แบล็คเบอรี่ คิว5 สมาร์ทโฟนตัวเล็กพริกขี้หนูมันมากับกล้อง 5 ล้านพิกเซล ชัดแค่ไหนมาดูกัน ทำไม xenon_art ถึงเรียกว่าเล็กพริกขี้หนู!!!
Q5 สมาร์ทโฟนบีบีตัวล่าสุดที่หลาย ๆ คนเฝ้ารอ และ ถูกเลื่อนเปิดตัวในไทยครั้งแล้วครั้งเล่า ในขณะที่ต่างประเทศเค้าขายกันไปแล้วนับเดือน แต่ไม่เป็นไร คนไทย รอได้เนอะ และ ระหว่างรอกัน BBClubTH ขอนำเสนอรีวิวยั่วน้ำลายกันไปพลาง ๆ เรียกว่าเตรียมความพร้อมของกิเลส และ ข้อมูล พอเครื่องออกปุ๊ป ก็ไม่ต้องมานั่งหาข้อมูลให้เสียเวลา จัดการไปซื้อกันได้เลย โดยได้ออกรีวิวแรกไปแล้วคือ
วันนี้เรามาต่อกันรีวิวที่ 2 ซึ่งเป็นส่วนที่ผมชอบทำที่สุดนั่นคือ รีวิวเรื่องกล้องนั้นเอง
เริ่มจากวิธีง่าย ๆ ในการเรียกใช้กล้องกันก่อน โดย BB10 นั้น สามารถเรียกใช้งานกล้องถ่ายรูปได้ 2 วิธ๊คือ
1 จากหน้าล็อค แตะไอค่อนรูปกล้องค้างไว้จนกล้องเปิดใช้งาน (หน้าจอจะปลดล็อคอัตโนมัติ
2 จากหน้าล็อค ปลดล็อคหน้าจอโดยการรูดนิ้วขึ้นเหมือนปกติ พอหน้าจอเปิดแล้วแตะไอค่อนกล้องที่มุมล่างขวา
สำหรับผม ผมว่าวิธีที่ 2 เร็วกว่า วิธีแรก
เมนูกล้องงของ Blackberry 5 ก็จะเหมือนกับ BB10 รุ่นอื่น ๆ โดยจากหน้าโปรแกรมกล้องถ่ายรูป มุมล่างขวาจะมี “จุด 2 จุด” นั่นคือปุ่มเมนูแบบมาตรฐานของ Blackberry 10
เมื่อเรียกเมนูแล้วก็จะพบการตั้งค่าง่าย ๆ ไม่กี่อย่างเรียกว่าไม่ซับซ้อนใช้งานได้จริง อันแรกเลยคือ การเลือกกล้องหน้า กล้องหลัง
สังเกตุอันล่างสุด จะเป็นการเลือกสัดส่วนของภาพซึ่งสำหรับ Blackberry Q5 จะพิเศษตรงที่นอกจากจะเลือกสัดส่วน 16:9 และ 4:3 แบบมาตรฐานได้แล้ว ยังสามารถเลือกเซฟภาพแบบแนว ๆ ที่อัตราส่วน 1:1 ได้อีกด้วยเนื่องจากหน้าจอรุ่นนี้เป็นแบบสี่เหลี่ยมจตุรัสนั่นเอง
หากต้องการภาพที่คมชัด ควรเลือกที่อัตราส่วน 4:3 จะดีกว่า 16:3
โหมดการถ่ายภาพ
Normal – โหมดทั่วไป ปรับทุกอย่างเป็น Auto
Stabilization – โหมดกันสั่น
Burst – โหมดถ่ายภาพอย่างรวดเร็ว เป็นการแตะถ่ายภาพค้างไว้ กล้องจะถ่ายภาพไปเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็วจนกว่าจะยกนิ้วออกจากหน้าจอ
HDR – โหมดถ่ายภาพด้วยแสง และ สีแบบไดนามิค ทำให้ภาพออกมาสีชัดขึ้น และ องค์ประกอบภาพโดยรวมสว่างขึ้น หากเลือกโหมด HDR แล้วแฟรชจะถูกปิดอัตโนมัติ ไม่สามารถเปิดทั้ง 2 อย่างพร้อมกันได้
เมื่อถ่ายด้วยโหมด HDR จะมีการ saving ที่นานกว่าการใช้กล้องธรรมดา ซึ่งเป็นปกติของ HDR ในทุกระบบปฏิบัติการ
