รีวิวแกะกล่อง Nolia Lumia 920 สีขาว พร้อมสเปค

หลังจาก Nokia ผูกคอตายด้วย Symbian แล้วหันไปซบอก Microsoft แบบคาใจ และ ออกสมาร์ทโฟนภายใต้แบรนด์ Nokia ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 ในรุ่น Nokia Lumia 900 และ 800 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา กระแสแรกใช้ได้เนื่องจากการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ โดนใจหลาย ๆ คน แถมยังมีสาวก Nokia + Windows Phone รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ

แต่ในบ้านเรากลับเป็นมือถือที่ออกมาปุ๊ปก็ตายปั๊ป เพราะ Nokia ออกมาประกาศเองเลยว่า Nokia Lumia 900 และ 800 ไม่สามารถอัพเกรดเป็น Windows Phone 8 ได้………….แล้วใครจะไปซื้อ โดยเฉพาะคนไทย เพราะมันไม่รองรับภาษาไทยใน Windows Phone 7 แต่จะรองรับภาษาไทยแบบเต็ม ๆ ที่ Windows Phone 8 มันแสบไหมหล่ะ

วันนี้ Nokia Lumia 920 และ 820 รุ่นล่าสุดที่ใช้ระบบปฏบัติการ Windows Phone 8 รองรับภาษาไทย 100% ก็วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว

มาดู xenon_art แกะกล่องไป บ่นไป กัน

ที่ว่าแกะกล่องไป บ่นไป เพราะมันซื้อยากใช้ได้เลยครับ แถมช๊อปโนเกียก็เทรนพนักงานได้ดีโพด ๆ

วันที่เค้าเปิดให้จอง ผมในฐานะสาวก Windows Phone ตั้งแต่ WM 2000 Ce ยุคโน้น และ โดนมาจนถึง HTC HD7 รุ่นเจ็บ ก็ไม่รีรอที่จะเดินไปสอบถามข้อมูล และ จองที่ช็อปโนเกีย CentralWorld

เดินเข้าร้านไป ถามอะไรพนักงานที่ยืนประจำแท่น Lumia 920 ว่าถ้าจองแล้วของมาเมื่อไหร่ ขายพร้อม Commart เลยหรือเปล่า กล้องโฟกัสอย่างไร ซิงค์กับคอมได้ไหม…………….. ไม่รู้ไรซักอย่าง บอกเป็นคำเดียวว่า ไม่จองไม่ได้ของนะ

เออ ไม่จองก็ได้ฟร่ะ……เหมือนจะงอน แต่ก็ต้องไปตามหาซื้อมันอยู่ดี เพื่อน ๆ อ่านแล้วเป็นบทเรียนนะครับ ว่าถ้าอยากได้จริง ๆ ก็ยอม ๆ พนักงานที่ไร้ความสามารถไปเถอะ เดินหาซื้อมันเหนื่อย

ไม่เหนื่อยได้ไง ก็ Lumia 920 ขายหมดเร็วแบบสายฟ้าแลบ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า

1 สั่งของมาน้อย ไม่มั่นใจตลาด

2 ของผลิตไม่ทันเพราะความต้องการในตลาดโลกสูง

3 โควต้าประเทศไทยน้อย

4 สร้างกระแส

ด้วยเหตุใดก็ตาม เป็นมือถืออีกรุ่นที่หาซื้อยาก และ มีคนถือน้อย…..ไม่งงใช่ป่ะ

มือถือบางรุ่นหาซื้อยาก แต่คนถือเยอะ เพราะมันขายดี เราไปซื้อไม่ทัน อย่าง iPhone และ Samsung ที่บางช็อปหมด ต้องวิ่งหาร้านอื่น ๆ แต่เดินไปไหนมาไหนก็เห็นคนใช้นะ แสดงว่ามีคนได้ซื้อ และ มีคนซื้อเยอะจนมันหมด

Lumia 920 เห็นแต่เพื่อน ๆ Blogger ใช้กันทุกคน เดินตามห้าง ร้านอาหาร ยังไม่เคยเห็นคนใช้ แต่ของขายหมด และ ขาดตลาด

