ได้มีโอกาศไปชิม O’Zake สาเกบาร์ย่านทองหล่อ กับครอบครัวโดยมีคุณแม่ทานเจไปชิมด้วย งานนี้สนุกหล่ะ เพราะได้รีวิวทั้งซูชิขั้นเทพ และ ฝีมือเจสุดแหวกแนวจากเชฟคนโปรดของผม
วันนี้ขอมาแปลกกับร้านซูชิบาร์ หรือ จริง ๆ แล้วมันคือ สาเกบาร์ ย่านทองหล่อที่เพิ่มผุดขึ้นมาได้เพียง 4 เดือนแต่ได้รับความนิยมจากนักชิมมากมาย ภายใต้ชื่อ O’Zake (โอซาเกะ) โดยครั้งแรกไปทานกับพี่ ๆ เพื่อคุยไป จิบสาเกไป และ คุยเรื่องงานกันไป ปรากฏว่าอร่อยมากกกกก โดยเฉพาะช่วงที่ไปทานนั้นเป็นช่วงเจ มีเพื่อนท่านหนึ่งทานเจ เชฟจึงจัดเมนูเจนอกเมนูให้ชิมกันแบบหลากหลาย ตามของสด และ ไอเดียที่ผุดขึ้นมาตอนนั้น จนผมตั้งใจว่าต้องพาคุณแม่ที่ทานเจทั้งปีมาลิ้มลองให้ได้
*ขอบคุณภาพหน้าร้านจาก bkkmenu.com
วันอาทิตย์ที่ผ่านมาจึงจัดการโทรไปจองเชฟคนเดิม พร้อมที่นั่งหน้าบาร์ชั้น 2 ซึ่งจะเน้นทานอาหารมากกว่า หากต้องการมานั่งชิลด์จิบสาเก กินอาหารตามประสาหนุ่มสาวก็นั่งสบาย ๆ ที่ชั้น 1
สำหรับแฟน ๆ xenon_art ที่เป็นครอบครัวไม่ต้องห่วงนะครับว่าร้านสไตล์นี้พาเด็กเล็กไปจะไม่สะดวก เพราะผมพาลูกชาย 7 ขวบ พร้อมลูกสาว 5 เดือนออกชิมด้วย และ ด้วยการที่เรากินอาหารในเวลาครอบครัว เลยไปกินตั้งแต่ร้านเปิด คือ 6 โมงเย็น เป็นโต๊ะแรกของร้าน กินเสร็จ 2 ทุ่ม พอดีเวลาที่คนทยอยมาจิบสาเก และ คอกเทลกัน เรียกว่าสบายใจได้กับบรรยากาศที่ไม่เหมาะสมกับเด็กที่เป็นคนละช่วงเวลากัน
*ขอบคุณภาพในร้านจาก bk.asia-city.com
การรีวิว และ คะแนน ทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนประสบการณ์ “กิน” ของผมล้วน ๆ และ ผมเป็นคนทานรสจัด หมายถึง หากเป็นแกงจึด แต่ไม่หอมน้ำต้มกระดูก ไม่จืดนำแล้วไปหวานในคอ ผมเรียกว่าไม่อร่อยนะ
ผมชอบตระเวนพาครอบครัวไปทานของอร่อย ๆ มั่นใจใครตามรอยผมไปกิน บอกได้คำเดียวว่าไม่ผิดหวัง
O’Zake
ประเภทอาหาร: อาหารญี่ปุ่น ซูชิบาร์
ที่ตั้ง: ทองหล่อ ระหว่างซอย 15 กับ ซอย 17, สุขุมวิท 55, กรุงเทพ หรือ เอาง่าย ๆ คื เลย J Avenue ไป 10 เมตรอยู่ฝั่งเดียวกันนั่นแหละ โทร 02-712-7555
ติดต่อเชฟ เชน โทร 2 524 1216
