รีวิวแกะกล่อง LG G2 เทพแอนดรอย์ QuadCore ตัวล่าหน้าจอ Full HD ราคาแค่ 19,900 บาท

มาช้าดีกว่าไม่มา ไตรภาครีวิว LG G2 เทพแอนดรอย์จากฝั่งเกาหลีจากค่าย LG เพื่อนบ้านของซัมซุงที่ปรับปรุงมาสู้แบบไม่มีคำว่าถอย มันน่าใช้หรือไม่อย่างไรมาดูกัน

เทพแอนดรอย์ตัวนี้ นี้วางขายได้สักพักแล้ว แรก ๆ ข่าวว่าขอขาดด้วยซ้ำ โดยตอนแรกว่าจะไม่รีวิวตัวนี้เพราะไปลองที่ร้านแล้วไม่ชอบการเอาปุ่มไว้ข้างหลัง และ ลืมมันไปแล้ว ล่าสุดเกิดไอเดียจะจะถอย Nexus 5 มารีวิวตามคำเรียกร้องแต่หาเครื่องศูนย์ไม่ได้ เลยนึกถึงเจ้า G2 ที่มีสเปคคล้ายกัน รวมถึงเป็นโรงงานที่ผลิต Nexus 5 อีกต่างหาก อย่างนั้นไปจัด LG G2 มารีวิวสนุก ๆ กันก่อนดีกว่า แถมร้านประจำที่มาบุญครองโทรมาบอกว่ามีเครื่องนอก มือสองสวย ๆ ตัวนึงจะเอามั๊ย

แหม…..จัดมาเลยครับท่าน

ว่าแล้วก็แกะกล่องกันก่อนตามสไตล์ xenon_art ส่วนใครที่แซวไว้บนหน้าเฟสบุ๊คแฟนเพจว่า “ปูเสื่อรอชม Nexus 5” ตอนนี้ชิม G2 กันไปก่อนนะ

LG G2 ราคาค่าตัว 19,900 บาท คุณจะได้

มือถือแอนดรอย์ระบบปฏิบัติการ Jelly Bean 4.2.2
CPU Qualcomm MSM8974 Snapdragon 800 Quad Core 2.26 GHz Krait 400
หน้าจอ 5 .2 นิ้ว ชัดโคตร ๆ แบบ True HD-IPS + LCD ความละเอียด Full HD 1080P 1080 x 1920 pixels
RAM 2GB
หน่วยความจำในตัวเครื่อง 32 กิีก (เหลือให้ใช้เกือบ 25 กิ๊ก)
เพิ่มเมมไม่ได้นะจ๊ะ
Android 4.2.2 Jelly Bean
กล้องหลังความละเอียด 13 ล้าน
กล้องหน้า 2.1 ล้าน
แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh
ซอฟท์แวรเสริมลูกเล่นแปลก ๆ จาก LG ที่ไม่ซ้ำของซัมซุง อย่าง Quick Slide และ Quick Memo

ปล. เครื่องที่ใช้ทำรีวิวนี้เป็นเครื่องนอกความจุ 16 กิ๊กนะจ๊ะ ส่วนสเปคด้านบนเป็นเครื่องศูนย์ไทย

แกะกล่อง LG G2 สีขาว

เริ่มจากหน้ากล่องสีขาวด้านสะอาดตา ที่สำคัญถ่ายรูปง่ายไม่มีไฟสะท้อน ตรงกลางกล่องโลโก้ G2 หลากสีเด่นเป็นสง่า แบบไร้ภาพตัวเครื่องตามกระแส

เห็นกล่องก็รู้เลยว่า LG พยายามคิดต่าง ทำต่างจากคู่แข่งที่ทุกวันนี้ตลาดแอนดรอย์เริ่มน่าเบื่อเพราะทุกคนมีอะไรเกือบจะเหมือน ๆ กันไม่ว่าหน้ากล่อง และ ลูกเล่น งานนี้เห็นหน้ากล่องก็อยากเห็นด้านในแล้ว

