และแล้วเจ้า Blackberry Curve 8520 รุ่นยอดฮิตก็อายุร่วม 2 ขวบปีเข้าไปแล้ว ปีนี้ทาง RIM จึงออก Curve รุ่นใหม่ออกมาให้แฟน ๆ Blackberry ได้เป็นตัวเลือกในการเลือกเปลี่ยนเครื่องใหม่ โดย Curve รุ่นต่อไปนี้จะเป็นรุ่น Curve 9320 และ 9220 ซึ่งสเปคทั้งหมดจะคล้าย ๆ กัน ต่างกันที่ฟังค์ชั่นบางส่วน

วันนี้ขอนำเสนอรีวิว Blackberry Curve 9320 ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ 3G กัน ตามมาดูว่าหน้ามันพัฒนาต่อยอดจาก Curve ตัวเดิมอย่างไรบ้าง

Blackberry รุ่นยอดฮิตที่เจาะตลาดกลุ่มคนวัยรุ่น และ คนทำงานที่ต้องการแชต อีเมลล์ และ เล่นบรรดาโซเชียลเน็ทเวิร์คต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Whatsapp อย่างซีรียส์ Curve นั้นขายดิบขายดีมาก ๆ เรียกว่าเป็นกลุ่มใหญ่สุดของตลาด Blackberry ในประเทศไทยเลยทีเดียว เพราะตัวเครื่องตอบโจทย์ผู้ใช้จริง ๆ

 

ผมเองที่ใช้แต่พวก Bold กับ Torch ก็ไม่ได้คิดอะไรมากจนมีครั้งหนึ่งไปประชุมกับ RS Promotion เกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นสำหรับ Blackberry จึงได้รู้ถึงพลังของชาว Curve ว่ามันมหาศาลมาก ๆ โดยทางผู้บริหารกล่าวว่า เวลามีคอนเสิร์ททีหนึ่ง ๆ นั้นผู้ชมเวลายกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปและแชร์เรื่องราวกันนั้น เกือบทั้งหมดเป็น Blackberry และ ส่วนมากเป็น Curve 8520 หลังจากนั้นเวลาขึ้นรถไฟฟ้าเลยเริ่มสังเกตุ และ พบว่านักศึกษา และ คนทำงาน ที่เห็นก็จะใช้ Curve เยอะเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันเครื่องของหลาย ๆ ท่านก็คงถึงเวลาต้องเปลี่ยนกันบ้างแล้ว

ตอนนี้ RIM ปล่อย Curve ตัวใหม่ออกมาให้แฟน ๆ Blackberry ได้ถือโอกาสเปลี่ยนกันแล้วครับ โดยจะออกเป็น 2 รุ่นด้วยกันคือ Curve 9220 ที่รองรับ EDGE และ Curve 9320 ที่รองรับ 3G เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกใช้ตามความเหมาะสม เพราะอย่างที่รู้ ๆ ว่า 3G บางพื้นที่ไม่มีใช้ และ ก็ไม่รู้ว่าจะได้ใช้เมื่อไหร่ ดังนั้นก็มีหลาย ๆ คนที่คงเลือก 9220 ที่รองรับ EDGE เพราะไม่รู้จะจ่ายแพงกับเครื่อง 3G แล้วไม่ได้ใช้ไปทำไม แต่หากคนที่อยู่ในพื้นที่รองรับ 3G หรือ ตัดสินใจจ่ายเพิ่มเพื่อลุ้นการใช้งาน 3G ในอนาคตก็สามารถเลือกซื้อ Curve 9320 3G ได้เลย

ร่ายมาซะยาว ว่าแล้วก็มาชม รีวิว Curve 9320 ตัวใหม่กันดีกว่าครับ

ด้านหน้าของ Curve 9320 ที่รูปทรงยังยึดเอาตามรุ่นยอดฮิตอย่าง 8520 แต่ปรับเปลี่ยนขนาด และ รายละเอียดต่าง ๆ มากขึ้น ทำให้รู้สึกคุ้นเคย แต่ไม่น่าเบื่อ แถมปุ่มคีย์บอร์ดรุ่นใหม่นี้ยังพิมพ์ง่าย พิมพ์นิ่มกว่า 8520 เยอะครับ ความรู้สึกปุ่มแข็งจะไม่มีอีกแล้ว

ด้านหน้าสีดำพร้อมขอบสีอลุมีเนียมด้านรอบตัวเครื่องให้ความรู้สึกหรูกว่ารุ่นเก่า

ด้านหลังของ Curve 9320 จะมาพร้อมกล้อง 3.2 ล้าน แบบ Fix Focus คู่กับแฟรช LED

ฝาปิดแบตเตอรี่ครอบด้านหลังเกือบทั้งหมด เวลาถอดใส่ก็เลื่อนลงมาด้านล่างเพื่อเปิด ทำให้ได้ความแข็งแรง และ ไม่มีอาการก็อกแก๊ก เหมือนพวกเครื่องราคาไม่แพงทั่วไป ตรงกลางเป็นโลโก้ Blackberry ใหญ่มากกกกก

 

