มาแล้วจร้า รีวิวแรกของชุดไตรภาค LG G3 แอนดรอย์เทพตัวล่าจากค่ายแอลจี ที่บอกเลยว่าน่าสนใจมาก ซึ่งก่อนอื่นเรามาดูแกะกล่อง และ เสพความสวยงามของตัวเครื่องสีทองกันก่อน
จากข่าว เปิดตัว LG G3 พร้อมระบบกล้องโฟกัสด้วยแสงเลเซอร์ และ ฟีเจอร์เพียบ เผยให้เห็นลูกเล่นใหม่ ๆ และ การปรับปรุงของ แอลจี ที่ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ เรียกว่าทำให้ผม “คัน” แบบสุด ๆ ไปเลยหล่ะ
พอมาเจออีก 2 ข่าวด้านล่างนี่บอกเลย….ราคากระแทกใจมาก ๆ เพราะหากเทียบสเปคกับรุ่นเทพของค่ายอื่นแล้ว งานนี้ แอลจี ตั้งราคาแบบรู้เลยว่า “ฉันไม่ใช่เบอร์ 1” ดังนั้นการจะมาทวงพื้นที่น้้น ราคาเป็นส่วนสำคัญ
- เผยราคา LG G3 ที่สิงค์โปร พร้อมวันวางจำหน่ายทั้ง 2 รุ่น
- LG G3 เปิดราคา พร้อมของแถมแล้ว ใครเล็งอยู่จัดไป
ทีนี้เรามาดูกันอีกทีว่าท่านจ่ายเงินไป 20,990 บาท ท่านจะได้
- ระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 KitKat
- ซีพียู Quad-core Qualcomm Snapdragon 801ความเร็ว 2.5 GHz
- หน้าจอ 5.5 นิ้ว แบบ IPS ความละเอียด Quad HD 2560 x 1440 (538 ppi)
- ความจุ หรือ หน่ยวความจำในตัวเครื่อง 16 กิ๊ก เหลือให้จริงประมาณ 11 กิ๊ก
- แรม 2 กิ๊ก
- รองรับเมมโมรี่ความจุสูงสุด 128 GB
- กล้องหลัง 13 ล้าน พร้อมระบบกันสั่น OIS
- ระบบจับโฟกัสด้วย Laser
- กล้องหน้าความละเอียด 2.1 ล้าน พร้อมระบบหน้าเด้ง และ แฟรชหน้านวล
- แบตเตอรี่ความจุ 3,000 มิลิแอมป์
- รองรับ 4G LTE
โดย LG G3 จะวางจำหน่าย 5 สีด้วยกันคือ
- สีดำ Metallic Black
- สีขาว Silk White
- สีทอง Shine Gold
- สีม่วง Moon Violet
- สีแดง Burgundy Red
ตัวนี้สารภาพว่าไม่ได้จอง เพราะตอนจะจองเพื่อรับเคส Quick Circle นั้น จองไม่ทัน 555
เดินผ่านไปร้าน TG Fone ที่ เซ็นทรัลเวิลด์ วันศุกร์ที่ผ่านมา พนักงานบอกว่ายังจองทันนะ ได้สีทองพร้อมเคสหน้ากลม (Quick Circle) รับของพร้อมกันทั่วประเทศประมาณวันที่ 30 มิย. หรือ 1 กค.
ยืนคิดสัก 2 วิ แล้วตัดสินใจไม่เอา เพราะวันจันทร์นั้นไม่ได้เข้า เซ็นทรัลเวิลด์ กะว่าวันที่ออกขายใกล้ไหนซื้อที่นั้น
เจ้ากรรม…..วันรุ่งขึ้นคือวันเสาร์ เดินผ่านร้าน TG Fone อีกครั้ง พนักงานจำหน้าได้รีบเดินมาบอกเลยว่า “พี่ ๆ เย็นนี้ของเข้าแล้ว เอาหรือเปล่า”
จะเหลือเหรอ 555 นั่งรอจนมืดค่ำเครื่องมาส่งพอดี จัดสีทองมารีวิวซะ 1 เครื่องอย่าให้เสีย แต่ประสบการณ์เรื่องนี้สรุปได้ว่า เราคงเป็นคนที่จะต้องได้ของแถมห่วยตลอด ถ้าเมื่อวานมันจำไปซะวันนี้ก็ได้ Quick Circle แระ O_o!
