แกะกล่อง Galaxy Note 8 แท็ปเล็ตแอนดรอย์ QuadCore จอ 8 นิ้ว โทรศัพท์ได้ ราคา 15,200

วางจำหน่ายกันไปเมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา กับ Samsung Galaxy Note 8.0 รหัส N5100 ทั่วไทย ราคา 15,200 บาท

มันคือ Galaxy ที่ไม่รู้จะเป็นโทรศัพท์ขนาด 8 นิ้ว หรือ เป็น tablet ขนาด 8 นิ้วที่โทรศัพท์ได้กันแน่

วันนี้มาชมแกะกล่อง ดูหน้าตา ดูสเปคของมันตามสไตล์ xenon_art กัน

ผมเคยเกริ่นเกี่ยวกับ Samsung Galaxy Note 8 ไปแล้วจากบทความ ซัมซุงเปิดตัว Galaxy Note 8 นิ้ว โทรศัพท์ได้ พร้อมสเปค

ซึ่งตอนนั้นก็ยังคาใจว่า ซัมซุง จะเอายังไงกับชีวิต พี่ท่านจะลองทำมันทุกขนาดกันเลยมั๊ย แล้วขนาดไหนขายดีก็จะเอามาโปรโมทว่าเป็นผู้นำตลาดขนาดนั้น ขนาดนี้ เหมือนที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วกับ Galaxy Note มือถือขนาด 5 นิ้วพร้อมปากกา

และ Galaxy Note 8 ตัวนี้ก็เป็นการต่อยอดจาก Galaxy Note นั่นเอง แต่มีการปรับเสปคให้ต่ำลง ขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้น เพื่อทำราคาไม่แพง โดยจากราคา และ ขนาดนั้น คงกะจะเอามาตีกับ iPad Mini เต็ม ๆ

สำหรับ Galaxy Note 8.0 นี้ เราจะได้

– สเปคความแรงเหมือน Galaxy SIII

– ปากกาเหมือน Note II

– รูปทรงคล้าย SIII ผสมพันธ์กับ Note II แต่ใหญ่บวมกว่า

– จอใหญ่ 8 นิ้ว แต่ไม่ใช่ AMOLED นะ เป็นจอ TFT 1280×800 ธรรมดา

– วัสดุพลาสติคเหมือนกัน การจัดวางทุกอย่างเหมือนกัน แต่แบตใหญ่กว่าเยอะ

เครื่องที่ผมซื้อมารีวิวนี้ มีขนาดความจุ 16 จิ๊ก เครื่องศูนย์ รองรับทุกค่ายท้้ง AIS, Dtac และ TrueMove

ว่าแล้วมาชม “แกะกล่อง” กันดีกว่า ว่าหน้าตา รูปร่างเป็นอย่างไร และ อุปกรณ์ในกล่องมีอะไรบ้าง

ด้านหน้ากล่องสีน้ำตาล ผลิตจากวัสดุรักษาสิ่งแวดล้อม

ตอนผมซื้อ ได้คูปองส่วนลดค่าอุปกรณ์ 500 บาท สามารถใช้ได้ที่ศูนย์ซัมซุงด้วย

คู่มือแบบง่าย ๆ ที่แนบมากับกล่องนอกเหนือจากคู่มือ แบบมาตรฐานที่ไม่มีคนอ่าน

คู่มือแบบนี้น่ารัก น่าอ่านกว่าเยอะ ยอมรับเลยว่าซ้มซุงประเทศไทยเก็บรายละเอียดดีจริง ๆ

หน้าตาคูปองส่วนลด รายละเอียดดูตามภาพเลยครับ

ด้านหลังมีสเปคคร่าว ๆ ให้ดูด้วย สำหรับ Note 8.0 นั้นรองรับทุกค่าย ไม่ต้องซื้อแยกความถี่เหมือน แกแลคซี่ แกรนด์ แต่อย่างใด

