จากบทความ เปรียบเทียบสเปค Samsung Mega 5.8 vs 6.3 หน้าตาคล้ายกันแต่ไส้ในต่างกัน…อะไรบ้าง?
ตอนนี้เพื่อน ๆ เห็นกระทู้นี้ก็คงจะรู้แล้วนะครับว่า xenon_art ตัดสินใจเลือกอะไรระหว่าง 5.8 กับ 6.3 อิ อิ อิ
มาดูแกะกล่องตามสไตล์ รีวิวไตรภาคกันก่อนเหมือนเดิม
ไตรภาครีวิว ตอนแรกจะเป็นแกะกล่องกันเหมือนเดิม ดูว่าในกล่องเค้าให้อะไรมาบ้าง แล้วภาคต่อ ๆ ไปก็จะพูดถึงเรื่องคุณภาพกล้องถ่ายรูป 8 ล้านพิกเซล และ บทสรุปการใช้งานว่าน่าใช้หรือไม่ ผมซื้อแล้วผิดหวังหรือเปล่า
ซัมซุง กาแลคซี่ เมก้า 6.3 (ชื่อยาวเนอะ) ตัวนี้ตัดสินใจเลือกระหว่าง Mega 5.8 กับ 6.3 โดยในที่สุดจากการชั่งน้ำหนัก เปรียบเทียบสเปค และ ราคาแล้ว ผมจบที่ 6.3 เพราะราคาต่างกันเพียง 2,400 บาท แต่สิ่งที่ได้มันดีกว่าดังนี้
– หน้าจอชัดกว่าเพราะได้เป็น HD สวยน่าใช้ ดูแล้วสบายตากว่า
– จอใหญ่กว่า เวลาเล่น Multi Windows ของซัมซุงย่อมสะใจกว่า
– ได้ซีพียู Qualcom ที่คุ้นเคย รู้สึกมั่นใจกว่า ส่วน Mega 5.8 ใช้ Broadcom ไม่เคยใช้ แต่เห็นเค้าว่ามันแรงน้อยกว่า
– ได้เมมในตัว 16 จิ๊ก มากกว่า Mega 5.8 ที่ให้มาเพียง 8 จิ๊กเท่านั้น
– ได้แบตความจุมากกว่า
จากที่ลองจับ ๆ และ ลองเราใส่กระเป๋า รวมถึงลองใช้นิ้วเอื้อมแตะส่วนต่าง ๆ ของหน้าจอ ผลปรากฏว่าลำบากพอกันหากต้องใช้งานมือเดียว และ พกพาใส่กางเกงยีนส์ยากทั้งคู่ ดังนั้นในเมื่อมันเกะกะทั้งคู่ ด้วยสเปคที่เหนือว่าที่กล่าวมาข้างต้น หักส่วนต่างราคาเพียง 2,400 บาท ผมตัดสินใจเอาให้มันใหญ่สุด ๆ ไปเลยกับ เมก้า 6.3
แถมตอนที่เดินไปซื้อ ณ. Power Buy เซ็นทรัลเวิล์ด ดันมี Mega 6.3 สีขาวเข้ามาอีก……ปัดโธ่ ถ้ามีสีขาวตั้งแต่แรกคงจัด Mega 6.3 สีขาวกลับบ้านมาตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว ไม่ต้องมีนั่งวิเคราะห์ว่าเอาอะไรดี
ไอ้ผมมันเป็นพวกแพ้เครื่องสีขาวซะด้วย
เอ้า…ว่าแล้วก็มาชมแกะกล่องกันเลย
Samsung Galaxy Mega 6.3 ราคา 14,900 บาท ตอนนี้ไม่มีโปรลดราคาใด ๆ จาก Jaymart, TG Fone หรือ Power Buy มีเฉพาะผ่อน 0% ร่วมกับบัตรเครดิตเท่านั้น
หน้ากล่องมาทรงเดิม คือเน้นเรียบง่าย ความกว้าง ความยาว พอดี ๆ กับตัวเครื่อง หน้ากล่องไม่ว่าจะสีขาว หรือ สีน้ำเงิน ก็จะมีรูปหน้าตรงของ Mega 6.3 สีน้ำเงินอยู่บนพื้นลายไม้สีน้ำตาล ส่วนตัวชอบพื้นขาวเหมือนพวก Galaxy Grand หรือ S4 มากกว่า
เปิดกล่องออกมาก็เห็นน้อง “ก้า” นอนเต็มกล่องแบบแน่น ๆ เลยครับ ด้านหน้ามีพลาสติคปิดกันรอยหน้าเครื่องพร้อมโลโก้ Galaxy Mega , Android และ สเปคคร่าว ๆ ของตัวเครื่องแสดงอยู่
จากที่ถามพนักงานมา ซัมซุง กาแลคซี่ เมก้า 6.3 รองรับ 3G ทุกเครือข่าย ไม่ว่าจะใช้ซิม AIS, Dtac หรือ True Move H