คุณภาพอาหาร: 8.5/10
บริการ: 8/10
ชั้น 1 ยังไม่เคยมีประสบการณ์การนั่งทาน แต่ที่ชั้น 2 จากที่ไปทั้ง 2 ครั้ง เชฟ และ เหล่าพนักงานในบาร์ซูชิน่ารักทุกคน แต่พนักงานเสริฟสาว ๆ ด้านนอกดูจะบริการไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก สั่งอะไรไปต้องย้ำ 2 – 3 ครั้ง แต่หากสั่งสาเกจะกุลีกุจอมาก ๆ ตรงนี้ผมเลยตัดคะแนนบริการเหลือเพียง 8 เต็ม 10
เรามาเริ่มจากการชมบรรยากาศภายในร้านโดยรวม ๆ ที่โดนลูกชายแย่งเอาไปถ่ายซะมัวหมดเลย ยังไงดูให้เป็นศิลปละกันนะครับ 555
บรรดาสาเกที่เรียงรายเต็มกำแพง เข้ามาแล้วรู้เลยว่า งานนี้มีเมาแน่นอน
สำหรับครอบครัวผมวันนั้นเดินตรงขึ้นมาชั้น 2 แจ้งพนักงานว่าจองเชฟเชนไว้แล้ว
บรรยากาศชิดล์ ๆ ด้านนอกของชั้น 2 นั่งสบายมาก ยิ่งตอนกลางคืนอากาศเย็นหน่อย มีลมนิด ๆ สบายเลย
ใครชอบ “ดื่ม” จริงจังไปนั่งชั้น 1 ได้เลย เค้ามีบาร์ และ โต๊ะเตี้ยให้นั่งสังสรรค์ พร้อม บาร์เทนเดอร์ คอยบริการ
เคยเห็นญี่ปุ่นเค้าจิบวิสกี้แบบใช้น้ำแข็งก้อนใหญ่ ๆ มาแกะให้เป็นก้อนกลม ๆ จนเต็มแก้วหรือเปล่า ที่นี่เค้ามีด้วยนะอย่าลืมลอง
ปล. เมาไม่ขับ โดนจับติดคุกผมไม่เกี่ยวนะ
เชฟเชน เชฟคู่กายของมื้อเย็นวันนี้ และ เป็นเชฟที่ผมต้องเมมเบอร์เอาไว้เลย ทั้งทำอาหารอร่อย ความคิดสร้างสรร คุยเก่ง แถมชนสาเกแบบไม่มีถอยอีกต่างหาก 555
พูดถึงสาเก เก็บภาพที่ใส่สาเกพร้อมช่องใส่น้ำแข็งทำความเย็นแบบไม่ไปปนเปื้อนสาเกให้เสียรสแต่อย่างใด เวลาจะดื่มก็เอาแก้ไปกดที่แท่งยาว ๆ ตรงส่วนล่าง ง่าย เร็ว ตายแหง ๆ
(ภาพนี้ยังคงเป็นฝีมือลูกชาย)
เอาหล่ะ ดูมาซะเยอะ โม้มาซะแยะ ยังไม่ถึงอาหารเสียที บทความนี้เอาใจคนกินมังสะวิรัต หรือ กินเจก่อน ด้วยบรรดาเมนูอาหารเจที่เชฟรังสรรค์ขึ้นมาจากไอเดียสด ๆ ตามของที่มีในตู้วันนั้น ผสมรวมกับกับแกล้มที่มีในเมนู
จานแรกนี้อร่อยเด็ดมาก เป็นรากโสมหั่นบาง ๆ แล้วนำไปทอดกรอบ โรยด้วยสาหร่าย กรอบ มัน เด็ดมาก ไม่บอกไม่รู้ว่ารากโสมนะเนี่ย
สลัดผักรวมใส่อะโวคาโด้ ที่คุณแม่เห็นในเมนู แล้วสั่งทำเป็นแบบไม่ใส่เนื้อสัตว์ และ ไข่
