ลองมาแล้ว Embassy Diplomat Screen โรงหนังที่แพงที่สุดในประเทศ

‘เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมทสกรีน โดย เอไอเอส’ โรงหนังเปิดใหม่ หรูสุด แพงสุดในประเทศไทย ไปลองแล้วเลยมาเล่าให้ฟังว่าคุ้มหรือเปล่า

เพื่อน ๆ คงผ่านหู ผ่านตากันมาบ้างแล้วกับโรงหนังใหม่ในกรุงเทพที่เค้าว่ากันว่า หรูสุด แพงสุดในสยามประเทศ ซึ่งวันเปิดตัวมีโอกาสได้รับเชิญไปร่วมงาน เลยเอามาเล่าให้ฟัง

ก่อนอื่นคงมีหลายคำถามที่หลายคนสงสัยเหมือนผม

• มันอยู่ไหนหว่า? – ตั้งอยู่ชั้น 6 เซ็นทรับ เอ็มบาสซี่ / Central Embassy ติดกับ เซ็นทรัล ชิดลม โดยหากขับรถไปทางเข้าลานจอดรถจะอยู่ด้านข้างฝั่งที่จะไปโรงแรมนายเลิศ นั่ง BTS มาแนะนำลงสถานีเพลินจิต เดินใกล้กว่า
• โรงหนังนี้ของ SF หรือ Major – ไม่ใช่ทั้ง 2 แต่เป็นเจ้าใหม่ชื่อ Executive Cinema ซึ่งทยอยเปิดโรงหนังหรู ๆ ทั่วเอเชีย เช่น เวียดนาม สิงค์โปร และ อื่น ๆ
• ที่นี่มี 5 โรง โดยทั้ง 5 โรงจะเป็นแบบ VIP ทั้งหมด แต่ละโรงจุที่นั่งไม่เยอะ เน้นหรูหราสะดวกสบาย
• ราคาหล่ะ – เนื่องจากทุกที่นั่งเป็นแบบ VIP  ดังนั้นราคาเริ่มต้นคู่ละ 1800 บาท หรือ 900 บาท ต่อคน ถ้ามาคนเดียวเริ่มต้น 1000 บาท และ แพงสุดอยู่ที่ 3300 บาท สำหรับโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง
• ราคานี้เค้ามีชุดของว่างให้เช่น เบียร์ไฮเนเก้น กับ ถั่ว หรือ ชา Twining กับ คานาเป้ จาก Dean & Deluca ถ้าไม่ชอบเอา Macaroon กับชาก็ยังได้ แก้ไข: นอกจากนั้นแล้ว ป๊อปคอร์น และ น้ำอัดลมก็ฟรีอีกต่างหาก เรียกว่าไม่ต่างกับโรง VIP อื่น ๆ เท่าไหร่นัก จุดเด่นคงเป็นการที่โรงเค้าเป็น VIP ล้วน ๆ และ ราคาประมาณนี้คงจะสกรีนคนที่เข้ามาใช้บริการได้พอสมควร
• บริการแบบ VIP จริงเหรอ? – บริการคงต้องปรับปรุงอีกนิดนึง ไม่ได้รู้สึก VIP ตามราคาที่จ่ายไป
• ทำไมต้อง by AIS แหมก็ AIS เป็นผู้สนับสนุนหลักให้กับทางโรงหนัง อารมณ์ กรุงศรี ไอเม็กซ์ นั่นแหละท่าน

อัพเดท 17/6/57

หลังสุดไปดูโรง 2 มา ป๊อปคอร์น และ น้ำในโรง ไม่ฟรีนะครับ ต้องซื้อเอา โดนไป 200 บาท….เริ่มรู้สึกแพงละ สงสัยได้กลับไปใช้บริการ SFW First Class กันต่อไป