ด้านข้างไม่มีอะไรมากไปกว่า LG G2 ตัวเล็ก ๆ

ด้านหลังกล่องมีสเปคคร่าว ๆ ของ G2 พอให้รู้ว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งเน้นที่รูปภาพดูเข้าใจง่าย รายละเอียดไม่เยอะนัก

เปิดกล่องออกมาก็จะเห็น G2 นอนรอแบบเต็มกล่อง แทบไม่เหลือที่เลย

อุปกรณ์ในกล่อง (เครื่องนอก) ประกอบด้วย

ตัวเครื่อง
สายชาร์ต / สายดาต้า
หัวปลั๊กชาร์ตไฟบ้าน
หูฟังแบบ In-Ear
ซิลิโคนหูฟังสำรอง 2 คู่ (ต่างขนาด)
คู่มือ
เข็มจิ้มถาดซิม

สายดาต้าสีขาวหัวด้านหนึ่งเป็นแบบ USB อีกด้านหนึ่งเป็นแบบ MicroUSB ตามมาตรฐานปัจจุบันที่ทำให้เราสามารถใช้สายของสมาร์ทโฟนต่าง ๆ ร่วมกันได้ (ยกเว้น ไอโฟน)

หัวปลั๊กชาร์ตไฟบ้านที่เมื่อเอาสายดาต้ามาต่อก็จะกลายเป็นปลั๊กชาร์ตไฟของเจ้า G2

แน่นอนว่าเครื่องนอก หัวปลั๊กย่อมดูต่างจากเครื่องศูนย์ โดยเครื่องที่ผมได้มาเป็นปลั๊กเหลี่ยม 3 ขา

แม้ขาปลั๊กจะต่างกัน แต่จ่ายไฟเท่ากันที่ 1.6 แอมป์

คู่มือการใช้งานเล่มเล็ก ๆ ในกล่อง

ด้านในมีสอนการใช้งานเบื้องต้น การถอด-ใส่ซิม และ การควบคุมพอสังเขป

ชุดหูฟังสมอลทอล์ค และ ฟังเพลง ที่เป็นสายชนิดแบนต้นตำรับจาก Dr. Dre ทำให้สายไม่พันกัน แถมด้วยปุ่มควบคุมครบ ๆ 3 ปุ่มตามภาพ

หูฟังแบบ In-Ear สีขาวสวยงาม หัวเป็นสีอลูมิเนียมพร้อมโลโก้ LG สวยหรู สำหรับหูฟังนี้ขอชมเลยว่าทำมาได้สวยจริง ๆ เสียอย่างเดียว

ผมไม่ได้ฟังเพลงจากมือถือ หรือ อุปกรณ์พกพา เลยไม่ได้รีวิวใสส่วนนี้ให้เพื่อน ๆ ได้เสพกัน

ซิลิโคนหูฟังอีก 2 ขนาดที่สำรองมาให้เราเลือกเปลี่ยนได้ตามสรีระของหูแต่ละคน

ที่จิ้มซิมพร้อมโลโก้ “G” สำหรับซีรียส์นี้ โดยขนาดของเข็มจิ้มจะเล็กกว่าไอโฟนนะครับ สังเกตุรูที่ข้างตัวเครื่องได้

ดูอุปกรณ์ครบแล้วก็ถึงคราวพระเอกออกโรงแล้วกับตัวเครื่อง G2 ขนาดหน้าจอ 5 นิ้วแบบ IPS แสดงผลโคตรสวยกับความละเอียด Full HD ซึ่งเป็นความละเอียดมาตรฐานของมือถือเทพยุคนี้

ที่สำคัญมันยังมากับไส้เทพคือ Qualcomm QuadCore Sanpdragon 800 ซีพียูที่ดีที่สุดในขณะนี้ กับความแรง 2.26 GHz พร้อมแรม 2 กิ๊กชิลด์ ๆ