ด้านบนของ Curve รุ่นใหม่จะเปลี่ยนไปเหมือน Blackberry รุ่นอื่น ๆ ที่เป็น OS7 และ OS7.1 คือมีปุ่มเดียว คือ ปุ่มล็อคอยู่ตรงกลางเครื่องเลย ทำให้ใช้งานง่าย และ ดูไม่รก

ด้านข้างซ้ายของตัวเครื่องจากบนลงมาเป็นปุ่มปรับเพิ่ม-ลดเสียง และ ปุ่มปิดเสียงที่วางอยู่ตรงกลางระหว่างปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอย่างลงตัว เรียกว่าแทบมองไม่เห็น ซึ่งปุ่มทั้ง 3 นี่เองที่ถูกเพิ่มฟังค์ชั่นในการควบคุมเพลง และ หยุดเพลง แทนปุ่มควบคุมเพลงด้านบนที่ถูกยกเลิกไป

ด้านล่างเป็นปุ่มเปิดกล้องถ่ายภาพ

ด้านขวาของตัวเครื่องก็จะมีช่องเสียบสายชาร์ต และ สายดาต้าในช่องเดียวกันซึ่งเป็นมาตรฐานของ smartphone ในตลาดตอนนี้

ถัดมาด้านล่างจะเป็นปุ่ม BBM ที่เพิ่มขึ้นมา มีให้ใช้เฉพาะใน Curve 9220/9320 เท่านั้น บรรดาขาแชตสามารถเรียกใช้งาน BBM ได้ง่าย และ รวดเร็วขึ้น

ด้านบนมีรูอะไรนะ…..อ้อ รูร้อยสายคล้องโทรศัพท์ เย้ ๆ ๆ ผมดีใจมาก ๆ ที่เห็นรูนี้เพราะผมชอบร้อยสายโทรศัทพ์ และ เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนก็คงชอบร้อยสายต่าง ๆ กับโทรศัทพ์เช่นกัน ซึ่งทาง Blackberry ได้ตัดรูนี้ออกไปในรุ่นอื่น ๆ หมดเลย ไม่ว่าจะเป็น Bold หรือ Torch ทำให้ต้องซื้อเคสที่มีรูร้อยสายมาใช้เพื่อสนองความอยากในการร้อยสายโทรศัพท์เก๋ ๆ

งานนี้ RIM เอาใจวัยรุ่นด้วยการเพิ่มรูร้อยสายคืนมาให้

หลาย ๆ คนคงว่าผมติงต๋องที่เห็นแค่รูร้อยสายโทรศัพท์ก็ตื่นเต้นเป็นการใหญ๋……. หากท่านไม่ชอบคล้องสายต่าง ๆ กับโทรศัพท์ ท่านไม่เข้าใจอารมณ์ผมหรอก อิ อิ อิ

ด้านหลังพอเปิดฝาครอบแบตเตอรี่ออกมาแล้วก็จะเจอกับแบตรุ่นใหม่ล่าสุดในรหัส JS1 ที่เป็นสีดำคาดสีชมพู ซึ่งแบตตัวนี้มีความจุมากกว่าเดิม โดยมีความจุที่ 1450 mAh และ ด้วยระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดอย่าง OS7.1 (ใหม่กว่า Bold ที่วางจำหน่ายอีกต่างหาก) ทำให้สามารถใช้แบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้น โดยสามารถเล่นเพลงได้นานถึง 30 นาที และ จากการทดสอบด้วยตัวเอง คือ เปิดวางเครื่องไว้เฉย ๆ อยู่ได้เกือบ 3 วัน (ปิดไวไฟ)

 

 

Curve 9320 ยังมีฟังค์ชั่นการฟังวิทยุมาให้ด้วย ซึ่งไม่ใช่วิทยุออนไลน์ให้เปลืองค่าเน็ตนะครับ เป็นวิทยุที่จับหาคลื่นวิทยุปกติ เรียกว่าสามารถฟังข่าวอัพเดทเหตุการต่าง ๆ และ ฟังเพลงจากสถานีโปรดได้ฟรี ๆ

 

ว่าแล้วมาดูสเปคตัวเครื่องแบบคร่าว ๆ กันดีกว่า





 

 

 

 

 

 

 

 

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับสาวก Curve ทุกท่าน สเปค และ คุณสมบัติกระชากใจพอหรือไม่ ส่วนราคานั้นผมยังไม่ทราบ (คงตกข่าวไปบ้าง) แต่คร่าว ๆ น่าจะอยู่ที่ 6990 บาท (มั๊ง) ยังไงถ้าใครรู้ราคาก็แจ้งกันนะครับ หรือ ถ้าผมทราบอัพเดทราคาแล้วจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

 

สำหรับ Curve 9220 ขอติดไว้ก่อนนะครับ และ ว่างเมื่อไหร่จะจัดรีวิว Curve 9220 ปะทะ 9320 ให้ชมกันประกอบการตัดสินใจว่าควรซื้อรุ่นไหนดี

 

แล้วเจอกันเร็ว ๆ นี้ในงาน Curve Party นะครับ

 

 

 

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art