ถัดมาในส่วนของเมนูกล้อง คือ Scene ที่จะมีให้เลือกตามภาพ ซึ่งปกติผมก้ไม่ค่อยเลือกหรอกครับ เน้นที่ Normal เท่านั้น
การเรียกเมนูการตั้งค่า หรือ Setting ทำได้โดยรูดจากขอบจอด้านบนลงมา โดยการตั้งค่ามีดังนี้
– สามารถสั่งให้เก็บภาพวไว้ในความจำบนตัวเครื่อง หรือ มีเดียการ์ดได้
– สามารถให้ฝังข้อมูล GPS ลงได้ในภาพได้ ทำให้เวลานำภาพไปใช้กับโปรแกรมแผนที่ จะสามารถบอกได้ว่าเราถ่ายภาพนี้ที่ไหน
– HDR Photo Capture จะเป็นการสั่งให้เก็บภาพแบบโหมดธรรมดาเพิ่มเข้าไป หากตั้งเป็น off กล้องจะเซฟเฉพาะรูปที่ถ่ายในโหมด HDR เท่านั้น
ภาพที่ถ่ายด้วยโหมด HDR จะมีคำว่า HDR กำกับอยู่มุมบนซ้ายของภาพ ตามตัวอย่างด้านบน
ในกรณีที่สั่งให้เซฟภาพทั้ง 2 แบบ ตอนดูรูป เราจะเห็นภาพที่มีกำกับว่า HDR และ จะมีเพิ่มมาอีกรูปที่ไม่ได้กำกับตามภาพด้านบน
หากเราแตะไอค่อนรูปกล้อง ข้าง ๆ “จุด 3 จุด” ก็จะเป็นการเรียกโหมดกล้องเพิ่ม คือ กล้องถ่ายรูป กล้องวีดิโอ และ ท้ายสุด Time Shift mode
ผมเอา vdo จากช่อง Official Blackberry Youtube Channel มาฝากถึงวิธีการใช้ Time Shift mode บน Blackberry Q10 กันด้วย
http://www.youtube.com/watch?v=6KMaSIfXr1Y
ชมวีดิโอก็จะเห็นว่าโหมดนี้มีประโยชน์ ใช้ไม่ยาก สามารถทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น และ ในยุคที่บรรดาสมาร์ทดฟนต่างทุ่มฟีเจอร์ล้ำ ๆ เข้าห้ำหั่นกันในตลาดเพื่อครองใจผู้บริโภค Time Shift Mode สามารถต่อกรกับลูกเล่นของ Samsung Galaxy S4 ได้สบาย
อีกส่วนหนึ่งที่ผู้ใช้งาน Blackberry 10 มักจะลืมไป หรือ ไม่รู้ก็คือการโฟกัส โดยเราสามารถเลือกให้กล้องโฟกัสไปที่ใดก็ได้บนหน้าจอ ไม่จำเป็นต้องอยู่ตรงกลางเสมอไป
วิธีการทำได้โดยแตะไปที่กลางกรอบโฟกัสบนหน้าจอ ค้างไว้นิดนึง แล้ว “ลาก” กรอบโฟกัสไปยังที่ ๆ ต้องการ
แต่หากแตะที่หน้าจอตรงที่ไม่ใช่กรอบโฟกัส จะเป็นการถ่ายภาพทันที
เมื่อลากกรอบโฟกัสไปยังจุดที่ต้องการแล้ว ก็แตะที่หน้าจอ ตรงไหนก็ได้เพื่อถ่ายภาพ โดยจะมีเทคนิคเก่าแก่ในการแก้ไขความสว่างของภาพกรณีภาพส่วาง หรือ มืดเกินไป เราสามารถแก้ได้โดยเลื่อนกรอบโฟกัสไปยังจุดที่มืด สว่าง หรือ กลาง ๆ ของภาพ
ตัวกล้องจะปรับแสงให้สมดุลย์มากขึ้น ยังไงไปลองกันดูนะครับ
และ ข้อดีอีกอย่างนึงของ Blackberry Q5 คือ เราสามารถใช้ปุ่ม space bar แทนปุ่มชัตเตอร์เพื่อถ่ายภาพได้เลย ลดการสั่นไหวได้ดีทีเดียว
