สวัสดีวันเสาร์ครับ สุดสัปดาห์นี้ขอนำเสนอ Hardware Review ของ ซัมซุง Galaxy Mini สมาร์ทโฟน ระบบปฏิบัติการ แอนดรอย ตัวจิ๋ว ระดับราคา 5990 บาท มาให้ดูกันว่าเป็นไงบ้าง เผื่อใครสนใจอยากลอง
ตามมาดูความสนุกกันเลยครับ…
ก็ตามที่บอกไว้นะครับ ราคาของ Galaxy Mini นั้น 5990 เรียกว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นของมือใหม่ หรือ เป็นรุ่นราคาประหยัดสำหรับคนอยากได้ สมาร์ทโฟนแอนดรอยเจ๋ง ๆ มาใช้ แต่บอกได้เลยว่าถ้าได้ลองดูแล้ว จะไม่รู้สึกเลยครับว่าม้นห้าพันกว่าบาทเอง
เช่นเคยที่ได้แต่เครื่อง ไม่ได้กล่องและอุปกรณ์มาด้วย รีวิว “แกะกล่อง” เลยตกไป เหลือแต่ Hardware Review เท่านั้น เรามาดูตัวเครื่องกันเลยครับ ว่ามันเกินราคายังไงบ้าง
เริ่มจากด้านหน้ามุม 45 มาตรฐานที่ผมชอบ ซึ่งรูปทรงก็แนวซัมซุงดีครับ
ด้านหลังทำลายเหมือนรุ่นพี่อย่าง Galaxy Cooper แต่ลายคนละแบบกัน ซึ่งการทำลายบนฝาหลังพลาสติกนั้นทำให้ตอนถือได้ความรู้สึกกระชัด และ มั่นคงดี อีกทั้งยังให้ความรูสึกไม่ก็องแก็งครับ
มาดูลายใกล้ ๆ กัน ลายจะเป็นทรงรี ๆ ซึ่งถือแล้วไม่ลื่นเลย ใครไม่ซีเรียสมาก ผมว่าไม่ต้องซื้อซิลิโคนมาใส่ก็ได้ครับ ถือเพียว ๆ ได้เลย
ถอดฝาแบตออกมา ก็เจอพื้นสีเขียวเหมือนขอบ และ ช่องใส่ซิมใต้แบตตามมาตรฐาน
ด้านข้างรอบตัวเครื่อง + ใต้ฝาแบต จะเป็นพลาสติคชิ้นเดียวกัน สีเขียวแจ๊ดดดด ให้ควาาแตกต่างดีครับ ถือไปไหน เห็นแต่ไกลว่า Galaxy Mini มาแล้ว ส่วนตัวผมว่ามันแปลก ๆ แต่พอรวมกับด้านหน้าตัวเครื่อง และ ฝาหลังที่เป็นสีดำ เหลือบน้ำตาล (ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่าหว่า) ผมกลับมองว่า รวม ๆ แล้วมันดูดีครับ เพราะตอนแรกได้ข่าวว่าขอบสีเขียวยังเสียวอยู่เลยว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร
มาไล่ดูด้านข้างซ้ายของตัวเครื่องบ้าง จะมีเพียงปุ่ม Power หรือ ปุ่มพักหน้าจอเท่านั้น
ด้านล่างเป็นช่องใส่ MicroSD Card ที่ผมชอบมาก ๆ เพราะไม่ต้องถอดฝาแบต สามารถสลับเมมได้ง่าย ๆ
ด้านขวาของตัวเครื่องก็เรียบ ๆ ดีครับ มีเพียงรูร้อยสายโทรศัพท์ด้านบนสุด ถัดลงมาก็เป็นปุ่มปรับเพิ่ม – ลด เสียง
ซึ่งต้องบอกว่ารูร้อยสายโทรศัทพ์มุมบนขวานี้เป็นตำแหน่งมาตรฐานของมือถือเกาหลีจริง ๆ ครับ รุ่นไหน ๆ ก็อยู่ตรงนี้ แต่เป็นตำแหน่งที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก เพราะผมชอบใส่สายยาว ๆ จึงทำให้เวลาคุยนั้นบางทีสายห้อยโทรศัพท์แบบยาว มันมาพาดหน้า พาดตา แต่หากเป็นสายสั้น หรือ เป็นพวกกุ๊ก ๆ กิ๊ก แบบวันรุ่นใช้กันก็ไม่มีปัญหาครับ
ด้านบนของตัวเครื่องทางด้านขวา จะเป็นช่องเสียบสายชาร์ต + ซิงค์ ที่มีฝาปิดเรียบร้อยดีครับ ฝุ่นไม่เข้า โดยเฉพาะผู้ชายที่ใส่กางเกงยีนส์แบบไม่ค่อยซักเหมือนผม ทางด้านซ้ายจะเป็นรูเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.