เต้าหู้เย็นพร้อมแอสพารากัส ราดซอสโชยุสูตรของทางร้าน คุณแม่บอกอร่อยล้ำมาก ๆ
เต้าหู้เย็นอีกแบบนึง ราดซอดพิเศษพร้อมด้วยวาซาบิดอง อร่อยล้ำไปอีกแบบทั้ง ๆ ที่เป็นเต้าหู้เหมือนกัน
ผัดเห็ดรวมโรยหน้าด้วยสาหร่าย อร่อยแบบบ้าน ๆ ดี
เมนูปิดท้ายกับข้าวปั้นไส้เห็นทอดที่ไม่ค่อยถูกใจคุณแม่เท่าไหร่ เพราะน้ำมันเยอะไปนิด ไม่ค่อยเข้ากับอารมณ์ข้าวปั้นที่อยากทานในวันนั้น
มาต่อกันที่อาหารไม่เจหลายอย่างที่สั่งจากเมนูเอา ไล่ดูเพิ่มความหิวกันตามรูปได้เลย ปลาดิบที่นี่สดมาก อร่อยทุกคำ โดยเฉพาะแซลม่อนจานด้านล่างนี้ ลูกชายเบิ้ล 2 กันเลย
แซลม่อนซาชิมิ เนื้อหนา ๆ สด ๆ ที่ลูกชายเบิ้ล 2 จาน
เนื้อวากิวย่างโรยด้วยกระเทียมทอด ราดซอสสูตรของทางร้าน เนื้อวากินนุ่มแล่ชิ้นบาง ๆ ปรุงไม่สุกมากได้รสชาติสุดยอดไปเลย
ท้องปลาแซลม่อนย่าง เมนูเด็ดอีกจานที่เอาเนื้อส่วนท้องติดกระดูก และ ครีบเล็กน้อยให้พอมีที่จับ ย่างไฟกำลังดี เนื้อด้านในไม่สุกมากยังคงความฉ่ำของมันจากเนื้อปลา ประกอบกับความสดใหม่ของเนื้อปลา อืม…..ละลายในปากเลย ยิ่งสั่งข้าวสวยร้อน ๆ อีกจานนึงยิ่งเยี่ยม
อยากลองฝีมือครัวปกติที่นี่ เลยสั่งข้าวแกงกะหรี่หมูทอดมาชิมซะหน่อย อร่อยไปอีกแบบแต่ไม่ได้ล้ำเลิศมากนักหากเทียบกับร้านอาหารญี่ปุ่นอื่น ๆ ในระดับราคาเดียวกัน
เนื้อหมูนุ่ม ชุบแป้งขนมปังทอดกรอบกำลังดีไม่อมน้ำมัน แกงกะหรี่เองก็กลมกล่อมเหมาะสำหรับทุกคน ออกหวาน แต่ไม่เผ็ดแกงกะหรี่แบบที่ญี่ปุ่น
เอาหล่ะ ดูอาหารเจ กับ อาหารสั่งในเมนูกันแล้ว คงถึงเวลามาชมไฮไลท์ กับ ซูชิสุดอร่อยที่พวกผมไม่ได้เปิดเมนูกันเลย เพียงแต่บอกเชฟว่าอะไรชอบ อะไรไม่ชอบ เชฟเชนก็จะจัดมาให้เสร็จ บ้างก็อิงจากเมนูในร้าน แต่ส่วนใหญ่ “ด้นสด” ทั้งนั้ง จัดมาทีละคำครบคน อิ่มเมื่อไหร่ก็บอก ถ้าไม่บอกเชฟจัดมาเรื่อย ๆ นะ
ทำไปคุยไป เพื่อศึกษาว่าเราชอบอาหารสไตล์ไหน เชฟเป็นกันเองมาก ๆ และ ยิ่งเราไปตอนร้านเปิด คนไม่เยอะจึงทำให้เค้าดูแลเราได้เต็มที่
จานแรกผมรีเควสต์เลยว่าอยากกิน ฟัวกรา เชฟจัดให้เป่าไฟจนหอมไปทั้งบาร์
ข้าวปั้นหน้าตับห่าน หรือ ฟัวกรา อร่อยสุด ๆ หอม นุ่ม ไม่ต้องเคี้ยว แถมราดด้วยซอสสูตรพิเศษของเชฟยิ่งขับรสชาติให้กลมกล่อมมาก ๆ