เอาหล่ะ….ดูเมนูต่าง ๆ กันมาครบแล้ว ถึงเวลาดูภาพจริงที่ถ่ายจาก Blackberry Q5 กัน
ออกตัวก่อนนะว่ารีวิวนี้ เป็นสไตล์ของผมเอง โดยยึดจากนิสัยส่วนตัวของผมที่เน้นง่าย แกะกล่องออกมา ปรับอัตราส่วนของภาพเป็น 4:3, เลือกโหมดกันภาพสั่นไหว และ เลือก Auto Focus เอาไว้เท่านั้นเอง ซึ่งเหมาะกับใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะถ้าต้องตั้งค่า จัดฉากให้สวย โน่นนั่นนี่เยอะ ๆ …..แนะนำไปซื้อกล้องจริง ๆ เหอะ
และ นี่คือ “ข้ออ้าง” ว่าทำไมผมถึงทำรีวิวที่ไม่เน้นการทดสอบภาพ จากการตั้งค่าต่าง ๆ ทั้ง white balance, ISO (และ อื่น ๆ อีกมากมายที่ผมไม่รู้เรื่อง และ ไม่สนใจ)
แถมแต่ละรูปจะถ่ายเพียง 1 – 2 ครั้งเท่านั้น เพราะกล้องมือถือที่ดีต้องพร้อมในทุกสถานะการณ์
เริ่มกันเลย
เริ่มจากมุมเดิม ๆ ที่ทดสอบมาแล้วทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ จะได้เปรียบเทียบง่าย ภาพทั้งหมดปรับโหมด Auto เท่านั้น
มุมนี้ผมชอบมาก ๆ เพราะเป็นมุมลึกที่มีกำแพงทะแยงเข้า ประกอบกับประตูโบราณสีน้ำตาลแปลก ๆ ถัดไปเป็นวงกบประตูสีโอ๊ค (น้ำตาลเข้มผสมแดงนิด ๆ ) คั่นด้วยผนังบุผ้าสีทอง เดินดิ้นทอง จบด้วยกระจกสีชาทอง และ ด้วยส่วนประกอบทั้งหมดนี้ เล่นเอากล้องมึนมาแล้วมากมาย สีจะเพียนไม่เพี้ยนเห็นชัดดีครับ
ภาพทั้งหมดไม่ได้ปรับแต่งภาพใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงย่อขนาดลงเหลือกว้าง 1500 พิกเซล และ ใส่ลายน้ำเท่านั้น เพื่อน ๆ สามารถคลิ๊กเพื่อชมรูปขนาดเต็ม หรือ จะโหลดลงคอมไปดูให้เต็มอิ่มก็ไม่ว่ากัน
เพื่อให้เห็นภาพแบบชัดเจน ผมเอาภาพมุมเดียวกันจากมือถือต้วอื่นมาวางเทียบกัน โดยรูปแรกเป็นภาพจาก แบล็คเบอรี่ Q5 รูปต่อ ๆ ไปเป็น Q10 iPhone 5, Blackberry Z10 และ สุดท้าย Sony Xperia Z เทพกล้อง 13 ล้าน ตามลำดับ
คลิ๊กที่ภาพเพื่อชมขนาดใหญ่ หรือ เซฟลงคอมได้ทันที
จากรูปชุดแรก บอกได้เลยว่า iPhone5 ให้สีกำแพงกรุผ้าไหมดิ้นทองของผมได้ (เกือบ) สมจริงที่สุด ของจริงจะทองกว่านี้อีกประมาณ 50%
ดูมุมหลากสีกันแล้ว ทีนี้มาดูมุมไกลดูบ้าง ให้สังเกตุการให้สี และ ความชัด เวลาถ่ายผ่านกระจกใน และ ไม่ผ่านกระจกใส
ด้านนอกตรงเพดาน จะมีฝ้าประดับ ที่เป็นสีม่วง และ ลายฉลุสีทองดำอยู่ด้วย ดูกันว่ากล้องตัวไหนเก็บรายละเอียดได้ดีกว่ากัน
ชุดที่ 2 นี้ Blackberry Z10 ผมว่าทำได้ดีกว่า โดยเฉพาะสีของผนังสีครีมดานใน และ ลายเพดานด้านนอก
