สวัสดีวันจันทร์ทุก ๆ ท่านครับ ไม่ได้เขียนรีวิวมานานเพราะไม่ค่อยมีของถึงมือเท่าไหร่ ได้แต่อาศัยซื้อเองมารีวิวให้ดู และนี้ก็เป็นอีกตัวที่น่าสนใจ และ สอยมาอาทิตย์ก่อน มันคือ…..LG Prada มือถือแอนดรอย์ประดับด้วยแบรนด์ PRADA แบรนด์เครื่องหนังระดับโลกที่บรรดาคุณสุภาพสตรีรู้จักกันดี หนุ่ม ๆ ส่วนมากก็คงคุ้นเคยกับ Prada เช่นกัน
คราวนี้ LG จัดหนักด้วยสเปคไม่ใช่แบบง่อย ๆ เอาแบรนด์กระเป๋ามาพ่วงขายแพง ๆ แต่จัดมาแบบเต็ม ๆ ทั้งสเปค และ ราคา
ชาว Smart Phone รุ่นเก่าแก่คงยังจำกัดได้สมัยมี LG Prada รุ่นแรกที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile ในสมัยโน้นที่เรียกความฮือฮาในตลาดได้อย่างมากมายเพราะเป็นแบรนด์แรก และ แบรนด์เดียวที่เอา Windows Mobile ร่วมกับ แบรนด์สินค้าฟุ่มเฟือยคือ Prada (ป้าดา) เจ้าแม่กระเป๋าหนัง Hi Fashion ระดับโลก ซึ่งตอนนี้มันออกมาชนกับ iPhone กันเลยทีเดียว
ต่อมา LG ยังได้ออก LG PRADA รุ่นที่ 2 แต่คราวนี้ไม่เอา Windows และ มากับ Slide QWERTY keyboard ซึ่งตอนนั้นก็มักถูกนำมาปะทะกับ Blackberry Storm ตัวแรก กับ HTC G1 แอนดรอย์ตัวแรกของโลก
ต้องบอกว่าทั้ง 2 รุ่นที่ผ่านมามีแฟน ๆ ของ LG และ Prada ชื่นชอบมากมาย ถึงแม้จะไม่ถล่มทลายมากมายเหมือนตัวอื่น ๆ แต่ก็มีสาวกให้ความสนใจไม่น้อย และ ยังเป็นหนึ่งใน Collectible item ของนักสะสมือถือหลาย ๆ คนอีกด้วย
คราวนี้ LG กลับมาสานต่อตำนาน Prada ด้วยการออก LG PRADA 3.0 และ ก็ได้แฟนใหม่เป็น Android Gingerbread ซึ่งในอนาคตสามารถอัพเดทไปกินไอติมกับ OS 4.0 Ice Cream Sanwich ได้อีกด้วย โอ้ว…ทั้งอินเทรน ทั้งหรูหรา แต่หลาย ๆ คนเริ่มสงสัยแล้วว่าจ้า “ป้าดา” นี้มันจะค่าตัวเท่าไหร่ น่าคบหา หรือ อ่านรีวิวนี้ต่อไปหรือไม่ บอกได้เลยว่าสำหรับมือถือที่พ่วงแบรนด์ดีไซเนอร์ระดับโลกอย่าง PRADA ตัวนี้ราคาเพียง 19,900 บาทเท่านั้น!!!!! อ้าวเฮ้ย…หลาย ๆ คนคงร้องว่าไอ้เกือบสองหมืนนี้เรียกว่า “เท่านั้น” หรือ….ใช่ครับ กับ มือถือสเปคนี้ แบรนด์เพื่อนชาติขายอยู่ที่ 18,900 บาท แต่ LG เอา PRADA มาพ่วงพร้อมด้วยฝาหลังลาย Saffiano อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ PRADA แล้ว ส่วนต่างอีก 1,000 บาทนั้น “โคตรคุ้ม” ครับ