ด้านขวาของตัวเครื่องมีช่องใส่ซิม ที่ละม้ายคล้าย ไอโฟน อืม….มันเหมือนเลยแหละ

ด้านซ้ายมือของตัวเครื่องไม่มีอะไรเลย เรียบ ๆ มีเพียงเส้นสีเงินที่เดินขอบรอบตัวเครื่องตัดกับสีขาวเท่านั้น โดยปุ่มทั้งหมดโดนย้ายไปไว้ด้านหลังเครื่องแทน

ด้านหลังสีขาวพร้อมลายในตัว สวยงามสมราคา ด้านบนมีกล้อง 13 ล้านพร้อมไฟแฟรช LED

ใต้กล้องก็จะเป็นปุ่มปรับเพิ่ม – ลด เสียง ซึ่งคือปุ่มที่มีลูกศรนั่นแหละ ตรงกลางที่เห็นมีไฟจะเป็นปุ่ม Power ซึ่งไฟจะแสดงขึ้นมาเมื่อกดปุ่ม และ จะดับไปเองในเวลาประมาณ 2 วิได้

การวางปุ่มไว้ด้านหลังแบบนี้ ทาง LG เค้าบอกว่าทำเพื่อให้ขอบจอบางลง ส่งผลให้ขนาดความกว้างของตัวเครื่องลดลง แต่อืม……จะใช้งานสะดวกไหมหนอ? อันนี้คงแล้วแต่คนหล่ะครับ สำหรับผม โคตร “ไม่ชอบ” เลยแบบนี้

มุมใกล้ ๆ ให้เห็นพื้นผิวของ G2 สีขาว ซึ่งมีลายจุด ๆ ด้านใน ด้านนอกเคลือบเงาแบบเงาแว๊ปไม่ต้องไปเคลือบแก้วแต่อย่างใด ผมว่าสวยดีครับ ไม่ชอบสีด้านเพราะเลอะง่ายโดยเฉพาะเวลาเอาใส่กางเกงยีนส์ แต่หลายคนบ่นว่ารอยนิ้วมือขึ้นง่ายไปหน่อยสำหรับสีดำ แต่สีขาวไม่มีปัญหา

กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมระบบช่วยถ่ายภาพในที่แสงน้อย หรือ OIS (มั๊ง) เคียงข้างด้วยไฟแฟรช LED 1 ดวง เรื่องกล้องนี้เป็นจุดอ่อนของ LG มาช้านานว่าถ่ายแล้วภาพไม่ค่อยคม ออกวุ้น ๆ ชอบกล ส่วน LG G2 ตัวล่านี้จะแก้อาการเดิมแล้วหรือไม่ ติดตามรีวิวภาคกล้องก้นต่อไป

ด้านบนของตัวเครื่องเรียบ ๆ ไม่มีอะไรมาก รูด้านซ้ายที่ใหญ่กว่านั้น น่าจะเป็นช่อง อินฟราเรท เพื่อใช้ร่วมกับโปรแกรม QuickRemote ที่จะแปลงมือถือของเราให้เป็นรีโมททีวีราคาเกือบ 2 หมื่นบาท

รูปทางขวาทีเล็กกว่าจะเป็นรูไมโครโฟนสำหรับอัดเสียงเวลาถ่ายวีดิโอ

ด้านล่างของตัวเครื่อง หรือ “ตูดเครื่อง” ตรงกลางเป็นช่องเสียบสายชาร์ต / สายดาต้า ขนาด MicroUSB ที่สามารถใช้ร่วมกับสายสมาร์ทโฟนตัวอื่น ๆ ได้เลย ขนาบข้างด้วยช่องรู ๆ เหมือนลำโพงนั้น

ช่องด้านขวาเป็นลำโพง ส่วนช่องด้านซ้ายเป็นไมโครโฟนสนทนาโทรศัพท์นะจ๊ะ อย่าคิดว่ามันเป็นลำโพงเสตอริโอหล่ะ

ถัดไปซ้ายสุดเป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.