ตัวเเครื่องหยิบขึ้นมาจับแล้วเต็มมือดีแท้ และ ประทับใจกับรูปร่างหน้าตาที่เหมือน Galaxy S4 ขยายใหญ่ ที่สำคัญได้สีขาวอย่างที่ชอบด้วย เย้ เย้ เย้
พอยกเครื่องขึ้นมา ก็จะมีฝาปิดส่วนล่างของกล่อง พอเปิดขึ้นมาก็จะพบกับอุปกรณ์เสริมมากมายดังนี้
1 สายดาต้า
2 หัวปลั๊กชาร์ตไฟบ้าน
3 หูฟัง สมอลทอล์ค
4 ซิลิโคนเสียบหูฟังสำรอง
5 คู่มือเล็ก 1 ชุด
6 ใบรับประกัน
7 ที่หน้ากล่องจะมีคูปองรหัสลงทะเบียนรับเกมส์ฟรีจากค่ายดัง
ขอเริ่มจากคูปองก่อนนะครับ ใบนี้จะแปะอยู่หน้ากล่องเลย ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าเค้าจะแถมไปเรื่อย ๆ หรือ จนกว่าของจะหมด
โดยคูปองนี้ใช้กับเกมส์ Special Force Net กรอกรหัสแล้วรับเครดิตเพิ่ม (มั๊ง)
ภาพหมู่อุปกรณ์ในกล่อง
หูฟังแบบ In-Ear คือ เสียบเข้าไปในรูหูเลย ข้อดึคือใส่แล้วไม่ค่อยรำคาญ และ กันเสียงรบกวนจากภายนอก
สายเป็นแบบ “แบน” ที่ช่วยให้สายไม่พันกันเหมือนสายหูฟังแบบกลม ๆ ทั่วไป จะขยุ้ม ขยำแล้วโยนลงกระเป๋าแค่ไหน ก็ไม่พันกัน เวลาหยิบใช้สบายมาก
ซิลิโคนสำรองให้เปลี่ยนอีก 2 คู่ 2 ขนาดให้เหมาะกับรูหูของเรา
สายดาต้าสีขาวสวยเชียว สายนี้ทำหน้าที่เชื่อมต่อ โอนถ่ายข้อมูลไฟล์่ต่าง ๆ กับคอมพิวเตอร์ และ ถ้านำไปเสียบประกอบร่างกับ หัวปลั๊กชาร์ตไฟบ้าน ก็จะกลายเป็นสายชาร์ตทันที
หัวปลั๊กชาร์ตไฟบ้านสีขาวเข้าชุด จ่ายไฟออกที่ 2 แอมป์ แรง ๆ เต็มเร็ว
ด้านข้างจะเป็นช่อง USB เพื่อนำสายดาต้ามา “ประกอบร่าง” ให้กลายเป็นสายชาร์ตไฟบ้านครบชุดนั่นเอง
คู่มือการเริ่มต้นใช้งานแบบด่วน เป็นชื่อคู่มือที่ทางซัมซุงแปลมาแบบตรงตัวกับชื่อเดิมภาษาอังกฤษ คือ Quick Start Guide
ภายในไม่มีข้อมูลอะไรละเอียดมากนัก มีแต่เพียงบอกวิธีเปิดฝา ใส่แบต และ ไอค่อนบางส่วนบนหน้าจอ
ส่วนใบรับประกันสีน้ำตาลเหมือนกระดาษกล่องก็มีขนาดเล็กจิ๋วตามสไตล์ซัมซุงที่กะให้เขียนชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ตัวเท่ามด และ แทบต้องใช้แว่นขยายในการอ่าน ปกติผมให้พนักงานกรอกให้ครับ ไมมีปัญญากรอกตัวหนังสือเล็กขนาดนั้น
ดูอุปกรณ์ต่าง ๆ กันไปแล้ว คราวนี้ถึงคราวของพระเอกของเรา ตัวเครื่อง ซัมซุง กาแลคซี่ เมก้า 6.3 สีขาววววววว
ตัวเครื่องด้านหน้าที่จับครั้งแรกแล้วต้องร้องว่า “มันใหญ่มว๊ากกกก” เต็มมือผู้ชายใหญ่ ๆ ของผมแบบล้นด้วย
รูปร่างหน้าตาของ “น้องก้า” นี้ถอดแบบมาจากลูกพี่ Galaxy S4 ตัวเทพที่ถือว่าสวยงามอย่างลงตัวดี การพยายามออกแบบให้ขอบรอบหน้าจอมีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้นั้นทำให้แม้น้องก้าจะมีหน้าจอใหญ่ยักษ์ขนาด 6.3 นิ้ว แต่ตัวเครื่องกลับไม่ได้ใหญ่เทอะทะ ตรงนี้ต้องชมเชยทีมออกแบบหน้าตา และ ทีมออกแบบไส้ในจริง ๆ
ด้านหลังแกะกล่องออกมาจะมีแผ่นพลาสติคปิดกันรอยเอาไว้พร้อมสกรีนวิธี “แงะ” ฝาหลังเพื่อใส่แบต