รุ่นนี้มีความจุ 16 จิ๊ก แต่….เหลือให้ใช้จริงเท่าไหร่ รอดูท้ายบทความครับ

หมึกที่ใช้พิมพ์ทำมาจากถั่วเหลือง….รักษ์โลกจริง ๆ

เปิดกล่องออกมา เห็น Galaxy Note 8.0 นอนแน่นกล่องกันเลยทีเดียว แบบนี้หากถือกล่องหลุดมือ มีเครื่องบุบเอาง่าย ๆ

หน้าตาเครื่องนอน “เต็ม” พร้อมกันรอยด้านหน้า สกรีนลาย สาธยายสรรพคุณเสร็จ

พอยกถาดรองเครื่องออก ก็จะเจอบรรดาอุปกรณ์เสริมดังนี้

1 คู่มือแบบมาตรฐาน พร้อมใบรับประกัน+เงื่อนไข

2 สายดาต้า / สายชาร์ต

3 ปลั๊กชาร์ตไฟบ้าน

4 หูหังสมอล์ทอล์คแบบ In Ear

5 จุกหูฟังขนาดต่าง ๆ สำรองอีก 3 คู่

คู่มือ และ เอกสารเงื่อนไขการรับประกัน ที่พิมพ์ได้ตัวเล็กมากกกกกกกกก ใครจะอ่าน

เท่านี้ยังไม่พอ ใบรับประกันที่ให้กรอก จะเล็กไปไหนครับ

หัวปลั๊กชาร์ตไฟบ้าน ที่เมื่อนำเอาสายดาต้ามาเสียบเข้าไปทางช่องนี้ ก็จะกลายเป็นสายชาร์ตครบชุด

หัวปลั๊กจ่ายไฟเข้า กาแลคซี่ โน๊ต 8 ที่ 2.0 A. ซึ่งจ่ายไฟเกือบแรงเท่าไอแพดเลย (ไอแอพจ่ายไฟออกที่ 2.1 A.)

สายดาต้า และ สายชาร์ต ในเส้นเดียวกัน ทำทุกหน้าที่ โดยหัวมีขนาดมาตรฐานสมาร์ทโฟนปัจจุบัน คือ ด้านหนึ่งเป็นแบบ USB อีกด้านหนึ่งเป็นแบบ Micro USB

สามารถนำไปใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้เพียบ

หูฟัง และ สมอล์ทอล์ค โดยจะเป็นแบบ In Ear หรือ แบบจุกเสียบเข้าไปในรูหู เพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก

มีจุกซิลิโคนอีก 3 คู่ 3 ขนาดมาให้เลือกเปลี่ยนตามสรีระหูของเราด้วย

รูใหญ่ หรือ รูเล็ก เลือกเอา

มาถึงพระเอกของงานแล้วกับ ซัมซุง กาแลคซี่ โน๊ต 8.0

หน้าตาละม้ายคล้าย Note II ผสมพันธ์กับ SIII แล้วได้เจ้าตัวนี้ออกมา สัมผัสแรกที่ผมลองจับในศูนย์ซัมซุง ผมบอกกับตัวเองว่า “โหวววว หน้าตาหน้าเกลียดมากกกก”

ทรงพิกลพิการ จะโค้งก็ไม่ จะเหลี่ยมก็ไม่อีก แถมขอบรอบเครื่องใหญ่มาก – “จะใหญ่ไปไหนครับ”

แต่พอตัดสินใจซื้อมา กลับมาถ่ายรูปทำรีวิว จับไปจับมารู้สึกว่า “ก็โอ นะ” – หรือ เสียเงินไปแล้ว เลยรู้สึกดูดีหว่า????

สรุปเบื้องต้นว่า หน้าตาจับครั้งแรก “รับไม่ได้” แต่จับนาน ๆ แล้ว “ก็โอเคร” ไว้เดี๋ยวเอามาเทียบกับ iPad Mini อีกทีนะ

ด้านหลังพลาสติคล้วน ๆ พร้อมกล้องขนาด 5 ล้านพิกเซล ไม่มีแฟรชนะจ๊ะ

โลโก้ซัมซุง หราอยู่กลางเครื่อง ไม่สามารถเปิดฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตได้ แต่ไม่ต้องห่วงครับ เครื่องนี้แบตมีความจุ 4,600 mAh เยอะสะใจ