คำถามสำคัญคือ…..จ่ายแพงกว่าทำไม และ ราคานี้คุ้มหรือเปล่า

ตอบยากครับ ก่อนอื่นผมว่าตามผมมาชมโรงหนังกันก่อนดีกว่า

ว่าแล้วก็ทัวร์โรงหนังกันเลย

เมื่อขึ้นมาถึงชั้น 6 ก็จะเจอโรงหนังเด่นเป็นสง่ากินพื้นที่ไปครึ่งชั้น โดยเค้าใช้นักออกแบบระดับโลกอย่าง Rockwell Group โดยเน้นธีมสีทองหรูหรา และ การตกแต่ที่ใส่กลิ่นอายผู้ดีอังกฤษ

เดินเข้ามาก็จะเจอพื้นที่รับรอง ให้เรานั่งเล่นระหว่างรอรอฉาย โดยมีที่นั่งหลายแบบให้เลือกใช้บริการ บาร์น้ำ และ ของว่างเดินตรงเข้าไปจนสุด แต่เค้ามีพนักงานคอยบริการนะจ๊ะ ไม่ต้องห่วง

ใครมาเป็นกลุ่ม หรือ มากระหนุงกระหนิงกันก็ไม่ต้องห่วง มีมุมโซฟาที่ส่วนตัวหน่อยคอยให้บริการด้วย

ที่นี่เค้ามีโรงหนังแบ่งเป็น 2 แบบคือ โรง 1 แบบโซฟาทั้งโรง พร้อมห้องรับรองต่างหาก ส่วน โรง 2 – 5 เป็นเบาะเอนนอน ปรับได้ราบถึง 180 องศา ใช้ห้องรับรองรวมที่ lobby ด้านหน้า (ภาพบน) โดยแต่ละโรงจะมีการออกแบบตกแต่งแตกต่างกันไป

วันที่ไปนั้นเค้าเปิดให้ชม และ ถ่ายรูปกัน 2 โรง คือ โรง 1 และ โรง 2

โรงที่ 1…แพงสุด…ดีที่สุด

ห้องรับรองแยกต่างหากสำหรับลูกค้าโรง 1

แต่….เค้าบอกว่าจริง ๆ แล้วลูกค้าโรงอื่นก็สามารถเข้ามานั่งได้เช่นกัน เพียงแต่เวลาถึงรองฉายคงต้องเดินย้อนกลับไปโรงของตัวเอง เพราะห้องนี้ตั้้งอยู่หน้าโรง 1 กับ โรง 2

บรรยากาศโดยรวมของโรง 1 ที่ตกแต่งหรูหราแต่ได้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน กับชุด Sofa bed นุ่มสบาย นอนเอกเขนกเพลิน ๆ โดยทุกที่นั่งจะเป็นสไตล์นี้ทั้งโรง มีขนาด 2 ที่นั่ง และ 3 ที่นั่ง

อย่างที่บอกไปแล้วท่านเดี่ยวเค้าก็ขายนะครับ ไม่ต้องห่วงว่าไม่มีคู่มาดูหนัง เพียงแต่ซื้อใบเดียวแพงขึ้นมาอีกนิด แต่ได้นั่งโซฟาคู่นะจ๊ะ คุ้มสุด ๆ ไปเลย 555

สำหรับโรง 1 เค้ามีตู้เย็นเล็ก ๆ ไว้คอยบริการในทุกที่นั่ง เราสามารถหยิบน้ำดื่มได้ตามใจชอบ….ฟรี !!! โดยจะมีน้ำอัดลม และ เบียร์คอยให้บริการ

สังเกตุอีกนิดว่าเค้ามีโต๊ะยื่นเข้ามาในโซฟาด้วยนะ ไม่ต้องห่วงว่านอนดูแล้วเอื้อมหยิบ ป๊อปคอร์น กับ น้ำไม่ถึง แบบนี้นอนดูหนังให้อืดกันไปข้างนึงเลย