พอสั่งเพิ่มอีกคำนึง เชฟกลัวเบื่อเลยท๊อปด้วยไข่หอยเม่น เพิ่มความหรูหราด้วยทองคำเปลว อูยส์…..สุดยอดมาก ๆ ใครตามรอยไปชิมอย่าลืมสั่งจานนี้นะครับ
หอยเชลตัวเขื่องปรุงสุกวางบนซอสขาว ของคุณภรรยาเพราะบอกเชฟว่าไม่ทานของดิบ อร่อยไม่แพ้จานอื่น ๆ นะ
ปลาแล่ชิ้นบาง ๆ ห่อไข่หอยเม่นโรยด้วยไข่ปลาแซลม่อน จานนี้ยังคงความสุดยอดการผสมผสานรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบ และ รสสัมผัสที่แตกต่างของไข่หอยเม่นที่หอมนุ่ม เนื้อปลาหนึบ ๆ และ ไข่ปลาแซลม่อนที่กัดแล้วแตกดังเป๊าะ
โอโทโระพ่นไฟนิด ๆ เพื่อไม่ให้ดิบเกินไป ท๊อปด้วยไข่หอยเม่น และ คาเวียร์ อีกเมนูสุดยอดของค่ำคืนนี้
หากรักไข่หอยเม่น คำนี้คงต้องบอกว่าสุด ๆ ไปเลยเพราะมันมาแบบเน้น ๆ สดใหม่ไม่คาว อร่อย นุ่ม หอม โอ้ยยยย บรรยายไม่ถูกไปทานกันเอาเองครับ
พอดีไปวันอาทิตย์ ของสดเลยเหลือไม่เยอะ ทำให้ไข่หอยเม่นคำนี้ต้องเอาชิ้นเล็ก ๆ มาเรียงรวมกัน แต่ที่ทานวันแรกเป็นไข่ขิ้นโตนะ
ปิดท้ายกันอุด้งเส้นเล็ก ๆ คลุกเค้าในซอสครีมโรยด้วยโทโระซิชิมิ และ ไข่ปลาแซลม่อน ความเก๋คือเสริฟด้วยถ้วยแชมเปญในปริมาณไม่เยอะ ทำให้ไม่เลื่ยน และ ไม่อิ่มจนเกินไป
ร้านนี้เป็นอีกร้านหนึ่งที่พาครอบครัวไปทานและชอบกันทุกคน ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งเจ ทั้งไม่เจ ประทับใจมาก ๆ กับอาหารที่หลากหลาย บรรยากาศสบาย ๆ โดยเฉพาะคุณแม่ที่หาซูชิเจทานได้ยาก ไปไหนก็สั่งได้แต่ข้าวปั้นไส้ผัก เห็ดผัดเนย อะไรทำนองนี้ มาที่นี่ได้ลองอะไรแปลกใหม่แถมอร่อยทุกจาก ยกเว้นข้าวปั้นไส้เห็ดทอด เพราะมัน และ เลี่ยนไปนิด อย่างอื่น ยกนิ้วให้จนต้องมารีวิวชวนเพื่อน ๆ ไปลองชิมร้านนี้กันดู
ใครสนใจตามรอยไปชิมได้กับร้านอร่อย O’Zake ซูชิบาร์ สาเกบาร์ ซอยทองหล่อ แต่บอกก่อนนะว่าราคาสูงนิดนึงโดยเฉพาะโอโทโระ และ ฟัวกราส์
ขอให้อร่อยครับ
_________________________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย
ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