จ่าย 20,990 บาท ผ่อนได้ 0% 10 เดือนผ่านบัตรเครดิต ได้ของแถมคือ เคสครอบหลังแท้ LG เหมือนเคลือบด้วยหนัง (ยังไม่ได้แกะดู) พร้อม Power Bank หรือ ที่ชาร์ตแบตสำรองขนาด 5,200 มิลิแอมป์ และ ฟิลม์กันรอย Focus
Power Bank ยี่ห้อ DTECH ความจุเยอะใช้ได้ มีให้เลือก 2 สีคือ ชมพู กับ ส้มแปร๊ดดดดดด
คงไม่ต้องบอกนะว่าเลือกสีอะไรมา
เคสหลังสีน้ำตาลแดง ๆ สวยไปอีกแบบ แต่คงไม่ใช้….อยากเปลือยหลังอวดสีทองงาม ๆ
กล่องของ G3 ทำออกมาได้สวยมากกกกกก
กล่องขนาดกำลังดีทำลายอลุมีเนียมปัดขนแมวหรูหราเป็นที่สุด เรียกว่าดีกว่ากล่องของ G2 รุ่นก่อนแบบฟ้ากับเหว
ด้านหน้าการันตีด้วยตราประทับรางวัลชนะเลิศ Global Mobile Awards 2014 จาก GSMA ในฐานะมือถือ (สมาร์ทโฟน) ที่มีนวตกรรมเด่นที่สุด ว้าววววว อาใจรอชมรีวิวการใช้งานไม่ไหวแล้วหล่ะสิ
รอแป๊ปนะ…สไตล์ผมต้องคั่นด้วย “ภาคกล้องถ่ายรูป” ก่อน
ด้านหลังกล่องไม่ได้บอกอะไรมากนัก เน้นเรื่อง Knock Code ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ แล้วเอาไว้ค่อยคุยกันอีกที
เปิดกล่องออกมาปุ๊ป น้อง G3 สีทองสวย ๆ ก็นอนรอให้เราสัมผัสความหรูหรา และ นวตกรรมเจ๋ง ๆ ที่ แอลจี ยัดมาเต็มแม็ค
รื้อ ๆ ดูแล้ว อุปกรณ์ที่มีมาให้สำหรับเครื่องศูนย์มีดังนี้
- ตัวเครื่อง
- แบตเตอรี่ขนาด 3,000 มิลิแอมป์
- คู่มือขนาดย่อ
- ใบรับประกัน
- สายดาต้า
- หัวปลั๊กชาร์จไฟบ้าน
- หูฟังแบบ InEar
- ซิลิโคนสำหรับหูฟังสำรองอีก 2 คู่ (ต่างขนาดให้เลือกใช้)
ใบรับประกันเล็กจิ๋ว กรอกตอนซื้อให้พนักงานจัดการตามระเบียบ
จากนั้นเค้าจะให้เบอร์มาเพื่อโทรไปลงทะเบียนรับประกันเพิ่มจากเดิม 12 เดือน เป็น 18 เดือนจาก LG ประเทศไทย
ผมยังไม่ได้โทรนะ ติดเสาร์อาทิตย์ ไม่รู้โทรไปแล้วจะเป็นไงมั่ง
คู่มือแนะนำอย่างย่อ หรือ Quick Start Guide เป็นคู่มือเล่มเล็กที่ให้ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการใช้งาน LG G3
สายดาต้า หัวฝั่งนึงเป็นแบบ USB เอาไว้ต่อคอม หรือ อะเดปเตอร์ชาร์จไฟ อีกด้านนึงเป็นแบบ Micro USB เสียบตูด G3 โดยพลัน
อะแดปเตอร์ชาร์จไฟบ้าน เพียงเอาสายดาต้ามาประกอบร่างก็กลายเป็นสายชาร์จได้ทันที