ด้านขวาของตัวเครื่องเรียบ ๆ ไม่มีปุ่มอะไร นอกจากช่องใส่ซิม กับ ช่องใส่เมม

ช่องด้านบนขวา เป็นช่องใส่เมม

ภาพที่แสดงการใส่เมมที่เห็น เป็นภาพที่สกรีนลงบนแผ่นกันรอยหลังของตัวเครื่อง หากเราลอกออกก็จะเป็นฝาหลังขาว ๆ ธรรมดา

ช่องด้านล่างขวา เป็นช่องใส่ซิมการ์ดขนาด Micro SIM ซึ่งถือเป็นขนาดมาตรฐานสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง จากบนลงมาเป็นปุ่ม เปิด – ปิด เครื่อง

ถัดลงมาเป็นปุ่มปรับเพิ่ม – ลดเสียง และ สี่เหลี่ยม ๆ ดำ ๆ ถัดลงมาคือช่อง อินฟราเรท ที่สามารถแปลงร่าง Galaxy Note 8.0 ให้กลายเป็นรีโมททีวีได้เลย

มุมลางสุด เป็นที่อยู่ของปากกา S-Pen อันเลื่องชื่อ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ผู้ใช้งานตัดสินใจเลือกซื้อ ซัมซุง นี่แหละ

ช่องเสียบปากกา S-Pen ตรงมุมมีแง่งยื่นมาเล็กน้อย ทำให้เกี่ยวปากกาออกมาง่าย

พอดึงออกมาปุ๊ป

หน้าจอจะเปิดขึ้นมา และ เข้าโปรแกรมจดโน๊ตทันที ไม่ว่าคุณจะปิดหน้าจออยู่หรือไม่

ปากกา S-Pen แบบใกล้ ๆ

ปุ่มกด และ หัวปากกา ใช้งานเหมือนกับ Galaxy Note คือ กดปุ่มเพื่อเรียกคำสั่งเพิ่ม หรือ แคปหน้าจอ

หัวปากกา เวลาเขียน กดหนัก กดเบาก็จะได้เส้นหนา เส้นบางตามแรงกดของเรา

อีกด้านของปากกา S-Pen ที่เห็นดำ ๆ ตรงปลายด้ามปากกา ไม่ใช่รอยเลอะนะครบ มันเป็นลูกศรบอกให้เราเสียบไปไหน

ด้านบนของ Galaxy Note 8.0 เรียบ ๆ ไม่มีอะไรนอกจากรูเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม

ตัวเครื่องสีขาว เป็นพลาสติคทั้งเครื่อง แต่สันขอบรอบเครื่อง เป็นพลาสติคเคลือบสีอลุมีเนียมปัดด้าน ตัดกันดูแล้วได้ความหรูหราสวยงาม

แต่เวลาจับจริง ๆ จะรู้สึกได้เลยว่ามันคือ แท็ปเล็ตพลาสติค ซึ่งถ้าหากเราซื้อเคสมาใส่เวลาสัมผัสก็จะได้อีกอารมณ์นึง

ด้านล่าง หรือ ตูด เครื่อง มีลำโพงคู่ คั่นกลางด้วยช่อง Micro USB เอาไว้เสียบสายดาต้า / สายชาร์ต

ด้านหน้าส่วนบน ตรงกลางก็จะเป็นลำโพงสนทนา ถัดไปก็คือ เซ็นเซอร์ และ กล้องหน้า 1.5 ล้านพิกเซล

ด้านหน้าส่วนล่างตามสไตล์ตระกูล Galaxy คือ มีปุ่ม “โฮม” คั่นกลางขนาบซ้าย – ขวา ด้วยปุ่มเมนู และ ย้อนกลับ “Back”

เวลากลางคืน ไฟตรงปุ่มเมนู และ ย้อนกลับก็จะติดจขึ้นมาทำให้เรากดได้ถนัดขึ้น ซึ่งทั้ง 2 ปุ่มนี้เป็นปุ่มกดแบบสัมผัส