ด้านหน้าส่วนบนตรงกลางเป็นลำโพงสนทนาโทรศัพท์ ถัดไปเป็นไฟ LED แสดงสถานะที่เราสามารถปรับสีเล่นได้ในหน้า Setting จะให้เตือนอะไร สีไหน ปรับแต่งได้ตามใจ

สุดท้ายเป็นกล้องหน้าความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซลที่มาพร้อม Beauty Mode ฟีเจอร์ที่กลายเป็นมาตรฐานปัจจุบันอีกตัวหนึ่ง ไม่ว่าแอนดรอย์เครื่องแพง หรือ ถูก ใส่มาให้ทั้งนั้น

ด้านหน้าส่วนล่าง LG ไม่มีปุ่มใด ๆ ทั้งสิ้น แต่จะใช้การควบคุม หรือ ใช้ปุ่มบนหน้าจอแทน ซึ่งการใช้ปุ่มบนหน้าจอนี้ทำให้ไม่ต้องเสียพื้นที่บนตัวเครื่องเพื่อวางปุ่ม แต่ใช้หน้าจอที่ยาวขึ้นมาทดแทน แถมบางโปรแกรมสามารถซ่อนปุ่ม 3 ทหารเสีอนี้ได้ ทำให้แสดงผลได้เยอะกว่า

ตรงนี้ผมชอบนะครับ เพราะเวลาจับถือจะได้ไม่ต้องระวังไปโดนปุ่ม back ให้เสียอารมณ์ เหมือนที่ชอบบ่นหลาย ๆ ครั้งที่รีวิวสมาร์ทโฟนแอนดรอย์

ความเจ๋งอีกอย่างหนึ่งของการใช้ปุ่มบนหน้าจอ คือ ระบบของแอนดรอย์ทำให้เราสามารถเลือกปุ่ม และ ปรับเปลี่ยนปุ่มบนหน้าจอให้เหมาะกับการใช้งานของเรา

อีกมุม ชัด ๆ กับรูจิ้มถาดซิม และ ช่องใส่ซิม

วิธีการง่าย ๆ เพียงเอาที่จิ้มซิมของ LG มาจิ้มลงไป ถาดซิมก็จะเด้งออกมา

หากใครคิดว่าเหมือน ไอโฟน ที่สามารถเอาลวดหนีบกระดาษมาจิ้มได้นั้น ขอบอกว่า “ไม่ได้” นะจ๊ะ รูของ LG มันเล็กกว่า งานนี้ใครชอบสลับซิมไป ๆ มา ๆ แล้วใช้ลวดจิ้มที่หาได้ทั่วไปคงต้องพิจรณาหาทางออกแล้วหล่ะ ว่าจะพกที่จิ้มของ LG แบบไม่กลัวหาย หรือ จะหาวัสดุอื่นมาทดแทน

จิ้มแล้วเอาซิมคว่ำหน้าใส่เข้าไปแบบนี้ครับ อืม….รูปมัวไปนิดนะครับ พอดีกล้องไอโฟนผมมันไปจับโฟกัสที่ตัวเครื่องแทนถาดซิม

การใช้งานเบื้องต้น

บอกเลยว่าไม่ได้จับ LG มาเป็นปี เพราะไปเล่นที่ศูนย์ทีไรซื้อไม่ลงสักที ไม่ว่าจะเป็น UI ที่ไม่ชอบ รวมถึงกล้องที่ถ่ายไม่สวย เลยไม่ค่อยได้รีวิว LG เท่าไหร่นัก ก็แหม….ได้เรามันซื้อรีวิวเองนี่นา อุ อุ อุ

พอมาจับตัวนี้แบบเต็ม ๆ ลองเล่นโน่นั่นนี้อย่างเต็มที่เพราะเสียเงินไปแล้วนี่เนอะ ต้องบอกว่า….10 นาทีแรกเกือบปาทิ้งครับพี่น้อง แอนดรอย์อะไรฟร่ะ เล่นยากชิป หาอะไรก็ไม่ค่อยเจอ การตั้งค่า แถมคำสั่งก็งง ๆ ทำเอาจิตตกไปนิดนึง