หูฟังแบบ InEar รุ่น QuadBeat 2 ที่น่าจะให้เสียงทรงพลังอลังการงานสร้างพอสมควร
หน้าตาหูฟังที่แถมมาให้ดูดีมีสกุลมาก ๆ โดยหัวจะมีโลโก้ LG ปั๊มอยู่บนพื้นโลหะ
สายหูฟังเป็นแบบแบน ทำให้เวลาพกพาสายจะไม่พันกันแม้จะพยายามขยุ้มสายแค่ไหนก็พันกันยาก
เรื่องพลังเสียงนั้น ใครซื้อมาแล้วเป็นพวกชอบฟ้งเพลงก็รบกวนแวะมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับว่าเสียงดีแค่ไหน พอดีผมไม่ใช่คอเพลง….แต่เป็นคอหนัง
เอ้า….ดูอุปกรณ์กันอย่างรวดเร็วครบทั้งกล่องแล้ว
ได้เวลาพระเอกของเรา LG G3 สีทองสุดหรูเสียที และ เพื่อให้ภาพออกมาสวยงาม ขออนุญาติพา G3 ออกมาถ่ายแบบ Outdoor ที่สนามหน้าหญ้าซะหน่อย
หน้าจอ 5.5 นิ้ว แบบ IPS ความละเอียด Quad HD 2560 x 1440 (538 ppi) ซึ่งนับเป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอ 2K ตัวแรกจากแดนกิมจิ
ตัวเครื่องจับถนัดมือ หน้าจอสวยงามมากกกกกกกกกกก ดูรูปเอาละกันคงไม่ต้องบรรยายอะไรมาก
ด้านหลังฝาปิดแบตเตอรี่วัสดุเป็นพลาสติค แต่เค้าเคลือบด้วยสาร และ กรรมวิธีพิเศษ ทำให้ได้หน้าตา และ ผิวสัมผัสเหมือนใช้อลูมิเนียมปัดขนแมวแท้ ๆ มันสุดยอดมากเลย
โดยสีทองนี้พยายามถ่ายหลายรอบ หลายสถายที่ หลายมุมมาก ๆ เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้เห็นสีทองที่เหมือนตัวจริงที่สุด สุดท้ายก็ได้แดดสวย ๆ ตอนเช้าตรงสนามหน้าบ้านช่วยขับให้สีนั้นสมจริงยิ่งขึ้น
เจ้า G3 นี้ ปุ่มทั้งหมดจะรวมกันอยู่ด้านหลังอย่างที่เห็นในภาพบน
กลุ่มตรงหลางคือ ปุ่ม Power ขนาบหัวท้ายด้วยปุ่มปรับเพิ่ม – ลดเสียง
กลม ๆ ดำ ๆ ด้านบนสุดเป็นกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟรช LED ส่วนดำ ๆ รี ๆ ที่เห็นด้านข้างมันคือ…..แต่น แตน แต๊นนนนน เลเซอร์ช่วยจับโฟกัส ที่เค้าโฆษณาว่าทำให้การโฟกัสของ G3 นั่นเร็วที่สุดในโลก พร้อมทั้งความแม่นยำดุจจับวาง
เอาไว้บทความหน้าเราจะมาลุยเรื่องกล้องแบบเต็ม ๆ กันครับ ตอนนี้เริ่มถ่ายทดสอบไปหลายรูปแล้ว (ประทับใจอีกแล้ว)
เนื่องจากปุ่มทั้งหมดถูกย้ายไปไว้ด้านหลัง ดังนั้นด้านข้างจึงเรียบ ๆ ไม่มีอะไร มีเพียงขอบบาง ๆ ที่ไล่จากหน้าจอแล้วโค้งโอบไปจบกันที่ฝาหลังโค้งมนเท่านั้น