จุดเด่นที่สุดของ โรง 1 ที่ไม่พูดไม่ได้เลย…..คือ

เค้ามีบาร์สำหรับชมภาพยนต์อยู่ด้านหลัง ให้ความเป็นส่วนตัว และ ความเริ่มในการดูหนังที่ไม่เคยมีโรงหนังไหนในประเทศไทยทำมาก่อน

ด้วยห้องกระจกเก็บเสียงด้านหลัง พร้อมบาร์ และ ชุดหูฟัง เอาไว้คอยบริการลูกค้าที่ต้องการยืดเส้นยืดสายแบบไม่รบกวนลูกค้าคนอื่น ๆ

ทำให้เราสามารถคุยโทรศัพท์ได้แบบไม่พลาดทุกฉากของหนังสุดเลิฟ

หรือ กรณีพาลูกไปดู ก็สามารถอุ้มมาดูในห้องนี้ได้โดยไม่ต้องเกรงใจคนอื่นเวลาลูกเรางอแง

ในห้องบาร์นี้สะดวกสบาย เห็นจอใหญ่ชัดเจนสะใจ แถมมีบริการเครื่องดื่มให้ด้วย

เจ๋งสุด ๆ ไปเลยหล่ะ ผมชอบจุดเด่นนี้ที่สุด เพราะมันตอบโจทย์คนเมืองได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะคุณพ่อลูก 2 อย่างผม ที่สามารถเอาลูกเล็ก ๆ นอนในรถเข็นอยู่ในห้องนี้ได้โดยผมไม่พลาดการชมภาพยนต์เลย

โรงที่ 2 – 5…หรูเริ่ดไม่แพ้กัน

จากโรง 1 เรามาดูโรง 2 กันบ้าง โดยโรงนี้จะเป็นโซฟาคู่ล้วน ๆ มีที่นั่งไม่เยอะ ตกแต่งหรูหราด้วยโซฟาหนังปรับเอนไฟฟ้า พร้อมหมอนและผ้าห่ม

โดยรวมแล้วจะอารมณ์ First Class ของ SF ซึ่งผมใช้บริการประจำที่ CentralWorld ความแตกต่างจะอยู่ที่ของ SF เป็นผ้ากำมะหยี่ แต่ Diplomat Screen เป็นหนังแท้ โอบล้อมด้วยกำบังที่เค้าเรียกว่าสไตล์โคคูน (cocoon) หรือ ดักแด้ ที่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากกว่ากรณีเอนนอน 180 องศา

เก้าอื้สวยดีเนอะ

ปุ่มปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า เงียบ นุ่ม

อ้อ…โรง 2 นี้ไม่มีตู้เย็นให้หยิบสนุกสนานเหมือนโรง 1 นะครับ อยากได้อะไรกดเรียกเอาแล้วกัน

โดยปุ่มกดเรียกพนักงานจะอยู่ใต้น้องอุ่นใจ ซึ่งปกติน่าจะไม่มีอุ่นใจนั่งเป็นเพื่อนเหมือนวันเปิดตัวนี้ เราสามารถเรียกขอใช้บริการต่าง ๆ ได้ไม่ว่าจะน้ำหมด หรือ เอาป๊อปคอร์นเพิ่ม

หมอนปักลาย Embassy Diplomat Screen สวยงาม

เป็นไงบ้างครับเดินดูรอบ ๆ โรงหนังแล้วน่าสนใจหรือเปล่า

ใครสนใจ สามารถโหลดแอพ Embassy Screens มาเช็กรอบหนังกันได้ทั้งบน แอนดรอย์ และ ไอโฟน

บทสรุป

หากจะสรุปเฉย ๆ คงไม่เห็นภาพ ดังนั้นผมขอเปรียบเทียบประสบการณ์กับคู่แข่งใกล้ ๆ กันคือ First Class Cinema ที่ CentralWorld

