วันนี้เป็นวันที่หลาย ๆ คนรอคอยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ Blackberry เจ้าพ่อสมาร์ทโฟนแบบมีแป้นพิมพ์สุดคลาสสิคที่ยังมีแฟน ๆ เหนียวแน่นทั่วโลก เพราะครบกำหนดที่ Fairfax จะต้องปิดดีลการซื้อหุ้นตามที่เคยได้แสดงเจตจำนงการเข้าซื้อกิจการ
บริษัท Fairfax Financial Group เดิมต้องการซื้อหุ้นทั้งหมดของ Blackberry ออกจากตลาดหุ้น เพื่อแปลงจากบริษัทมหาชนเป็นบริษัทจำกัด หรือ บริษัทเอกชนเพื่อลดแรงกดดันทางธุรกิจ และ เพิ่มความคล่องตัวให้กับแบล็คเบอรี่ในการปรับตัวแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนอันร้อนระอุนั้น
ล่าสุดครบกำหนดการสัญญาว่าจะซื้อในวันที่ 4 พฤษจิกายน นี้ และ ก็เกิดการพลิกล็อค เมื่อทาง Fairfax Financial ประกาศว่าไม่สามารถระดมทุนได้เพียงพอต่อการซื้อหุ้นทั้งหมดที่มีมูลค่าเม็ดเงินสูงถึง 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ แสนกว่าล้านบาท
แต่มีการเปลี่ยนดีล หรือ เปลี่ยนวิธีการเข้าร่วมกิจการแทน โดน Fairfax Financial เข้าซื้อหนี้ของ Blackberry มูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่เชิงหนี้ แต่เค้าเรียก convertible debt ในภาษาของนักลงทุนที่ xenon_ar ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก โดย Fairfax สามารถเปลงเป็นหุ้นได้ในราคา 10 เหรียญ/หุ้น ในอนาคต แถมยังมีสิทธิมีเสียงในบริษัทด้วย
งานนี้อัดฉีดเงินเข้าไป 1 พันล้านเหรียญ แถมมีสิทธิมีเสียงในบริษัท ถูกกว่าเดิมไปตั้ง 3.7 พันล้านแหนะ 555
เมื่อมีประกาศไม่สามารถซื้อกิจการได้ หุ้นของ BBRY ก็ตกลงกราวรูดเพราะนักเก็งกำไรระยะที่หวังกอบโกย ขายหุ้นในราคา 9 เหรียญ ต่างเทขายทิ้งด้วยความผิดหวัง คงเหลือแต่นักลงทุนระยะยาวเท่านั้น
ทันทีที่มีการประกาศการเพิ่มทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ก็ประกาศปลด CEO คนเดิมคือ มร. ทอร์เซน ไฮนซ์ แล้วตั้ง CEO ชั่วคราวคือ มร. จอห์น เฉิน (John Chen) มาดำรงตำแหน่งไปก่อนเพื่อสะสางคณะทำงานระดับ C-level ทั้งหมดที่พิสูจน์แล้วว่า “พลาด” มาตลอดทั้งปี
อ่า…..แล้ว John Chen เป็นใครหว่า หน้าตาจีนมาเชียว
นายจอห์น เชน นั้นเห็นหน้าตาแบบนี้ แต่ประวัติการทำงานไม่เบานะจ๊ะขอบอก เพราะล่าสุดเค้าดำรงตำแหน่ง Director ของ Well Fargo สถาบันการเงิน และ ธนาคารชั้นนำของอเมริกา
แต่ตำแหน่งที่สร้างชื่อเสียงให้ John Chen ในอดีต คือ เค้าเคยดำรงตำแหน่ง Chairman, CEO และ President ของ Sybase บริษัทซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับระบบบริหารจัดการซอฟท์แวร์องค์กร และ สมาร์ทโฟน โดยอาเฉิน ได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบริษัทให้ดีขึ้นจนสุดท้ายเจ้าพ่อกิจการซอฟท์แวร์องค์กรอย่าง SAP มาซื้อกิจการไป
เป็นอย่างไรบ้างกับศักยภาพของท่าน CEO คนใหม่ของ แบล็คเบอรี่ ที่ดูแล้วสายงานเดิมเป็นบริษัทเกี่ยวกับซอฟท์แวร์องกรณ์ ทำให้มีความเข้าใจกับผลิตภัณฑ์ของ แบล็คเบอรี่ อีกทั้งยังน่าจะเข้าใจตลาดสมาร์ทโฟนได้เป็นอย่างดีเรียกว่าประสบกาณ์ไม่ธรรมดา แถมยังบริหาร Wells Fargo บริษัทด้านการเงินอันดับต้น ๆ ของสหรัฐมาแล้ว น่าจะสามารถสะสางการบริหารการเงินของบริษัทได้เป็นอย่างดี
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับ บีบี…..อันดับแรก คงเริ่มปลด ปรับตำแหน่ง และ จ้างงานใหม่ ให้กับคณะกรรมการบริหารบริษัท รวมถึงลูกจ้างทั้งหมดเพื่อปรับฐานบริษัทให้เข้ากับกลยุทธ์ใหม่ที่น่าจะมีการประกาศ หรือ มีทิศทางที่ชัดเจนในเร็ววันนี้
โดย Blackberry Thailand Limited ได้ปิดตัวลงไปเรียบร้อยตั้งแต่สัปดาห์ก่อน โดยเลิกจ้างพนักงานคนไทยทั้งหมดซึ่งเป็นสายงานการตลาด คงเหลือแต่พนักงานฝั่ง sale ที่เป็นคนสิงค์โปร และ อังกฤษ จ้างโดย Blackberry Singapore ที่ยังคอยดูแลตลาดบ้านเราอยู่
ส่วนชุดทำงานใหม่ของ บีบี สำนักงานใหญ่จะเอาอย่างไรต่อไปการเวลาคงเป็นเครื่องพิสูจน์ฝีมือของ CEO ชั่วคราว คนใหม่นี้ และเราคงไม่ต้องรอนานด้วยเพราะเวลาของ บีบี ที่จะต้องปรับตัวเพื่อแข่งขันในตลาดนั้นมีไม่มาก จะมามัวช้าอยู่ไม่ได้
ทิ้งท้ายด้วยวีดิโอ จอห์น เฉิน ในการสัมภาษณ์รายการทีวีมาฝาก
สู้ต่อไปนะ แบล็คเบอรี่ เรายังรัก และ ชอบที่จะใช้นายอยู่
_________________________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย
ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