ด้านข้างซ้ายมือของตัวเครื่องจะมีร่องเอาไว้แงะฝาหลัง G3 ออกมา ซึ่งฝาหลังจะบาง ๆ ใช้เขี้ยวล็อคเหมือนยี่ห้อเกาหลีร่วมชาติอีกแบรนด์หนึ่ง
ตรงกลางเป็นเบตเตอรี่ความจุ 3,000 มิลิแอมป์ ซึ่งเท่าที่วันนี้พกออกไปถ่ายรูปทั้งวัน ไม่ได้เล่นเน็ต หรือ โทรศัพท์ ปรากฏว่าตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึงสามทุ่ม แบตเหลือ 62%
ด้านบนมุมขวาเป็นช่องใส่ซิมขนาด Micro SIM ซึ่งเป็นมาตรฐานของแอนดรอย์ทั่วไป ส่วนเมมก็ใช้แบบ Micro SD รองรับความจุสูงสุด 128 กิ๊ก
ด้านบนของตัวเครื่องก็เรียบ ๆ ไม่มีอะไรมากนอกจากรูกลมใหญ่จะเป็นช่องอินฟราเรทสำหรับแปลงร่าง G3 ให้กลายเป็นรีโมททีวีราคาสองหมื่นบาท!!
ส่วนรูเล็ก ๆ ข้าง ๆ กันนั้นเป็นรูไมโครโฟนสำหรับอัดเสียงขณะถ่ายวีดิโอ ซึ่ง G3 นั้นรองรับการถ่ายวีดิโอระดับ UHD ความละเอียด 3,840 x 2,160 พิกเซล
ตูดเครื่องตรงกลางเป็นช่องต่อ Micro USB เอาไว้เสียบสายดาต้าเพื่อโอนถ่ายข้อมูล หรือ เอาไว้ชาร์จไฟ
รูกลมใหญ่เป็นช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.
รูเล็กสุดเป็นไมโครโฟนสนทนาโทรศัพท์
ด้านหน้าส่วนบน ตรงกลางไม่บอกก็รู้ว่ามันคือ ลำโพงสนทนาโทรศัพทเนอะ
ที่ขนาบอยู่ด้านข้างจะเป็นไฟ LED แสดงสถานะ และ เป็นไฟเตือนต่าง ๆ อีกข้างนึงเป็นกล้องหน้าความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซลที่มาพร้อมกับโหมดหน้าเด้ง ที่สำคัญมันมาพร้อมแฟรชหน้าขาวอมชมพูด้วยนะจ๊ะ
ส่วนจะเป็นอย่างไร ติดตามชมในอีกไม่กี่วันข้างหน้าครับ
ด้านหน้าส่วนล่างมีโลโก้ LG เด่น ๆ อยู่บนพื้นสีทองปัดด้าน
ปุ่มควบคุม หรือ ปุ่ม 3 ทหารเสือจะเป็นแบบสัมผัสบนหน้าจอ ซึ่งตรงนี้เราสามารถเลือกตั้งค่าได้ว่าจะเอาปุ่มเมนู หรือปุ่มย้อนกลับไปไว้ด้านซ้าย หรือ ด้านขวา แถมยังเลือกได้ด้วยว่าจะเอาพื้นหลังสีดำเหมือนในภาพ หรือ จะเอาพื้นหลังสีขาว
หน้าจอสวย ๆ คมแต่ไม่บาดตา มาพร้อม UI ใหม่ล่าสุดที่เค้าวิเคราะห์กันมาแล้วว่าทำให้ชีวิตของพวกเราผู้ใช้ G3 นั้นง่าย สบาย และ เข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว
และ จากที่ได้ลองเล่นมา 1 วัน กับ 1 คืน ก็ตอบตัวเองได้ว่า “เออ จริงครับ”
ไอค่อนใหม่ล่าสุดของ LG สวยงาม สบายตา และ ดูไม่เด็ก ๆ เหมือน G2 ที่ผมไม่ชอบเลย ซึ่งจริง ๆ ไอค่อนของ G3 ดูผ่าน ๆ เหมือนจะเปลี่ยนไปไม่มาก แต่โดยรวมให้ความรู้สึกที่แตกต่าง
จากที่ได้สัมผัสครั้งแรกตอนเปิดกล่องเช็คที่ร้าน บอกกับภรรยาเลยว่า “สวยมากกกก” มือถือนะไม่ใช่คน เพราะคนหน่ะชมทุกวันอยู่แล้ว 555
ดีไซน์ด้านหลังโค้งมนอารมณ์เดียวกับ HTC One M8 ทำให้การจับถือกระชับมือเหมือนกัน แต่อาการที่ตอนถือมือเดียวแล้วพยายามจะกดปุ่มด้านข้างแล้วเครื่องพาลดิ้นจะหลุดมือแบบ M8 นั้นไม่มี เพราะไม่ได้กด ปุ่มอยู่ด้านหลังหมดเลย
พูดถึง M8 แล้วก็เลยไปที่เรื่องของน้ำหนักตัวเครื่องด้วยเลย เจ้า G3 นั้นถือแล้วรู้สึกเบาใกล้เคียงกับ ซัมซุง S5 เพราะเป็นพลาสติคทั้งตัว แต่กลับให้ความสวยงามแบบโลหะเหมือน M8 งานนี้เรื่องความสวยงามผมให้ชนะเลิศ (ความเห็นส่วนตัว)
อีกส่วนนึงที่เกลียดมาตลอดคือการเอาปุ่มไปไว้ด้านหลัง ครั้งแรกที่ลอง LG G2 เมื่อปีที่แล้ว ต้องบอกว่า….โคตรไม่ถูกใจ ถึงระดับเกลียดเลยทีเดียว รีวิวเสร็จปุ๊ปขายทิ้งปั๊ป หลังจากนั้นได้ลองแอนดรอย์ที่ปุ่มอยู่ด้านหลังอีกหลายรุ่น ก็เกลียดทุกรุ่น
แต่….G3 นั้นแปลกมาก กลับไม่รู้สึกรำคาญปุ่มด้านหลังแต่อย่างใด อาจเป็นเพราะระบบเคาะหน้าจอแล้วจอติด ที่ LG เค้าออกมาแก้ไขความรำคาญที่ปุ่ม Power อยู่ด้านหลังของรุ่นนี้นั้น พัฒนากว่าเดิมมาก ความแม่นจำ และ ความเร็วในการตอบสนองการเคาะนั้นราบลื่น รวดเร็ว จนลืมไปแล้วว่าปุ่มมันอยู่ตรงไหน แทบไม่ได้ใช้ปุ่มเลย 555
โดยรวมแล้วบอกเลยว่าชอบรูปทรง หน้าตา G3 มากกว่าที่คิด สามารถบอกได้ว่าประทับใจเลยแหละ งานนี้ LG ทำการบ้านมาดีมาก ๆ และ แก้ไขปัญหาหลาย ๆ อย่างจาก G2 รุ่นปีที่แล้วไปเยอะเลย
เอาไว้ติดตาม “ไตรภาครีวิว LG G3” ตอนต่อไปเร็ว ๆ นี้ครับ มาพิสูจน์กล้องที่โฟกัสด้วยแสงเลเซอร์กันว่าม้นจะโดนใจหรือเปล่า
ขอให้มีความสุขครับ
_________________________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย
ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