บ่นมาพอละ มาชมบ้างดีกว่า

Lumia 920 เป็นมือถือที่ Nokia มั่นใจว่าจะออกมากระชากตลาด และ กระชากแบรนด์ Nokia ให้กลับมาผงาดเหมือนเดิม หลังจากหยุดพัฒนามือถือระบบ Symbian ที่ครองโลกมาอย่างยาวนาน

กระแสของ Lumia นั้นแรงทั่วโลก มีคนสนใจเป็นจำนวนมาก ด้วย ดีไซน์ที่โดดเด่น และ ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 ที่ Microsoft กล่าวว่าเป็นการออกแบบ พัฒนาระบบใหม่หมดจด ไม่ได้เป็นการเอา Windows Phone 7 มาอัพเกรดแต่อย่างใด แถมยังบอกว่า Windows Phone 8 นั้นเริ่มก่อนที่จะมี Windows Phone 7 อีก แต่ระบบยังพัฒนาไม่เสร็จ และ ไม่พร้อมจะแข่งขันกับ OS อื่น ๆ

ด้วยปัจจัยที่จำเป็นต้องมีอะไรใส่ไปในตลาดเพื่อให้คนยังไม่ลืม Windows Phone ก็เลยพัฒนา Windows Phone 7 ออกมาเพื่อลงตลาดในระยะสั้น จนวันนี้ Windows Phone 8 พัฒนาเสร็จสิ้น และ เปิดตัวไปพร้อม ๆ กับ Windows 8 สำหรับ PC จึงทำให้ปีนี้ จนถึงปีหน้าจะเป็นปีที่ Microsoft เปิดศักราชใหม่ของวงการ IT

ผมก็เฝ้ารอการกลับมาของ Windows Phone เช่นกัน เพราะด้วยการเป็นสาวกดั้งเดิมสมัย Windows Mobile เพราะใช้เป็น PDA จดตารางนัดหมาย และ เปิดเอกสาร Office พวก excel และ words ต่าง ๆ สุดท้ายก็ใช้เส้น AIS Serenade จัดเครื่องจากสาขา พารากอน มา 1 ตัว

ส่วนตัวอยากได้สีเหลือง แสบตาดี แต่ของเข้ามามีสีขาว กับ เทา เลยจัดสีขาวมาให้เข้าชุดซะเลย

โม้ไปเยอะแล้ว มาดูแกะกล่องกันเลยว่ามันน่าประทับใจเพียงใด

ด้านหน้ากล่อง Nokia Lumia 920 ที่มีขนาด และ รูปตามสมัยนิยม คือ ขนาดพอดีกับตัวเครื่อง ไม่ใหญ่เว่อร์เหมือนยุคก่อนอีกต่อไป

กล่องสไตล์นี้ใช้กันตั้งแต่ Apple iPhone, Samsung, HTC และ Blackberry แต่ที่ต่างกันก็คือ แบรนด์อื่น ๆ จะเป็นกระดาษเคลือบเงา หรือ กระดาษพิเศษ แต่ทาง Nokia ใช้กระดาษพิมพ์ลายแบบด้าน ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนกล่องน้ำตาล แต่ลายสวยมากขอบอก

ด้านหลังง่าย ๆ ไม่มีอะไรมาก ไม่เลอะเทอะ

กล่องที่ออกแบบลายได้สวยงาม มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองดี แถมด้านข้างโชว์กันชัด ๆ ว่ามีสีอะไรขายบ้าง

การเปิดกล่องไม่ได้เปิดฝาเปิดเหมือนทั่วไป แต่เป็นลิ้นชักดึงออกมา ดูดีมีเอกลักษณ์ไปอีกแบบครับ ชดเชยเรื่องวัสดุกล่อง (กระดาษ) ไปได้พอสมควร ทำให้ความรู้สึกว่าเป็นกล่องกระดาษถูก ๆ เกือบจะหายไปเลย

อุปกรณ์ด้านในไม่น้อยหน้าใคร ให้มาพอดี ๆ

1 ตัวเครื่อง

2 ที่จิ้มถามซิม

3 คู่มือ + ใบรับประกัน ภาษาไทย

4 สายดาต้า/ชาร์ต

5 หัวปลั๊กชาร์ตไฟบ้าน

6 หูฟัง

สายดาต้า ที่เอาไว้เชื่อมต่อข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ และ หากไปเสียบกับหัวปลั๊กก็จะแปลงร่างเป็นสายชาร์ตทันที