แต่หลังจากเล่นได้สักพัก เริ่มคุ้นชิน เริ่มรู้หลักการใช้งานในแบบของ LG ก็เริ่มสนุกก้บการใช้งานตัวเครื่องจอใหญ่ ๆ แต่ขนาดเครื่องไม่ใหญ่ สีสรรบนจอสวยงาม เล่นอะไรก็พริ้วไปหมด ลื่นไหลเป็นอย่างดี โดยรวมยังไม่เจออาการไม่ดีแต่อย่างใด นอกจากเล่นเกมไปสักหน่อยด้านหลังเครื่องเริ่มร้อน

จุดหนึ่งที่ต้องการการปรับตัวเป็นอย่างมากคือ ปุ่ม Power และ ปุ่มปรับเพิ่ม – ลดเสียงที่โดนย้ายไปด้านหลัง

ส่วนตัวเลยนะ…….ไม่ชอบอย่างแรง บางจังหวะเล่นเอาเครื่องหลุดมือเลยเวลาเหงื่อออก แถมผมเป็นประเภทชอบปรับเสียงขึ้น ๆ ลง ๆ ด้วย ยิ่งรำคาญ

แต่….ปัญหาเรื่องปุ่ม Power อยู่ด้านหลัง LG เค้าแก้เกมด้วยลูกเล่นใหม่ล่าสุด คือ KnockOn ที่เมื่อเคาะหน้าจอ 2 ที จะเป็นการปลุกหน้าจอ หรือ ดับหน้าจอ ฟังค์ชั่นล้ำ ๆ นี้ทำาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานที่ไม่ชอบปุ่ม Power ที่โดนย้ายไปไว้ด้านหลังแบบผิดธรรมชาติ

การใช้งาน KnockOn ถือว่าสะดวกดี ใช้งาน เล่นไปสักพักก็ติดเคาะจอ เรียกว่าสร้างเทคโนโลยีใหม่มา เพื่อแก้ไขการออกแบบตำแหน่งปุ่มที่แก้ไขขนาดตัวเครื่อง เฮ้อ….อ่านแล้วงงมั๊ยครับท่านผู้ชม

เบื้องต้นประมาณนี้ครับ สำหรับการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร กล้องจะชัดหรือไม่ สุดท้ายแล้วได้ใจผมไปหรือไม่ คอยติดตามชมนะ โดยเฉพาะเรื่องกล้องนี้มีฮาครับ เพราะผมอ่านรีวิวหลายสำนัก ส่วนมากชมเปาะเลยว่าเมพขิง ๆ แต่บางสำนัก (ส่วนน้อย) ติเรื่องกล้องพอสมควร งานนี้ xenon_art จะมารีวิวกล้องแบบไม่มีอวยให้ชมเร็ว ๆ นี้ ว่าเมพ หรือ ห่วย

ติดตามตอนต่อไปที่นี่เช่นเคย

ขอให้สนุกกับอุปกรณ์ไอทีครับ

สเปคอย่างเป็นทางการ LG Optimus G2

	ขนาดตัวเครื่อง	138.5 x 70.9 x 8.9 mm (5.45 x 2.79 x 0.35 in)
	น้ำหนัก	143 g (5.04 oz)

	ชนิดของหน้าจอ	หน้าจอ 5.2 นิ้ว แบบ True HD-IPS + LCD capacitive touchscreen
	ความละเอียดหน้าจอ	1080 x 1920 พิกเซล (~424 ppi pixel density)

OS	Android OS, v4.2.2 (Jelly Bean)
Chipset	Qualcomm MSM8974 Snapdragon 800
CPU	Quad-core 2.26 GHz Krait 400
GPU	Adreno 330

เมมโมรี่การ์ด	เพิ่มเมมไม่ได้
หน่วยความจำในตัวเครื่อง	16/32 GB, 2 GB RAM

กล้องหลัง	13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟรช LED และ ระบบช่วยถ่ายภาพในที่มืด
กล้องหน้า	2.1 ล้านพิกเซล
การถ่ายวิดิโอ	ถ่าย Full HD ที่1080p @60fps, HDR พร้อมเสียงเสตอริโอ