ตอนแรกของไตรภาครีวิว ซัมซุง กาแลคซี่ โน๊ต 4 มาตามเสียงเรียกร้องแล้วครับ มาดูว่าจ่ายไป 25,900 บาทได้อะไรในกล่องมาบ้าง พร้อมชมภาพตัวเครื่องสวย ๆ พร้อมสเปค
คราวก่อนเขียน พรีวิว Galaxy Note 4 แบบถึงเนื้อถึงตัว พร้อมวันจำหน่าย และ เสปคเครื่อง ไปให้เพื่อน ๆ ได้ชมรูปร่างหน้าตาของ Note4 กันไปแล้ว หลาย ๆ คนคงอยากรู้เหมือนผมว่า ตัวเครื่องที่สวยงามนี้ในกล่องเค้าให้อะไรมาบ้าง
ตามคำเรียกร้องจากแฟนเพจ….วันนี้ไปสอยตัวจริงมาจาก Power Buy แบบไม่ต้องจอง เดินไปซื้อได้เลยราคา 25,900 บาท ไม่ลดไม่แถมแต่ผ่อน 0% 10 เดือนได้ผ่านบัตร กสิกรไทย, เซ็นทรัลการ์ด, กรุงศรี และ สแตนดาร์ทชาร์เตอร์…..มาย้ำสเปคกันอีกครั้งหนึ่ง
เสปค Samsung Galaxy Note 4
- ขนาด 153.5 x 78.6 x 8.5 มม.
- หนัก 176 กรัม
- หน้าจอ 5.7 นิ้ว Quad HD Super AMOLED ความละเอียด 2,560 x 1,440 พิกเซล
- ซีพียู Exynos OctaCore 1.9 กิ๊ก
- แรม 3 กิ๊ก
- พื้นที่หน่วยความจำในตัวเครื่อง 32 กิ๊ก
- มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android Kitkat 4.4
- กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) ดิจิตอลซูม 8 เท่า
- กล้องหน้า 3.7 ล้านพิกเซล
- เพิ่มเมมได้สูงสุด 64 กิ๊ก
- รองรับ LTE
- แบตเตอรี่ความจุ 3,220 มิลิแอมป์
ตัวกล่องทำจากกระดาษ recycle ที่ผลิตออกมาได้ดูดีมีคุณภาพ คราวนี้เลิกใช้ลายไม้แล้วแต่ใช้เป็นสีน้ำตาล เหมืนอกระดาษกล่องแทนพร้อมเลข 4 ตัวเบ่อเร่อบนกล่อง….รับรองซื้อไม่ผิดรุ่นชัวร์
(ปล. แอบบอกว่าภาพบนนี้ถ่ายด้วย Note4 นะจ๊ะ)
ด้านหลังกล่องมีสเปคคร่าว ๆ ให้ดูด้วย….สะดวกดี
เปิดกล่องออกมาปุ๊ป Note4 นอนแน่นเต็มกล่อง แต่ไม่ต้องกลัวว่าเวลากล่องหล่นเครื่องจะเสียหายนะ เพราะฝาบน และ ฝาล่างที่ครอบกล่องอยู่หนามาก ปกป้องเครื่องได้อยู่แล้ว
จริง ๆ มีพลาสติคปิดหน้าจอที่เห็นในรูปบน IG และ แฟนเพจ ภาพด้านบนแกะติดกันรอยเรียบร้อย
อุปกรณ์ในกล่องมีดังนี้
- ตัวเครื่อง + ปากกา S Pen
- แบตเตอรี่
- ใบรับประกัน
- Quick Start Guide
- สายดาต้า / ชาร์จ
- อะแดปเตอร์ชาร์จไฟบ้าน
- หูฟัง
- ซิลิโคนสำรองต่างขนาด 2 คู่
- หัวปากกา S Pen สีเทา 2 อัน สีขาว 3 อัน
- แหนบคีบเปลี่ยนหัวปากกา S Pen
ใบรับประกันที่ “เล็ก” มากกกก ช่องแต่ละช่องที่เว้นไว้ให้กรอกชื่อ นามสกุลนี่ต้องบรรจงกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะช่องนามสกุลที่สั้นกว่าช่องเขียนชื่อ…..บ่นไปงั้นแหละ 555