เรามาดูกันว่า ป้าดา 3.0 หน้าตามันเป็นอย่างไรบ้าง
ควักบัตรเครดิตให้พนักงานขายปุีป เห็นกล่องสีน้ำตาลใบนี้ ตกใจหมดเลย เฮ้ย ไหงป้าดาเปลี่ยนลุ๊ค
แต่ไม่ต้องตกใจเหมือนผมครับ พอเปิดกล่องกระดาษสีน้ำตาลออกมาก็พลกับกล่องหนังลายซาฟีอาโนพร้อมโลโก้ PRADA หราเลย แค่กล่องก็ให้ความรู้สึกหรูหราแล้วครับ เหมือนพวกกล่องนาฬิกาแพง ๆ ที่เห็นกล่องก็ใจละลายแล้ว
เปิดกล่องออกมาก็เห็น PRADA 3.0 นอนรออยู่บนถาดกำมะหยี่สีดำตามคอนเซ็ปต์ของ PRADA
จัดแจงหยิบเครื่องขึ้นมา เต็มมือมาก ๆ พลิกหลังดูก็เห็นวิธีถอดฝาหลังแปะอยู่ชัดเจน
วิธีถอดฝาหลังก็ทันสมัยเหมือนแบรนด์เพื่อนร่วมชาติ SSGSII คือ ฝาหลังเป็นพลาสติคบาง ๆ มีเขี้ยวอยู่รอบ ใช้เล็บแงะออกมาได้เลย
เอาแบตใส่ ระหว่างรอบู๊ตเครื่องก็มาดูว่าในกล่องมาตรฐานมีอะไรให้บ้าง
พอยกถาดกำมะหยี่ขึ้นก็เจอกับซองพลาสติคบรรจุไว้ด้วยคู่มือที่ไม่เคยอ่าน และ ไม่เคยแกะ (นิสัยนี้ไม่ดีนะครับ เพื่อน ๆ อย่าลอกเลียนแบบ)
รื้อของทั้งหมดในกล่องออกมาเรียงและถ่ายรูปหมู่ซะหน่อย อุปกรณ์ภายในประกอบด้วย
1 คู่มือ
2 สายชาร์ต/ดาต้า
3 หัวปลั๊กชาร์ตไฟบ้าน
4 หูฟังสมอล์ทอล์ค
5 แบตเตอรี่
หยิบขึ้นมาชิ้นแรกเจอ หัวปลั๊กชาร์ตไฟบ้านแบบหัวแบน
หูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5มม. พร้อมหูแบบ In-Ear ที่ยัดเข้าไปในหูเลย ตัดเสียงรอบข้างได้พอประมาณพร้อมโลโก้ PRADA สีดำ บนพื้นสีเงินหราเลย ใส่ไปไหนเค้ารู้ทันทีว่า “ป้าดา” มาแล้ว
มาดูหูฟังแบบใกล้ ๆ
อีกด้านหนึ่ง
สายชาร์ต/ดาต้า พร้อมโลโก้ LG แบบมาตรฐาน
ไล่ดูอุปกรณ์แบบเร็ว ๆ ไปแล้วหันกลับมาดูตัวเครื่องกันบ้างกับทรง สี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบเรียบ ๆ ด้านหน้าสีดำสนิทพร้อมโลโก้ PRADA สีเงินเหนือจอ Nova diaplay ที่ LG บอกว่าสว่างที่สุดในโลก
ขอบรอบตัวเครื่องเป็นแบบโครเมี่ยมสีดำ หรือ ควันบุหรี่ ทำให้ได้อารมณ์ขรึม ๆ ดุด้นดี
มือใหญ่ ๆ อย่างผมจับถนัดกระชับมือดี
หันหลังมาเจอฝาหลังลาย Saffiano เอกสิทธิ์ของ PRADA สีดำสนิท พร้อมโลโก้สีเงินเด่นเป็นสง่าง