จากภาพชุดทั้ง 2 ชุดด้านบนจะเห็นว่าภาพจาก Blackberry Q5 ทำออกมาได้ดีทีเดียวสำหรับกล้องระดับ 5 ล้านที่อาจหาญมาสู้กล้อง 8 ล้าน แม้ว่าจะแอบดูไม่เจียมตัวไปสักนิด แต่ผลที่ได้ ต้องบอกว่า….ไม่น้อยหน้าใครเหมือนกันนะเฟ้ย <<<<ไม่ได้เชียร์ออกนอกหน้านะจ๊ะ
เช้าว้นเสาร์ ชิลด์ ๆ พาลูกไปซ้อมไดรฟ์ (เหมือนเดิมมันทุกบทความเลยนะ)
เป็นช่วงประมาณ 10 โมงเช้าที่อากาศร้อนได้ใจมาก ๆ ภาพที่ได้ออกมาสว่าง สีสรรสมจริงดี
ถ่ายย้อนออกไปไกล ๆ ดูการจัดระยะ การเก็บรายละเอียด และ การให้สีแบบที่คนยืนในร่มแล้วถ่ายออกไปกลางแจ้ง
กล้องมือถือหลาย ๆ ตัวมักจะติดมืดในส่วนของวัตถุใกล้ตัว เช่น บังแดดที่พื้นสีเขียว ๆ แต่ Q5 ยังสามารถเก็บสีเขียวออกมาได้
ซูมป้ายโฆษณา ด้วยระยะซูมสุด ๆ ของ Q5 ภาพแตกตามระเบียบ
ลูกกอล์ฟ 3 ลูกบนหญ้าเทียม มุมนี้เล่นมันทุกบทความที่เกียวกับกล้อง ใครขยันก็ไปหาบทความเก่าเอารูปมาเทียบกันเอาเอง
ภาพนี้ผมชอบครับ คม ชัด สีสวย และ สมดุยย์แสดงโอเค (ด้วยมุมมองของคนไม่เล่นกล้อง)
ทดสอบชัตเตอร์ก้นหน่อยว่าจะเก็บภาพได้เร็วแค่ไหน และ หยุดภาพได้นิ่งเพียงใด
ภาพที่ได้ออกมาโดยรวมดูโอเค สวยเลยแหละ แต่ชัตเตอร์ทำงานช้าไปนิด ผมกดชัตเตอร์ ตอนลูกเริ่มเหวี่ยงไม้ลงมา แต่ภาพที่เก็บได้เป็นตอนเกือบสุดวง เปรียบเทียบกับกล้องมือถืออื่น ๆ ที่ผมทดสอบมา ส่วนมากสามารถเก็บตอนเหวี่ยงลงมาโดนลูกพอดีได้
มาถึงช็อตเด็ด….ของกินที่เชื่อว่าทุกคนมีภาพอาหารในสมาร์ทโฟนกันทุกคน มันเป็นโมเม้นท์ที่ต้องหยิบโทรศัทพ์มาถ่าย แล้วแชร์ จนเป็นพิธีกรรมกันไปแล้ว
โดยบทความนี้พากันไปชิม Bon Chon Chicken ไก่ทอดสไตล์เกาหลีที่ไปดังถึงต่างประเทศ และ พอเข้าไทยก็มีข้าวเหนียวเสริฟด้วยนะ งงมั๊ย
ปีกไก่ทอดรวมชุดใหญ่ที่สุด ปีกไก่ทอดกรอบนอก นุ่มในราดด้วยซอสเผ็ดแบบเกาหลีที่เผ็ดสู้อีสานบ้านเฮาบ่ได้
เค้าทอดได้กรอบมากกกก และ กรอบนานด้วยแม้ว่าจะราดน้ำซอสก็ยังคงกรอบอยู่จนชิ้นสุดท้ายที่กิน
มาดูหนังชุปแป้งกรอบ ๆ ของไก่ Bon Chon กันใกล้ ๆ อูยส์ส์ส์ส์ หิวเลย
อ้อ…ลืมบอกไปว่า กล้องมันถ่ายใกล้ ๆ ด้วยโหมด auto ก็ชัดดีนะเนี่ย ลืมไปเลยว่ามันแค่ 5 ล้านเอง แบบนี้เค้าเรียก 5 ล้านเทพหรือเปล่า? เพราะชัดกว่า 8 ล้านบางยี่ห้ออีก คริ คริ คริ
เกี๊ยวซ่ากรอบราดซอสเผ็ด อีกเมนูที่กินคนเดียว คนอื่นไม่ยอมกินด้วย เค้าบอกไม่ถูกปากซะงั้น จัดเต็มคราบ จุกครับ
ก่อนจะรู้ว่าไม่มีใครช่วยกินเกี๊ยวซ่า ก็เผลอไปสั่งข้าวผัดกิมจิหมูมาอีกชุด โอ้วววววว อีโน 3 ซองครับเพ่!