Quick Start Guide ที่ปกติไม่ค่อยมีใครอ่าน ซึ่งด้านในจะมีวิธีการใช้งานเบื้องต้นของ Note4 ต่าง ๆ มาให้เล็กน้อย
สายดาต้าเอาไว้เชื่อมต่อกับคอมเพื่อโอนถ่ายข้อมูล หรือ จะเอาไปประกอบกับอะเดปเอตร์เพื่อชาร์จไฟก็ได้
หัวชาร์จไฟบ้านที่จ่ายไฟมาให้ Note4 ประมาณ 2A ซึ่งใกล้เคียงกับหัวชาร์จ iPad เพื่อให้การชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ขนาด 3,220 มิลิแอมป์เป็นไปอย่างรวดเร็ว
หากใครเอาสายชาร์จสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ มาชาร์จก็สามารถทำได้แต่พวกรุ่นเก่า ๆ ที่จ่ายไฟไม่แรงต้องชาร์จนานกว่าจะเต็ม
หูฟัง สมอล์ทอล์ค แบบ InEar สีเงินเงาแว๊บบบบสวยงาม เข้ากับซิลิโคนหูฟัง และ สายสีขายเป็นที่สุด…Love เลย
ซิลิโคนหูฟังสำหรับเปลี่ยนสำรองอีก 2 คู่ 2 ขนาดตามสรีระของแต่ละคน
แหนบ หรือ คีมคีบ มาในแพ๊คพร้อมหัวปากกาสำรองเอาไว้เปลี่ยนอีก 5 อัน เป็นสีขาว 3 อัน สีเทา 2 อัน ส่วนตัวผมจากประสบการณ์ของ Note 3 บอกเลยว่าไม่ค่อยได้ปากกามากนัก หัวเลยไม่เคยเสีย
แต่เจ้า Note 4 นี้มีฟังค์ชั่นของปากกา และ S Note เพิ่มขึ้นมามากมาย…..ต้องลองดูว่าจะได้ใช้หรือเปล่า เพราะปัจจุบัน S Note สามารถซิ้งค์ข้อมูลกับ Evernote ได้เป็นอย่างดี ทำให้เราสามารถแชร์โน๊ตไปยัง iPhone และ BlackBerry ได้อย่างสะดวก
หน้าจอความละเอียดระดับเทพยังเจ็บตากับความคมชัดระดับ QHD คือ ชัดกว่า Full HD เท่าตัวบนหน้าจอ 5.7 นิ้ว Super Amoled ความละเอียด 2,560 x 1,440 พิกเซล ความสวย ความสดของสีไม่ต้องพูดถึง จัดจ้านที่สุดในตลาดแอนดรอย์ตอนนี้
ขนาดตัวเครื่องกำลังดีกับมือใหญ่ ๆ ของผม การใช้งานถ้าไม่สังเกตุดี ๆ แทบไม่ต่างจา Note 3
ตัวเครื่องมีวางจำหน่าย 4 สี คือ ขาว เทา ชมพู และ ทอง ตอนนี้มีแต่สีดำ และ ขาว สีทองน่าจะปลายเดือน พย. ส่วนสีชมพูรอกันยาว ๆ
รอบตัวเครื่องเปลี่ยนจากพลาสติคที่ชอบโดนคู่แข่งกัดเสมอ ๆ มาใช้เป็นขอบโลหะแทน แต่จัดหนักด้วยสีเคลือบตามตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็นขาว เทา ทอง หรือ ชมพู แล้วตัดขอบแบบ Diamond Cut ให้เห็นโลหะเงา…..สวยงาม
สีที่เคลือบเค้าไม่ได้บอกว่าใช้เทคโนโลยีอะไรเป็นพิเศษ เครื่องตัวเองก็ไม่กล้าเอาเล็บขูดดูซะด้วย ^^!