ใครที่เคยใช้สมาร์ทโฟนซัมซุงมาคงจะรู้ดีว่า เวลาจะเปิดหน้าจอก็แค่เพียงกดปุ่มโฮมให้หน้าจอสว่างขึ้นมา แล้วรูดหน้าจอเพื่อปลดล็อค 

ขนาดอยู่ในมือ ถ้าคิดว่ามันเป็นแท็ปเล็ต มันมีขนาดกำลังดี น้ำหนักไม่มากเกินไป แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับว่าเราซื้อเคสอะไรมาใส่ เชื่อว่าน้อยคนที่จะถือใช้แบบเปลือย ๆ

รูปทรงของมันดูแปลก ๆ เพราะเหมือน Galaxy Note II ฉีดสเตอรอยด์ ขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมทั้งส่วนโค้งทั้ง 4 มุมก็โค้งมากขึ้นด้วย ตรงนี้แหละที่ผมไม่ชอบเพราะทำให้เครื่องดูอ้วน

ถ้าใช้ทรงนี้ แต่มุมทั้ง 4 ให้โค้งน้อยกว่านี้ จะดูเครื่องน่าใช้กว่านี้ (ความเห็นส่วนตัวนะครับ)

หน้าจอ TFT แบบ Super Clear LCD ไม่ใช่ Super AMOLED เหมือนรุ่นแพง ๆ ระดับสองหมื่นบาท

ความละเอียดหน้าจอที่ 1280 x 800 ให้ความสว่างสบายตา สีสรรพอใช้ได้ 

ความชัดของหน้าจอ

– ถ้าตั้งหน้าจอโหมด Easy ไอค่อนจะใหญ่ และ ฟังค์ชั่นการควบคุมจะเน้นใช้งานง่าย แทบไม่ต้องเรียนรู้ แต่ภาพทั้งหมดของไอค่อนต่าง ๆ จะดูแตก ๆ ไม่คม

–  ถ้าตั้งหน้าจอโหมด Basic ซึ่งคือโหมดมาตรฐาน หน้าจอจะสวยงาม คมชัดกว่า 

ตัวนี้มากับซอฟท์แวร์รุ่นล่าสุดของแอนดรอย์ เวอร์ชั่น 4.1.2 Jelly Bean ใหม่ที่สุดในโลก

สังเกตุหน้าตาของเมนู จะใช้การแสดงผลแบ่งซ้าย – ขวา เหมือน Galaxy Tab ที่เป็นแท็ปเล็ต 

ไม่ใช่การแสดงผลลงมายาว ๆ เหมือน Galaxy Note หรือ Grand Duos

ด้วยความที่เป็นซัมซุง และ ประสบการณ์จาก Galaxy Grand Duos ทำให้สิ่งแรกที่ต้องเช็ค คือเมมในตัว

เพราะ Galaxy Grand Duos จากกระทู็ รีวิว แกะกล่องซัมซุง กาแลคซี่แกรนด์ดูโอ แอนดรอย์ 5 นิ้ว ใส่ 2 ซิม ราคา 11,900 บาท

สเปคบอกมีเมมในตัว 8 จิ๊ก แต่เอาเข้าจริง ๆ เปิดเครื่องมาปุ๊ป มีให้ใช้จริงเพียง 4 จิ๊ก เพราะหน่วยความจำในตัวเครื่องที่ ซัมซุง โฆษณาไว้นั้น เป็นเมมรวมของเครื่องก่อนถูกหั่นออกไปใช้งานเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ และ ซอฟท์แวร์ที่ยัดเข้าไป

สำหรับ Galaxy Note 8.0 รุ่น 16 จิ๊กนั้น มีเมมเหลือให้เพียง 9.78 จิ๊กเท่านั้น 

แต่…..สังเกตุการนำเสนอดี ๆ อีกครั้งหนึ่ง บรรทัดสุดท้าย เมมที่เหลือให้ใช้จริงแบบ ใช้ได้จริง ๆ มีเพียง 9.26 จิ๊กเท่านั้น เพราะมีทั้งบรรดาแอพ และ เพลง และ บรรดาไฟล์มากมายของซัมซุงที่ยัดมาโดยใช้ ความจำในตัวเครื่องที่บอกว่ามีให้เรา 16 จิ๊ก