ภาพนี้ Q5 ก็ยังคงถ่ายอาหารได้ดีเหมือนเดิม หากใครเคยไปกิน Bon Chon สาขาเซ็นทรัลเวิล์ด จะรู้ว่าร้านไม่ได้สว่างมากนัก แต่ภาพที่ได้ออกมาแสงดีเลยแหละ
กินอิ่มแล้ว พากันไปร้านหนังสือ อ่านหนังสือในมุมเด็กซะหน่อย แหม…โต๊ะ เก้าอี้สีสรรสวยงาม เลยยกมือถือขึ้นมาถ่าย
อะฮ้า มีงานกล้องพอดี เข้ากันดีกับบทความรีวิวกล้อง Blackberry Q5 ของเราอย่างกะรู้
ลองถ่ายกับแสงในห้างกันบ้าง ภาพที่ได้ออกมาถือว่าโอเค เพราะถ่ายแล้วเดินไปเลย ไม่ได้เช็คภาพว่าชัดหรือเปล่า 555 เขินกล้อง DSLR หน่ะ
ลองมุมกว้างดู อืม…มัน “หยุด” การเคลือนไหวได้ดีทีเดียว แถมมิติ และ สีก็โอเค
แอบเดินไปเล็งกล้องใหญ่ ๆ กับเค้าบ้างตามกระแส เห็นฮิตถ่ายรูปกัน
อืม….มีฉากจำลองย่อส่วนให้ลองกล้องกันด้วยตามสไตล์ Sony แวะเข้าไปใช้บริการสักนิด แต่ต้องรอพนักงานเผลอนะ เพราะเค้าเอาไว้ลอง DSLR แต่ xenon_art หยิบ Q5 ขึ้นมาถ่ายเฉย
ยื่นมือถือเข้าไปในฉากขนาดเล็ก แล้วรีบกดถ่ายก่อนพนักงานจะหันมาเห็น…….แชะ
พนักงานยังไม่หันมาดู ขอกดอีกรูปแล้วกัน สวยดี….แชะ!
เอ้อ…ภาพที่ไปมั่วนิ่มใช้ฉากสำหรับ DSLR มันก็ออกมาโอเคนะแม้ว่าจะติด noise ไปนิด แต่ดูสมจริงสมจังดีนะ
ปิดท้ายรายาการกันด้วยกล้องหน้าเช่นเคย แต่คราวนี้ประทับใจกว่าเคยเพราะถ่ายแล้วดูผอม และ หล่อมว๊ากกกก
อุ้มลูกไปด้วย หยิบมือถือมาถ่ายรูปตัวเองไปด้วย เฟี้ยวป่ะ
***ความสามารถเฉพาะตัว ไม่ควรลอกเลียนแบบ***
แหม่ แหมมมม ถ่ายออกมาได้หลอกตาจนต้องกดซ้ำอีกสักรูปนึง นาน ๆ จะถ่ายด้วยกล้องหน้าแล้วดูดีกะเค้าซะที
จบแล้วครับ รีวิวการใช้งานกล้อง แบล็คเบอรี่ คิว 5 กับชีวิตประจำวัน ชีวิตจริง ไม่ต้องจัดทริปถ่ายรูปตามสถานที่ท่องเที่ยวกลางแจ้งให้เสียอารมณ์ ก็แหม ทั้งแสงดี วิวสวย แถมมีพริตตี้พ่วงมาด้วย เพราะไอ้แบบนี้ ใช้อะไรถ่ายก็ออกมาดูดีไปหมดแหละ แต่ถามว่าในชีวิตจริง คุณเอากล้องมือถือถ่ายอะไรมากบ่อยที่สุด
ไม่ใช่ชีวิตประจำวันหรอกเหรอ
เอ้าชมกันจบแล้วรู้สึกเป็นอย่างไรกันบ้าง ชอบ ไม่ชอบ สวยถูกใจหรือไม่กับกล้องระดับ 5 ล้านพิกเซลดี ๆ บนสมาร์ทโฟนแบล็คเบอรี่แบบมีแป้นพิมพ์ ที่ไม่มีอะไรมาแทนกันได้ ถึงแม้ว่าจะต้องยอมสละการเล่นบางแอพที่ต้องใช้หน้าจอใหญ่
สำหรับ xenon_art ก็ แฮปปี้ กับคุณภาพที่ได้ออกมานะ ถ่ายออกมาใช้ได้เกือบทุกรูป ไว้ใจได้
ขอให้มีความสุขกับ บีบี10 ของคุณครับ
_________________________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย
ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