ก่อนอื่นต้องโม้ว่า ผมดูหนังที่ First class ของ SF World เซ็นทรัลเวิล์ดเป็นประจำ ซึ่งเค้าคิดราคาคู่ละ1,400 บาท กับโรงหนังที่เป็นเก้าอี้แบบปรับเอนนอนด้วยระบบไฟฟ้า มีปุ่มกดเรียกพนักงานได้เช่นกัน โดยราคานี้รวมป๊อปคอร์น และ น้ำอัดลมด้วย

ก่อนหนังฉาย SF First class จะมีเล้านจ์เหมือนกับ Diplomat Screens แต่จะมีบุฟเฟ่ต์อาหารว่างคาวหวาน รวมถึงผลไม้ ให้นั่งทานอย่างสบายใจ ต่างกับ Diplomat Screens ที่เสริฟเป็นชุดด้วยอาหารที่มียี่ห้อมากกว่า

เมื่อเทียบบริการ และ คุณภาพของโรงหนัง กับราคาของทั้ง Diplomat Screens กับ SF First Class แล้ว จุดที่จะทำให้ผมเสียเงินไปดูหนังที่ Diplomat Screen ได้นั่นคือ

1. Diplomat Screens โรงเล็กพอกันแต่ใช้จอใหญ่กว่าของ FIrst Class ซึ่งให้อารมณ์การดูหนังที่สะใจกว่า
2. ห้องกระจกในโรง 1 ที่ทำให้สามารถดูหนังไปด้วยแล้วทำอย่างอื่นไปได้ด้วย ไม่ว่าจะส่งอีเมลล์เรื่องาน หรือ เอาลูกมาแอบหลับ

นี่คือจุดหลัก ๆ ที่จะทำให้ผมเปลี่ยนใจจาก First class ได้ แน่นอนว่าจะต้องเป็นโรง 1 เท่านั้นด้วยสิ 555

สิ่งที่น่าคิดต่อไปคือ เพื่อน ๆ จะไปใช้บริการ Diplomat Screen นี้ด้วยเหตุใด???

ลองหาเหตุผลให้ตัวเอง แล้วซื้อความสุขในการดูหนังด้วยโรงที่มีบริการระดับโรงแรม 5 ดาวดูอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต จะเป็นวันสบาย ๆ หรือ วันพิเศษกับคนพิเศษก็ได้ครับ ผมเชื่อว่าเพื่อน ๆ จะติดใจโรงสไตล์ VIP นี้เหมือนผม

และ เนื่องด้วยราคานั้นแรงอยู่ เชื่อว่าโอกาสที่จะเจอมนุษย์ป้าคงจะน้อยแน่ ๆ

ปิดท้ายกับโปรโมชั่นราคาพิเศษ

ตอนนี้ข่าวแจ้งมาว่า ลูกค้าที่ใช้บริการสินค้าในเครือสปอนเซอร์ของ Diplomat Screens จะได้รับสิทธิส่วนลด 20% ทุกที่นั่ง ทุกรอบภาพยนตร์ สำหรับลูกค้า AIS และลูกค้า เซเรเนด, ผู้ถือบัตรเดบิต บัตรเครดิตในเครือของธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ลูกบ้านโนเบิลทุกโครงการ

แอบแว่วมาว่าลูกค้าบัตรเครดิต ธ. กรุงเทพระดับ ผู้นำ หรือ Platinum Leaders card ได้รับส่วนลดมากกว่า 20% นะจ๊ะ ยังไงเช็คกันอีกทีเพราะผมไม่มี 555

พิเศษเฉพาะลูกค้า AIS Serenade สามรถแสดงบัตรเพื่อใช้บริการเล้านจ์ของโรง 1 พร้อมชุดอาหารว่างได้ฟรีแม้ไม่ได้มาชมภาพยนต์ อ๊ะ…เจ๋งดีครับ เดินช็อปเมื่อย ๆ เข้าไปนั่งเล่นพร้อมจิบชา กับขนมฟรี ๆ