ดังนั้นหากตอนคิดจะซื้อ คำนวณไว้ว่าจะใส่อะไรลงไปในเมมของตัวเครื่องบ้าง กรุณาคำนวณจาก 9 จิ๊ก ไม่ใช่ 16 จิ๊ก ตามที่โฆษณา

สเปคอย่างเป็นทางการจากเวปซัมซุง

ที่มา http://www.samsung.com/th/consumer/mobile-devices/galaxy-note/galaxy-note/GT-N5100ZWATHL-spec

ความรู้สึกแรกกับ Galaxy Note 8

ผมมองว่า Note 8 เป็นแท๊ปเล็ต ไม่ใช่โทรศัพท์ เพราะการเอามาโทรนั้น โค ตะ ระ ไม่สะดวก ด้วยขนาดของมันเวลาเอามาแนบกับหู อีกทั้งส่วนตัวไม่ชอบใช้สมอลทอล์ค หรือ หูฟังบลูทูธ แต่ถ้าเพื่อน ๆ รับได้ ก็เอามาโทรศัพท์ได้นะ ไม่ผิดแต่อย่างใด

รูปทรงภายนอก เห็นครั้งแรก บอกกับตัวเองว่า เอ่อ….หน้าตาน่าเกลียดมาก ราคานี้ไปซื้อ iPad Mini ดีมั๊ย แต่ด้วยความที่มันเป็นแอนดรอย์ 8 นิ้ว QuadCore ตัวแรก เลยทำให้มันน่าสนใจที่จะซื้อมามารีวิวให้ชมกัน

เลยตัดสินใจซื้อมาเพราะหากไม่ได้คิดจะเอามารีวิว ผมคงไม่ซื้อแน่ ๆ

แต่….นี่เป็นเพียงความรู้สึกแรกที่ได้เห็นเท่านั้น ของอย่างนี้มันต้องลองเล่นครับ ถึงจะบอกว่ามันตอบโจทย์ของผมได้มากน้อยเพียงใด หากจะเอามาใช้เป็น แท๊ปเล็ต (Tablet) ไม่ใช่โทรศัพท์

สำหรับ 2 ชั่วโมงแรกกับการลองโน่น ลองนี่ อัพเดท software ล้างเครื่องเช็คความจุในตัวเครื่อง กดโน่น นั่นนี่

การตอบสนองของตัวเครื่องเรียกว่าลื่น เร็ว สมกับเป็น QuadCore จริง ๆ 

ในส่วนของหน้าจอการแสดงผลก็โอเคนะ แต่เอาไว้รวบไปรีวิวการใช้งานทีเดียวจะดีกว่า

ราคานี้ สเปคนี้ คุณภาพแบบนี้ น่าจะทำให้เพื่อน ๆ คิดหนัก และ มีคำถามคาใจแน่ ๆ ว่า

“ซื้อ Note 8 หรือ iPad Mini ดีกว่า?”

เพราะราคาค่าตัว 15,200 บาท มันเท่ากับ iPad Mini 16 กิ๊ก 3จี เป๊ะ ๆ เลย

ขอลองใช้สักนิด แล้วจะมาเล่าให้ฟังว่ามันใช้ดีมั๊ย

ติดตามชมเร็ว ๆ นี้ที่นี่เหมือนเดิม

บทความอื่น ๆ ของ Galaxy Note 8.0

– รีวิว Samsung Galaxy Note 8.0 ภาคทดสอบการใช้งาน มีลูกเล่นอะไรบ้าง

– รีวิว Samsung Galaxy Note 8.0 ภาค กล้องถ่ายรูป

– รีวิว Samsung Galaxy Note 8.0 ภาคการดูหนัง เด็ดจริง อะไรจริง

– บทสรุป Galaxy Note 8.0 11 ดีมั๊ย มีอะไรดี มีอะไรห่วยบ้าง

___________________________________________________________________

หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ

http://www.facebook.com/xenonartpage?ref=hl