ด้านหน้างข้างล่างก็จะเป็นที่อยู่ของ 3 ทหารเสีอ คือ ปุ่มมาตรฐาน 3 ปุ่มของมือถือแอนดรอย ทางด้านซ้ายจะเป็นปุ่มเมนู ทางด้านขวาจะเป็นปุ่มกลับ ตรงกลางก็เป็นปุ่มโฮม ซึ่งปุ่ม 3 ทหารเสีอของ Galaxy Mini นี้จะเป็นปุ่ม ที่เป็นปุ่มกดจริง ๆ ไม่ใช่ปุ่มแบบสัมผัสเหมือนรุ่นอื่น ๆ
ตรงจุดนี้ผมชอบมาก ๆ เพราะส่วนตัว เวลาใช้งานรุ่นที่เป็นปุ่มสัมผัสนั้น นิ้วผมชอบไปเผอิญโดนปุ่มสัมผัสเป็นประจำ โดยเฉพาะเวลาเล่นเกมส์มันส์ ๆ จังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มทีไร เป็นต้องไปโดนปุ่มกลับทุกที แต่กับปุ่มแบบนี้ สัมผัสได้ไม่เป็นไรถ้าไม่กด เวลาใช้จริงจังแล้วผมไม่ค่อยต้องเกร็งนิ้วมากครับ
ด้านลางก็จะเป็นรูไมค์โครโฟน สำหรับคุยโทรศัพท์
ถัดมาด้านล่างก็จะเป็นช่องให้แกะฝาครอบแบตเตอรี่
หน้าล็อคมาตรฐานของ Android Foryo
เมนูด้านในของตัวเครื่องครับ ซึ่งรุ่นนี้เป็นมาเป็นพื้นสีขาวสะอาดตา แต่เวลาถ่ายรูปแล้วไม่ค่อยสวยเหมือนสีดำ
คุณภาพหน้าจอก็กลาง ๆ ตามราคาครับ ใครอยากได้ที่เทพกว่านี้ก็สามาถไปใช้ Galaxy Cooper ได้เลย แถมตอนนี้มีสีขาวด้วย แต่หากใครอยากเล่น Android ราคาไม่แพง แต่คุณภาพเกินราคา ผมว่า Galaxy mini เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของตารางเลย
Samsung Galaxy Mini มาพร้อมกับ Android 2.2.1 มีไทยในตัว
เมมในตัวเครื่อง 135 เมก เหลือใช้มาก ๆ เพราะโปรแกรมต่าง ๆ สามมรถดันไปเก็บไว้ในเมมได้
หน้าจอโทรศัพท์ สไตล์ซัมซุงที่สีสรรมากมายครับ กดง่าย แทบไม่ต้องจ้องเลย
มาดูเสปคกันครับ จากเวปซัมซุง
จบ Hardware Review Samsung Galaxy Mini แต่เพียงเท่านี้ครับ หากมีเวลาจะทำ Software รีวิวให้เหมือนเดิมนะครับ
ขอบคุณ
- ซัมซุงประเทศไทย
- PDAMobiz สังคมแห่งการแบ่งปันดี ๆ ของเรา
- สมาชิกทุกท่าน staff ทุกคน ที่ช่วยกันผลักดัน pdamobiz ให้ก้าวต่อไป