แต่สังเกตุว่าขอบโลหะเงา ๆ นั้นเป็นรอยขนแมวง่ายมาก
ที่ขอบบน – ล่างของตัวเครื่องจะดีไซน์ให้มีดโหนกตามภาพ ไม่รู้มีไว้ทำไร แต่มันสร้างมิติของตัวเครื่องได้ดีไปอีกแบบ ไม่ทึ่อ ๆ เหมือนที่ผ่านมา
ด้วยความที่เป็นขอบโลหะ ปราดแรกที่คิดเลยคือมันน่าจะคม ๆ เหมือน ไอโฟน 5s แต่พอจับจริงแล้วรู้สึกจะคมน้อยกว่า การการเก็บรายละเอียดทำได้ดีทีเดียว
การถือจับถนัดมือ และ ได้ฟิลลิ่งพรีเมี่ยมสุด ๆ ….. อินเลิฟ พร้อมจะอวยฟรีไม่คิดเงิน 555
โดยด้านขวามือของตัวเครื่องจะเป็นปุ่มปรับเพิ่ม – ลดเสียงเหมือน Galaxy ทุกรุ่น
ด้านซ้ายมือของตัวเครื่องเป็นปุ่ม Power
ด้านล่างของตัวเครื่องมีไมโครโฟน ช่องเสียบสายชาร์ต / ดาต้า และ ปากกา S Pen ที่หัวปากกาใส่สีเดียวกับตัวเครื่องมาด้วย
สังเกตุว่าขอบล่างของตัวเครื่องจะโค้งมนเล็กน้อยสร้างมิติให้กับตัวเครื่อง รับกับ “โหนก” ด้านข้าง แถมยังฝังไมโครโฟนบันทึกเสียงไว้ถึง 2 ตัวด้วยกัน ซึ่ง Note 4 จะมีไมโครโฟน 3 ตัวเพื่อรองรับการบันทึกเสียงที่ดียิ่งขึ้น ตัดเสียงรบกวน และ ซูมเสียงได้เวลาอัด จะไม่เจออาการอัดเสียงแล้วเดี๋ยวเบา เดี๋ยวค่อย
ด้านหลังสวย ๆ ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ Note3 คือ เป็นพลาสติคอัดลายหนัง หรือ ที่ผมกัดบ่อย ๆ ว่า “หนังปลอม” นั่นเอง
ปีนี้ Note 4 ปรับลายหนังต่างจากเดิมให้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับสีขาวเหลือบมุก และ เอาตะเข็บ “ปลอม” ออกไป ซึ่งผมว่าทำให้รู้สึกตัวเครื่องเพรียวขึ้น
กล้อง 16 ล้านพิกเซล พร้อมแฟรช LED และ เซ็นเซอร์ตรวจการทำงานของหัวใจ ที่สามารถปรับเป็นปุ่มชัตเตอร์ถ่ายรูปได้ในโหมดกล้องหน้า ทำให้การถ่ายรูปไม่สั่นไหว (รายละเอียดอื่น ๆ ค่อยมาว่ากันอีกทีนึง)
เปิดฝาหลังมาหน้าตาแทบไม่ต่างจากเดิม ให้ความรู้สึกคุ้นเคย ^^
แบตเตอรี่ความจุ 3,220 มิลิแอมป์ พร้อมช่องใส่เมม และ ซิมการ์ด
ด้านหน้ามาพร้อมกล้องขนาด 3.7 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ Beauty Mode และ Wide Selfie ที่จะทำให้การถ่ายกล้องหน้าได้ภาพกว้างขึ้นโดยการหมุนกล้องขณะถ่าย อารมณ์เหมือนถ่ายแบบพาโนรามาของกล้องหลัง ทำให้สามารถเก็บบรรยากาศได้เต็มที่กว่า ได้วิวที่กว้างยิ่งขึ้น ที่สำคัญยัดเพื่อนเข้าไปได้เยอะกว่า