สีขาวเหมือนตัวเครื่อง และ หากซื้อเครื่องสีอื่น ๆ อุปกรณ์ก็จะให้มาตามสีเครื่องด้วย (เค้าบอกมาอีกที)

แต่ที่ไม่ค่อยประทับใจก็ตรงที่สีดำของกล่องด้านในเลอะมาติดสายชาร์ตสีขาว ที่ทำเป็นแบบด้านซึ่งจะเลอะง่ายมากกกกกก ใครใช้สายดาต้า และ สายชาร์ต ของ Apple รุ่นเก่า ๆ จะรู้ดีว่ามันเลอะง่ายแค่ไหน

ของใหม่แกะกล่องมาก็เลอะซะแล้ว เสียความรู้สึกนิดนึง……แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้อยู่ดีนั่นแหละ เพราะสายดาต้าเต็มบ้านแล้ว…..ก็ไม่รู้จะบ่นเพื่อ?????

หัวปลั๊กชาร์ตไฟบ้านที่ออกแบบมาเป็นหัวกลม แหวกม่านประเพณีมือถือสมาร์ทโฟนอย่างแรง ผมชอบครับ แปลกดี

หัวปลั๊กชาร์ตไฟของ Nokia Lumia 920 จ่ายไฟที่ 1A

ผมลองเอาหัวชาร์ตของ iPad ที่จ่ายไฟ 2A มาเสียบชาร์ตก็ใช้งานได้ปกติ เพียงแต่หากเสียบค้างคืนเป็นประจำนานข้ามปีไม่รู้จะมีผลอะไรหรือไม่ แนะนำให้ใช้หัวมันนั่นแหละครับ ชาร์ต Lumia ก็ได้ เอาไปชาร์ต Blackberry ก็เร็วดี

หูฟังที่ใช้แจ๊ค 3.5 มม. ตามขนาดมาตรฐานสากลสีขาวสะอาดตา มาพร้อมหูแบบ in ear ที่มีจุกยางตัดเสียงรบกวน

ที่จิ้มถาดซิม แบบ Micor Sim มีมาให้พร้อม ไม่ต้องไปหาคลิปหนีบกระดาษมาทิ่ม เดี๋ยวรูบานไม่รู้ด้วย …..ไอโฟนผมรูบานไปแระ

ดูบรรดาอุปกรณ์กันไปแล้ว มาถึงเวลาของพระเอกเสียที

สัมผัสแรกที่หยิบเจ้า Lumia 920 ขึ้นมาถือในมือ คือ …….หนัก….แต่ไม่ได้หนักมากมายอะไรนัก เพียงแต่หนักกว่าที่คิดครับ เพราะมือถือที่ออกครึ่งปีหลัง ๆ นี้เค้าแข่งกันเรื่อง ความบาง และ ความเบา ในขณะที่สเปคพอ ๆ กันที่ QuadCore กล้อง 8 ล้าน แบตเกิน 1500 mAh

แต่ว่า Lumia 920 ที่ออกหลัง Galaxy และ iPhone กลับทำน้ำหนักได้แซงคนอื่นแบบไม่เกรงใจ ในขณะที่ HTC 8x สเปค Window Phone 8 เหมือนกันทำน้ำหนักได้เบากว่า

พูดกันตรง ๆ นะ ผมว่าผมไม่ได้ความรู้สึกนี้มาสักพักแล้ว หนักพอ ๆ กับ iPhone 4S หรือ Blackberry Torch 9810 ครับ

เอาแบบคนใช้งานที่ไม่ช่างติ….ผมถือแป๊ปเดียวก็ชิน

ด้านหน้าเป็นกระจก Gorilla Glass ที่เค้าว่าเป็นวัสดุผลิตหน้าจอมือถือที่ทนที่สุดในขณะนี้ ซึ่งกระจกหน้าจอสีดำจะกินพื้นที่หน้าเครื่องไปเกือบเต็ม เหลือให้เห็นขอบเครื่องขาว ๆ นิดเดียวเท่านั้น