ด้านบนเป็นกล้องถ่ายภาพขนาด 8 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟรชแบบ LED 1 ดวง
มาดูลายซาฟิอาโน Saffiano แบบใกล้ ๆ สวยยยยยมาก ๆ
ด้านบนของตัวเครื่องจากซ้ายของภาพจะเป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5มม. ถัดมาเป็นปุ่มเรียกใช้งานกล้อง ซึ่งเวลากดแล้วจะเปิดกล้องหน้านะครับ ตรงกลางเป็นช่องเสียบสายชาร์ต/ดาต้า สุดท้ายเป็นปุ่ม Power
ตรงกลางที่เป็นช่องเสียบสาย Micro USB สำหรับสายชาร์ตและดาต้านั้นมีประตูเลื่อนปิดช่องแบบสวยงามเรียบร้อยดี
ถ้าต้องการใช้งานก็เลื่อนช่องเท่าน้้น กันฝุ่นในกระเป๋ากางเกงยีนส์ได้ดีทีเดียว
ด้านซ้ายของตัวเครื่องเรียบ ๆ ไม่มีปุ่มใด ๆ ทั้งสิ้น บริเวณของข้างรอบเครื่องจะเป็นลักษณะโค้งมนเพื่อความสบายมือในการถือ
ด้านขวาของตัวเครื่องก็เรียบ ๆ เช่นกัน มีเพียงปุ่มเพิ่มเสียง และ ลดเสียงเท่านั้น
ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีรูไมโครโฟนสำหรับคุยโทรศัพท์ หรือ อัดเสียง
สังเกตุช่องตาข่ายระหว่างขอบเครื่อง และ ฝาหลังดูนะครับ มันคือลำโพงนั่นเอง ซึ่ง PRADA 3.0 ตัวนี้มีพร้อมกับลำโพงสเตอริโอ โดยที่จะมีลำโพงทั้งบน และ ล่าง ของตัวเครื่อง เวลาวางนอนเพื่อดูหนังจะกลายเป็นลำโพงซ้าย – ขวา ที่ให้เสียงสะใจดี (แต่คงสู้โฮมเทียเตอร์ตามบ้านไม่ได้ นะคร้าบ )
ด้านบนระหว่างขอบเครื่องกับฝาหลังก็จะมีลำโพงเช่นกัน ซึ่งการวางลำโพงตรงส่วนบน – ล่าง โดยไม่ได้เอาไปไว้ตรงฝาหลังเหมือนหลาย ๆ ยี่ห้อ ผมว่าทำให้เสียงดังฟังชัด โดยเฉพาะเสียงเรียกเข้า
เปิดฝาหลังออกมาดูหน่อยซิ แบตเตอรี่ใส่ตรงกลาง ด้านบนมีช่องเสียบซิมการ์ด และ ช่องใส่ Micro SD เพื่อเพื่อมความจำในตัวเครื่อง
LG PRADA 3.0 มาพร้อมกับ NFC ด้วยทำให้อนาคตหากมีแอพ หรือ ฟีเจอร์อะไรใหม่ ๆ ที่ใช้ความสมารถของ NFC (Near Field Communication) เจ้า PRADA 3.0 ตัวนี้ก็พร้อมนะจะบอกให้
ได้เวลาเปิดเครื่องมาเล่นกันแล้ว หน้าตา UI จะเป็นสไตล์ PRADA ที่สาวกคุ้นเคยกันดีกับไอค่อนลายเส้นสีขาวสุดคลาสสิค บนพื้นสีดำสนิท โดยในตัวเครื่องมีภาพลายหนังซาฟิอาโน (Saffiano) มาให้เลือกใช้เป็น Wallpaper ด้วยนะ ฮิโซมากมาย