ส่วนใครที่ไม่เคยไป Central Embassy แล้วกลัวดูหนังเสร็จไม่มีอะไรทำ บอกเลยว่าร้านค้าเยอะมากกกก ไม่ใช่มีแต่แบรนด์ไฮโซนะจ๊ะ พวก H&M ก็มีขอบอก

เอาภาพบรรยากาศรวม ๆ ของห้างฯ มาฝากกันด้วย

กระซิบว่า ร้านอาหารอร่อย ๆ เพียบ

ทิ้งท้ายกันด้วยข่าวฝากประชาสัมพันธ์

ดีไซน์ที่เป็นเลิศ

     สำหรับการออกแบบของโรงภาพยนตร์โดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียงที่ได้รับรางวัลมากที่สุด คือ กลุ่มร๊อกเวลล์กรุ๊ป ยุโรป โดยบริเวณโถงด้านหน้าโรงภาพยนตร์ออกแบบด้วยเหล็กสีทองที่ห่อหุ้มด้วยสีทอง  ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการขดตัวของขดฟิลม์ 35 มม.  ซึ่งเป็นที่มาของโลกเซลลูลอยด์ที่ใช้ในการสร้างภาพยนตร์ โถงสีทองอร่ามจะเป็นการออกแบบ แบบไร้รอยต่อพาดยาวจากโถงทางเข้าด้านหน้า บ๊อกซ์ออฟฟิศ กรูเมต์บาร์ และทางเข้าเลานจ์  ซึ่งเป็นห้องรับรองก่อนเข้าชมในทั้ง 5  โรงภาพยนตร์ โดยภาพสีทองอร่ามแสดงความหรูหรา สไตล์ฮอลลีวูด เสมือนต้อนรับท่านสู่เรดคาร์เพทเข้าโรงภาพยนตร์ในงานออสการ์

เลานจ์รับรองได้รับการออกแบบให้ดูสง่างาม ด้วยรูปทรงไข่ที่คล้ายคลึงกับห้องนั่งเล่นของบ้านอัครมหาเศรษฐี ส่วนกลางออกแบบทรงออตโตมันบวกกับบาร์กลมที่ฉาบด้วยหินอ่อนสีเทา ในห้องยังประกอบไปด้วยเตาผิง และตกแต่งด้วยเลเจนด์ของฮอลลีวู้ด เฟอร์นิเจอร์ได้รับการคัดสรรมาในแบบอารท์เดโกบวกกับเก้าอี้หนังถักมือสไตล์เชสเตอร์ฟิลด์ ในขณะที่พรมผืนใหญ่ได้รับแรงบันดาลใจจากลายเสื้อสูทสไตล์อังกฤษ

ที่สุดของความเอ็กซ์คลูซีฟ

     โรงภาพยนตร์ที่ 1 จะเป็นคอนเซปต์ที่สุดของความเอ็กซ์คลูซีฟและโดดเด่นและแตกต่างที่สุดใน 5 โรงภาพยนตร์ ซึ่งโรงที่ 1 จะมี เลานจ์พิเศษส่วนตัว บาร์ส่วนตัว พื้นที่รับรองพิเศษที่มีเวทีพร้อมรับการจัดงานแบบไพรเวทฟังก์ชั่น สำหรับบริเวณโถงโรงภาพยนตร์ ทางสถาปนิกได้ทะลายกรอบของนิยามโรงภาพยนตร์ออกไป  ซึ่งปกติทุกท่านจะชมภาพยนตร์เรียงยาวเป็นแถวๆ  แต่ในโรงพิเศษนี้ เป็นการจัดวางชุดโซฟา  และเคานช์ยาวที่ไม่เหมือนกันทุกที่นั่ง  แตกต่างกันไป เปรียบเสมือนหยิบยืมเฟอร์นิเจอร์ในห้องนั่งเล่นมาวางไว้ในโรงภาพยนตร์ โดยลูกค้าจะสามารถเลือกที่นั่งให้เหมาะสมกับผู้ที่มาด้วย