หน้าตาดูไปละม้ายคล้าย Lumia 900 รุ่นเก่า แต่หากสังเกตุดี ๆ ข้อแตกต่างด้านหน้าเครื่องคือ ขอบด้านบนของจอแสดงผล จะชิดขอบบนเครื่องมากกว่า Lumia 900 และ ขอบด้านล่างของจอ จะห่างกว่าขอบเครื่องมากกว่า Lumia 900

หรือ ว่าง่าย ๆ คือมันเขยิบจอขึ้นบนไป….ตรงจุดนี้ผมชอบนะครับ เพราะเวลาเราถือใช้งานมือเดียว เอาจอเขยิบขึ้นบนจะทำให้เราใช้นิ้วโป้งแตะจอล่างได้ง่ายกว่า

งานนี้ Nokia ปรับปรุงจาก Lumia 900 ได้ดี

ด้านหลังสีขาวแบบเงา

สีขาวของ Lumia 920 จะไม่ได้ขาวจั๊วแบบ iPhone และ ไม่ได้ขาวนวลแบบ Samsung แต่จะออกขาวแบบ Off White คือ ขาวแบบติดเทา ๆ ขุ่น ๆ เล็กน้อย

ผิวสัมผัสเป็นแบบเงา และ ติดฝุ่นในกระเป๋ากางเกงยีนส์ค่อนข้างง่าย แต่……….มันสวยมากกกกกกกกกกกก เลยนะตัวเอง

เห็นครั้งแรกในรูปก็ว่าโดนแล้ว พอได้สัมผัสตัวจริงนี่ ตกหลุมรักเลยยย

แต่จะรักนานแค่ไหนอีกเรื่องนึง….เอิ๊ก

ด้านหลังแบบใกล้ ๆ

ตรงกลางจะเป็นโลโก้ Nokia ขนาดใหญ่ และ Carl Zeiss ขนาดเล็ก ซึ่งต่างกับ Lumia 900 ที่โลโก้ Nokia เล็ก

กล้อง 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟรช LED 2 เม็ด

ในการถ่ายภาพ จะมีไฟแฟรชช่วยโฟกัส คือแม้เราปิดแฟรชขณะถ่ายภาพ แต่ตอนโฟกัสจะมีไฟส่องเพื่อช่วยให้กล้องจับโฟกัสได้ถูกต้องมากขึ้น หากใครไม่ต้องการโหมดนี้ สามารถปิดได้เช่นกัน

ด้านขวาของตัวเครื่องเรียบ ๆ ไม่มีอะไร

ขอบเครื่องซ้าย – ขวา จะมน ๆ หนา ๆ จับถนัดมือ ไม่ลื่นดีครับ หนักแน่น เต็มมือสะจายยย

ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะเป็นปุ่มทรงยาวสีโครเมี่ยมเงา ๆ จากบนลงมาคือ ปุ่มปรับเพิ่ม – ลดเสียง, ปุ่ม Power และ ล่างสุดเป็นปุ่มกล้องถ่ายภาพที่หากเรากดค้างไว้จะเรียกกล้องถ่ายภาพขึ้นมา แม้จะปิดหน้าจอล็อคเครื่องอยู่ก็ตาม สะดวกดี เหมาะกับผมที่ชอบถ่ายรูป

ด้านบนเรียบ ๆ ด้านซ้ายของภาพเป็นถาดใส่ซิมแบบ Micro Sim ตรงกลางเป็นรูเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. เถิบไปอีกหน่อยเห็นเป็นรู ๆ 5 รู จะเป็นรูไมค์สำหรับถ่าย vdo

ด้านล่างเป็นลำโพงคู่คั่นกลางด้วยช่อง Micro USB สำหรับชาร์ต และ โอนข้อมูลกับคอมพิวเตอร์

เมื่อต่อสาย USB กับคอมแล้ว จะเห็นเป็นไดรฟ์นึงเลยครับ โยกไฟล์เข้าออกได้ตามใจชอบ หรือ จะติดตั้งโปรแกรมสำหรับ ซิงค์ หนัง รูป และ เพลงกับฐานข้อมูล iTunes บนคอมก็ได้

แต่…….ซิงค์รายชื่อจากสมุดโทรศัพท์ใน Outlook ไม่ได้ถ้าเราไม่มี Microsoft Exchange Server………กำเวรจริง ๆ

สุดท้ายผมซิงค์กับ Google เหมือน Android ง่ายดี