สำหรับไอค่อนมาตรฐานตัวเครื่องจะเป็นลายเส้นสีขาวทั้งหมด ส่วนโปรแกรมอื่น ๆ ที่โหลดเพิ่มจาก Android Market จะเป็นไอค่อนสี ๆ ตามที่ developer นั้นพัฒนามา ไม่มีการครอบไอค่อนเพิ่มแต่อย่างใด
ที่หน้าโฮมจะมี weather widget สไตล์ Prada ให้ด้วย เก๋ดีครับ รวมถืงนาฬิกาเข้าชุดด้วย (ผมไม่ได้ถ่ายมาให้ดูนะ) ซึ่งหน้า widget ต่าง ๆ มีให้เลือกเยอะ และ ทำให้เข้าชุดกันทั้งหมด เอาเป็นว่าใครคันก็ไปลองหาเล่น หรือ ซื้อหามาครอบครองแล้วกัน ผมไม่ได้จับภาพหน้าจอมาทั้งหมดครับ
เปิดเข้ามาหน้าแอพ ก็จะได้อารมณ์ขรึม เรียบ หรูจากไอค่อนขาว และ พื้นดำเช่นเคย แต่ทาง LG ได้จัดหน้าใหม่โดยจัดกลุ่มไอค่อนเป็น 3 กลุ่มคือ
Application คือ แอพต่าง ๆ ที่ติดตั้งจากโรงงาน ไอค่อนจะเป็นขาวทั้งหมดดังภาพ
Google คือ แอพของ Google ที่มีทั้ง Google+, Android Market เป็นต้น และ ตรงนี้จะมีทั้งไอค่อนขาว และ ไอค่อนสี
Download Application (ไม่รู้พิมพ์ถูกหรือเปล่านะ) คือ แอพต่าง ๆ ที่โหลดเพิ่มเองจาก Market ซึ่งจะเป็นไอค่อนสี ๆ หมดเลย
ที่ LG ทำแบบนี้เพราะความสมดุลย์ของ UI เวลาผู้ใช้เปิดเข้าหน้าแอพมาครั้งแรกจะเป็นเป็นไอค่อนขาวทั้งหมด เวลาเลื่อนลงมาข้างล่างจึงจะเป็นไอค่อนสี ไม่ปนกันจะเละ แต่หากเราต้องการสามารถย้ายไอค่อนไป-มาได้นะ
เจ้าไอค่อนขาวบนพื้นดำนี้ม้นหรูจนเกิดเรื่องตลกกับผมตอนไปซื้อเครื่องนี้ที่เอ็มโพเรียม โดยครั้งแรกพนักงานเปิดเครื่องขึ้นมาให้ผมเช็คก่อนชำระเงินนั้น พอใส่แบต บู๊ตเครื่องครั้งแรกปุ๊ป พนักงานหน้าเสียทันที…และหันมาหาผมบอกว่า คุณครับ รุ่นนี้จอขาว-ดำนะครับ……ตึงโป๊ะ……ผมเลยบอกว่าไม่เป็นไรครับ เอาการ์ดผมไปรูดเลย (ในใจคนขายคงนึกว่าไอ้นี่โง่จังว่ะ ซื้อเครื่องเกือบสองหมื่นดันเอาจอขาวดำซะงั้น 555)
สเปคตัวเครื่องจากเวป LG
ถ่ายรูปคู่กับ Galaxy Nexus ซะหน่อยนะ
ด้านหน้าที่แพ้เครื่องความยาว
ด้านหลังไม่ต้องพูดถึง PRADA 3.0 หล่อกว่าเยอะ ๆ
ด้านข้างที่ PRADA 3.0 บางกว่า