ปุ่มโฮมพร้อมระบบจดจำลายนิ้วมือ ใช้ปลดล็อคหน้าจอ และ เรียกใช้ Private mode เหมือนใน Galaxy S5 และเชื่อว่าหลังจาก Apple เปิดตัวระบบจ่ายเงิน Apple Pay ที่ใช้ระบบจดจำลายนิ้วมือเพื่อยืนยันการจ่ายเงินผ่านมือถือแล้ว อีกไม่นาน ซัมซุง คงทำได้เช่นกัน
ด้วยความที่ขอบกระจกหน้าจอโค้งลงทั้ง 4 ด้านทำให้ฟิลม์ไม่สามารถติดถึงขอบ จะมีช่องเหลือให้ลุ้นอย่างที่เห็น ใครไปติดฟิลม์ก็อย่าไปบ่นคนขายหล่ะ มันจำเป็นจริง ๆ
สำหรับ Smart Cover หรือ เคสฝาพับรุ่นล่าสุดสำหรับ Note 4 ราคา 1,690 บาท ถ้าฟังไม่ผิด เท่าที่เห็นมีสีขาว ฟ้า ชมพู และ ทอง
พอดียังไม่ได้ซื้อมา เลยเอาภาพเก่าจากงาน Blogger มาแปะไว้อีกรอบ
การใช้งาน และ ลูกเล่นก็เหมือนเดิมทุกประการ แต่หน้าตาแอบเปลี่ยนไปเล็กน้อยโดยเพิ่มดีไซน์ “ร่อง” มาให้
ดูแล้วสีทองของซัมซุง มักจะไม่เป็นทองอร่าม แต่เป็นทองเข้ม ๆ อย่างที่เห็นครับ วัสดุเปลี่ยนจากเดิมเช่นกัน
ด้านหลังชัด ๆ อีกมุมนึง สวยหรูกว่าด้านหน้า
ด้านข้างของเคสสีทองเมื่อใส่กับเครื่องสีขาว
ดูแล้วก็ยังลังเลว่าจะซื้อเคสสีอะไรมาใช้ดี เอาเป็นว่าตอนนี้ถือเปลือย ๆ ไปก่อนแล้วกัน
ใครอยากรู้ว่าขนาด หน้าตา จะต่างกับ Note 3 อย่างไรบ้างไปอ่าน Note 3 ปะทะ Note 4 ไหล่ชนไหล่ใครลังเลเข้ามาดู
จากการได้ “เห่อ” ของเล่นใหม่มาครึ่งวัน บอกเลยว่ามันใช้งานลื่นดีมาก หน้าจอสวยจนตกหลุมรัก ส่วนกล้องโฟกัสเร็ว ให้ภาพชัดกว่า Note 3 เล็กน้อย โดยรวมประทับใจมาก
QC แอบมีปัญหาจริง ๆ หรือ การผลิตคงไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่นักตามที่ผู้ใช้งานเจอกันมาหลายเวป เครื่องผมเองมีรอยบุบที่มุมขวาเล็กน้อยมองด้วยตาเปล่าเห็น แต่ไม่ได้เด่นมาก ตอนซื้อไม่เห็น
ส่วนสีที่เลอะ ๆ กันข้างหลังผมก็เป็น ซึ่งคาดว่าเป็นทุกเครื่องเพราะไม่ใช่อาการเลอะจาก QC เป็นมันเกิดจากขั้นตอนการเคลือบสีที่ไม่มีการเก็บรายละเอียดมากกว่า
ซึ่งผมถือว่ารับได้ไม่ได้กระทบต่อการใช้งาน และ เป็นเหมือนกันทุกคน 555 แต่แอบคิดว่าของราคา 25,900 บาท ก็หวังจะได้งานประกอบที่ดีกว่านี้นะจ๊ะ
ส่วนใครที่รอติดตามไตรภาครีวิวตอนต่อไป….จะรีบทำให้จร้า โดยเฉพาะภาคกล้องถ่ายรูป คงจะจัดหนักเหมือนเคย
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ นะครับ
ขอให้มีความสุขกับชีวิต LifeStyle IT ครับ
_________________________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย
ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ
http://www.facebook.com/xenonartpage?ref=hl
มีรายระเอียดดีครับขอบคุณครับ!