            โรงภาพยนตร์สามารถจุได้ 33 ที่นั่ง ได้แบ่งประเภทเก้าอี้หลากหลาย ประเภทที่แตกต่าง และโดดเด่น ในแต่ละรูปแบบ โดย คอมบิเนชั่นการนั่งจะจัดวางที่ต่างจากโรงภาพยนตร์อื่นๆ ตามกลุ่ม เป็นมาเดี่ยว คู่รัก หรือสามีภรรยา และ กลุ่มเพื่อน 3 คน และครอบครัวแบบ 4 คน หรือเพื่อนร่วมงาน โดยทุกที่นั่งจะออกแบบให้แต่ละพื้นที่ประสบการณ์ส่วนตัวแตกต่างกันไป  โดยเฟอร์นิเจอร์และบิลท์อินได้สร้างประสบการณ์การชมภาพยนตร์ในแต่ละชุดที่แตกต่างกันไป ประกอบด้วยโซฟาขนาดใหญ่ หมอน ผ้าห่ม และโซฟาเอนนอนแบบยาวเหยีดขา เลานจ์สลีกแชร์ แอซเซซอรี่พิเศษประกอบไปด้วย  ไฟส่องสว่างแบบปรับได้เหมือนในชั้นธุรกิจสายการบิน  เพื่อความสะดวกในเวลาสั่งอาหาร  หรือเครื่องดื่มภายในโรงภาพยนตร์ โต๊ะด้านข้างและ บิลท์อิน ออลยูแคนดริงค์มินิบาร์  ด้านหลังโรงภาพยนตร์  เป็นไพรเวทไวน์คลับที่เก็บเสียง  ซึ่งผู้ชมภาพยนตร์สามารถเข้าไปสังสรรค์อย่างเป็นกันเองระหว่างชมภาพยนตร์ โดยพูดคุยและชมภาพยนตร์ได้ในคราวเดียวกันผ่านกระจกใสเก็บเสียงบานใหญ่ โดยไม่รบกวนผู้ชมภาพยนตร์ในโรง

     โรงภาพยนตร์ที่ 2 -5  ยังคงรูปแบบสุดยอดโรงภาพยนตร์อัลติเมทวีไอพีด้วยการตกแต่งที่หรูหราและแตกต่างกัน  ด้วยริบบ้อนแพดเดิล  และเพดานทาสี ทอง บรอนซ์ เงิน   ทุกที่นั่งเป็นไพรเวทโคคูนซีทที่ให้ความเป็นส่วนตัวที่ห่อหุ้มด้วยหนังแท้  และพื้นที่กลางสำหรับวางโคมไฟดิมแสงและโต๊ะวางอาหารสแน๊กเครื่องดื่มและป๊อปคอรน์ โดยทุกที่นั่งจะมีปุ่มที่สามารถเรียกมูฟวี่คองเซียสที่เสิรฟ์ให้บริการผู้ชมถึงที่นั่ง โดยทุกโรงรวมกันมีทั้งสิ้น 203 ที่นั่ง

บริการคืออันดับหนึ่งในใจเรา

ทางโรงภาพยนตร์จะมีเจ้าหน้าที่  มูฟวี่  คอนเซียส  ที่จะให้บริการมาตรฐานเดียวกับโรงแรม  6  ดาว  เป็นที่ปรึกษาแนะนำภาพยนตร์   และอำนวยความสะดวกดูแลบริการลูกค้าอย่างใกล้ชิด  ที่จะคอยอำนวยความสะดวกให้กับคุณ  ทั้งก่อนชมภาพยนตร์   และตลอดการชมภาพยนตร์ รวมถึงการแจ้งรายละเอียดของภาพยนตร์ รอบฉาย และกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ ซึ่งเป็นบริการพิเศษในการจองตั๋วภาพยนตร์ที่สะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงความสะดวกสบายในการจองตั๋วผ่านระบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นทางเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่น และยังง่ายยิ่งขึ้นด้วยระบบวีไอพี ฮอทไลน์ ซึ่งสามารถให้คุณจองตั๋วชมภาพยนตร์ได้โดยตรงผ่านมูฟวี่คอนเซียส ซึ่งเป็นบริการส่วนตัวของคุณเอง