หลังจากลองเล่น ลองใช้งานได้สักพัก บอกได้เลยว่าเร็ว แรง สมกับเป็น DualCore จริง ๆ ต่างกับภาพลักษณ์ภายนอกที่หรูหราเหมือนจะเอาไว้ถือหล่อ ๆ เท่านั้ แต่ภายในซ่อนความแรงไม่อายรุ่นอื่น ๆ เลยทีเดียว การเข้าถึงเมนูต่าง ๆ การเรียกใช้โปรแกรมเร็วมากกกกกก การเข้าหน้าโทรศัพท์ การค้นรายชื่อ หายห่วงครับ อย่าให้คำว่า PRADA มาหลอกคุณว่ามันเป็นเพียงแค่มือถือติดแบรนด์หรูเท่านั้น มันมีเขี้ยวเล็บที่จะท้าชนมือถือระดับเดียวกับได้ทุกตัวเลยครับ
การเชื่อมต่อไวไฟก็ดีมาก ๆ เพราะรองรับทั้ง wifi b + g + n กันเลยทีเดียว ส่วนเรื่องซิมนั้นเจ้า PRADA 3.0 รองรับ 3จี AIS นะ
สิ่งที่ชอบสุด ๆ กับ LG PRADA 3.0 ตัวนี้คือการ customized ในส่วนของการดูหนัง เพราะปัญหาที่ผมมักเจอบ่อย ๆ ในการใช้งานมือถือ Android คือ ปุ่ม Back ที่น่ารำคาญสุด ๆ เวลาทำอะไรอยู่ไม่ว่าเล่นเกมส์ หรือ โดยเฉพาะดูหนังแล้วถือด้วยมือขวาแล้ว นิ้วโป้งชอบไปโดนปุ่ม Back ทำให้ออกจากโปรแกรมที่กำลังใช้งานอยู่ เสียอารมณ์สุดครับ
แต่ LG ได้ปรับเพิ่มปุ่มล็อคหน้าจอในส่วนของการใช้งาน media ไว้ จากภาพด้านบนจะเห็นว่ามุมล่างขวาของจอจะเป็นไอค่อนรูปแม่กุญแจอยู่ หากเราแตะไอค่อนนี้หน้าจอจะล็อคทันที ทำให้ถือดูหนังได้สบายอารมณ์ไม่ต้องระวังนิ้วไปโดนปุ่ม Home หรือ Back อีกต่อไป
นี่ไงครับเวลากดล็อคหน้าจอ ไอค่อนรูปแม่กุญแจจะแสดงภาพล็อค ทำให้ปุ่มสัมผัสทั้ง 4 ปุ่มด้านล่างของตัวเครื่อง รวมถึงหน้าจอไม่สามารถแตะเพื่อใช้งานได้ หมดห่วง หายรำคาญทันที และ หากต้องการกลับมาใช้งานระบบสัมผัสใหม่ก็เพียงแต่แตะที่ไอค่อนแม่กุญแจอีกครั้งเพื่อปลดล็อค สิ่งเล็ก ๆ เพียงแค่นี้ก็ทำให้ผมรักเจ้า PRADA 3.0 ขึ้นไปอีก
เป็นไงบ้างครับสำหรับรีวิวแกะกล่อง และ ทดสอบเล็ก ๆ ของผมกับ LG PRADA 3.0 มือถือแบรนด์หรูระดับโลกที่ใช้สเปคแรงไม่แพ้ใครในรุ่นเลย กับราคา 19,900 บาท ก็อย่างที่บอกครับว่าเพิ่มอีกพันนึงได้ลาย Saffiano กับแบรนด์ PRADA มาประดับกระเป๋ากางเอง
ขอบคุณ/Thanks to :
- เวป pdamobiz.com ที่ให้พื้นที่ชาว bb มาสิงสถิต และ แลกเปลี่ยนความรู้ กัน
- เพื่อน ๆ พี่ ๆ สมาชิกทุกท่านที่สร้างสีสรร แบ่งปันความรู้ และ ความสุขกันบนเวปดี ๆ แห่งนี้
- เหล่า staff และ Meeting Team ทุกคน ที่ช่วยกันดูแลคลับ ทำให้ผมมีเวลาในการศึกษา และ พัฒนาตัวเองมากขึ้น
- ครอบครัวของผมที่ไม่ (ค่อย) ว่าเวลาซื้อมือถือรุ่นใหม่ ๆ มารีวิวให้เพื่อน ๆ ดูกัน