เช่น Whatsapp และ BBM เป็นต้น นอกจากนั้นการเล่น ไอจี หรือ เข้าเวปต่าง ๆ ตัวหนังสือจะเล็กมาก อ่านนาน ๆ แอบมีปวดตาเล็กน้อย

ต่อให้ขยายหน้าจอเวลาเข้าเวป ระบบไม่ได้ปรับบรรทัดให้เรา ทำให้ต้องเลื่อนซ้ายขวาน่ารำคาญ

ใครซื้มาใช้แนะนำให้ตั้งความสว่างหน้าจอเป็น ออโต้ เพื่อถนอมสายตา รวมถึงปรับขนาดตัวหนังสือให้เหมาะสมกับตัวเรา เพื่อบรรเทาอาการปวดตาหากต้องจ้องนาน ๆ

แต่ก็ช่วยไม่ได้ทั้งหมด เพราะตัวหนังสือในบางโปรแกรมมันไม่ได้ใหญ่ตามการตั้งค่าขนาดตัวหนังสือของระบบ งานหน้าจอเทพเลยกลายเป็นทั้งข้อดี และ ข้อเสียไปพร้อม ๆ กัน

ตรงนี้แล้วแต่คนมอง ส่วนผมใช้ไปใช้มา เริ่มชินแระ ^^

ตัวอย่างขนาดตัวหนังสือเวลาเล่น Instagram นี่ปวดตามากบอกเลย คือมันจะเล็กกว่าดูบนมือถือทั่วไปเยอะ

กล้องไม่ต้องพูดถึง ขั้นเทพ…..เรียกว่าลืมความห่วยของบรรดากล้องบน แท๊ปเล็ต ไปเลยครับ

ผลงานภาพถ่ายเห็นกันจะ ๆ การถ่ายวีดิโอสวย คม มีมิติ ดีกว่าที่หวังไว้เยอะ ถึงขนาดมีคนเม้นต์ว่าดีกว่า ไอแพด ประทับใจสุด ๆ หากใครยังไม่ได้เสพรีวิวภาคกล้อง แนะนำให้กลับไปอ่านโดยพลัน

ส่วนจะดีกว่าไอแพดจริงเหรอ ติดตามกันต่อไป อิ อิ อิ เดี๋ยวมีจัด

สิ่งที่ทำให้ Galaxy Tab S นั้นน่าใช้มากกว่า Android Tablet อื่น ๆ ในตลาดคงไม่พ้นบรรดาฟีเจอร์จัดเต็มที่ซัมซุงใส่มาให้ ไม่ว่าจะเป็นระบบจดจำลายนิ้วมือ หรือ Ultra Power Saving Mode ที่ยืดอายุแบตเตอรี่ในยามฉุกเฉิน เป็นต้น

บทสรุป

หากคุณเบื่อไอแพด หรือ อยากได้แท๊ปเล็ตแอนดรอย์ ที่โทรศัพท์ได้ กล้าบอกเลยว่า ซัมซุง กาแลคซี่ Tab S เป็นตัวเลือกที่ครบเครื่องที่สุด และ ดีที่สุดในตลาด แถมราคาเปิดมา 16,900 บาท พร้อมโปรผ่อน 0% กับบัตรเครดิต เชื่อว่าคงจะเร้าใจเพื่อน ๆ ไม่น้อย

หรือ ใครชอบมาบุญครอง ก็ลองดูนะ ผมเองจัดจากร้านประจำที่มาบุญครองเครื่องศูนย์ 15,800 บาท เงินสด สนใจติดต่อร้าน Chat เลย คุณบอม 081 929 9797 บริการดีจึงบอกต่อ

หากใครคาใจว่าเอา iPad Mini หน้าจอ Retina ดี หรือ เอา Galaxy Tab S 8.4 นิ้วตัวนี้ดี

บอกเลย….รอชมรีวิวตอนต่อไป ^^