ประสบการณ์ระดับโลก

     ยิ่งไปกว่านั้น เรายังมีระบบฉายที่ดีที่สุด เรียล ดี เอ็กซ์แอล ระบบฉายใหม่ล่าสุด คมชัดสมจริงและสว่างเป็นสองเท่าของทุกระบบสามมิติระบบเสียงที่ล้ำสมัยที่สุด ทางโรงภาพยนตร์เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมทสกรีน ยังบริการผู้ชมภาพยนตร์ ด้วยเก้าอี้โซฟาขนาดใหญ่ที่สามารถเอนนอนได้ 180 องศา เสมือนเป็นแฟลทเบด ใช้ในชั้นเฟิร์สคลาสของสายการบินชั้นนำ ซึ่งมีความพิเศษคือ เป็นเก้าอี้โซฟาขนาดใหญ่ มีสายยูเอสบี เพื่อชาร์จสมาร์ทโฟนได้

     มูฟวี่ คิวเรเตอร์ ของโรงภาพยนตร์ จะทำการคัดสรรภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ระดับฮอลลีวู้ด และภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลต่างๆ ทั้งรางวัลออสการ์ รางวัลคานส์ และจากกเทศกาลภาพยนตร์ทั่วโลก รวมถึงรางวัลลูกโลกทองคำ ที่คุณจะต้องไม่พลาด

รูปแบบการบริการที่แตกต่าง

     ตั้งแต่ก้าวแรกที่คุณเข้าสู่โรงภาพยนตร์เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมทสกรีน แห่งนี้  มีความพิเศษกว่าโรงภาพยนตร์อื่นๆ ด้วยการให้บริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟ  มีพื้นที่เลานจ์ขนาดใหญ่ ที่ตกแต่งอย่างหรูหราในรูปแบบเรสซิเดนท์ส่วนตัวของซุปเปอร์สตาร์ฮอลลีวูด  และมีเลานจ์ ซึ่งจะทำให้คุณได้รู้สึกถึงความอบอุ่น สะดวกสบาย รวมไปถึงการบริการแบบพิเศษนั้น มาพร้อมกับสิทธิพิเศษของเวลคัม เซท ซึ่งเป็นอาหารซิกเนเจอร์ดิชที่คัดสรรวัตถุดิบอย่างดี พร้อมเครื่องดื่มที่หลากหลายให้คุณได้เลือกสรร โดยทำเป็นซิกเนเจอร์ดิช ที่ออกแบบโดย ดีน แอนด์ เดลูก้า และดิโอเรียนเต็ลช๊อป

สิทธิประโยชน์ที่เหนือยิ่งกว่า

     สำหรับโรงภาพยนตร์ เอ็มบาสซี่ ดิโพลแมท สกรีน ได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์อย่างเป็นทางการจากเอไอเอส, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, โนเบิล, เมอร์เซเดซ เบนซ์, ธนาคารกรุงเทพ, ไฮเนเก้น,เป็ปซี่, สายการบินเอมิเรสต์

     ทั้งนี้ ลูกค้าพาร์ทเนอร์จะได้รับสิทธิส่วนลด 20% ทุกที่นั่ง ทุกรอบภาพยนตร์ สำหรับลูกค้า AIS และลูกค้า เซเรเนด, ผู้ถือบัตรเดบิต บัตรเครดิตในเครือของธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ลูกบ้านโนเบิลทุกโครงการ

ขอให้มีความสุขทุกวันครับ

_________________________________________________________________

หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย

ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ

http://www.facebook.com/xenonartpage?ref=hl