จัดการลอกออกแผ่นปิดกันรอยออกเพื่อยลโฉมด้านหลังของ “น้องก้่า”
ด้านหลังขาว ๆ มีเพียงกล้อง ลำโพง และ โลโก้ ซัมซุง….มันดูใหญ่สะใจจิงจริ๊งงงง
มุมล่างเป็นลำโพงสำหรับเสียงเรียกเข้า เสียงเตือนต่าง ๆ และ เป็นลำโพงสำหรับวีดิโอ และ เพลง
เท่าที่ลองเบื้องต้น ดูยูทูปเสียงดังดีนะ
กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟรช LED 1 ดวง โลโก้ซัมซุงสีเทาบนฝาหลังสีขาว
คุณภาพกล้อง 8 ล้านจะดีเพียงใด รอชมรีวิวภาคกล้องเร็ว ๆ นี้
ขอบรอบตัวเครื่องเป็นขอบพลาสติคเคลือบสีอลุมีเนียมปัดด้านสวยงาม ตามรอยลูกพี่ใหญ่ เอสสี่ อย่างสวยงาม
ด้านข้างซ้ายของตัวเครื่องเรียบ ๆ ไม่มีอะไรนอกจากปุ่มเปิด – ปิด เครื่อง
ด้่านข้างขวาของตัวเครื่องก็มีเพียงปุ่มปรับเพิ่ม – ลดเสียง เรียกว่าเน้นเรียบง่ายแต่ใช้งานได้อย่างลงตัว
ด้านบนไล่จากซ้ายมาขวาคือ ช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. ถัดมารูเล็กเป็นช่องอัดเสียง วีดิโอ (มั๊ง) สุดท้ายกลม ๆ สีดำ ๆ เป็นช่องยิงสัญญาณอินฟราเรดที่อดีตโนเกียมีมาให้ทุกรุ่น
ซึ่งช่องอินฟราเรทย้อนยุคนี้ ซังซุง เค้าเอามาให้ใช้ร่วมกับโปรแกรมรีโมททีวี ที่จะแปลงร่าง Mega 6.3 ให้เป็นรีโมททีวี ที่บอกตรง ๆ ว่ารูแค่นี้ไม่น่าจะแม่น ที่บ้านใช้ทีวี Samsung 50 นิ้วอยู่ เวลาจะใช้รีโมททีวีทีต้องเล็งให้เข้าเป้าอย่างกับนักกีฬายิงปืน ขนาดรีโมทแท้ ๆ ยังขนาดนั้น แล้วเอารูเล็ก ๆ นี้มายิงสัญญาณจะไหวเรอะ
“ตูด” เครื่องยังคงความเรียบง่าย ตรงกลางเป็นช่องเสียบสาย Micro USB ทั้งชาร์ต ทั้งเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ส่วนรูเล็ก ๆ ด้านข้างเป็นรูไมโครโฟนโทรศัพท์
ด้านหน้าส่วนบน เป็นลำโพงสนทนาโทรศัพท์ กล้องหน้า 1.9 ล้านพิกเซล และ เซ็นเซอร์ต่าง ๆ
ด้านหน้าส่วนล่างก็เหมือนกับของส่วนอื่น ๆ ของ น้องก้า คือ ไม่ใหญ่มากเพราะต้องการให้ตัวเครื่องมีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทำให้มีพื้นที่สำหรับปุ่มน้อยลงตามไปด้วย โดยปุ่มโฮมจะถูกบีบให้กลายเป็นทรงยาว ๆ เหมือน Galaxy S4 ต้นแบบของ น้องก้า ตัวนี่นั้นเอง
ด้านข้างปุ่มโฮม ถ้าสังเกตุดี ๆ จะมีปุ่มมาตรฐานแอนดรอย์ขนาบข้างมาด้วย นั่นคือปุ่ม Menu และ Back
เมื่อไฟหน้าจอติด และ อยู่ในที่มืดปุ่ม Menu และ Back ก็จะเรืองแสงขึ้นมาทำให้สามารถใช้งานได้ในที่มืด
ที่มุมบนซ้ายจะมีร่องเอาไว้งัดฝาหลังที่เป็นพลาสติคบาง ๆ ล็อคด้วยเขี้ยวรอบ ๆ ออกจากตัวเครื่อง
ใครที่ไม่เคยใช้ซัมซุง ไม่ต้องกลัวนะครับ งัดออกมาเลย ถึงแม้เสียงมันจะกรอบแกรบเหมือนจะหักก็ไม่ต้องกลัวครับ มันไม่หักคามือแน่นอน
ส่วนในของด้านหลังเป็นที่อยู่ของแบตเตอรี่แบบถอดเปลี่ยนได้ ขนาด 3,200 mAH…คิดถึงแบต Note II ขึ้นมาทีเดียว
ด้านบนของแบตเตอรี่เป็นช่องใส่ซิม และ ช่องใส่เมมในตำแหน่งเดียวกันแต่วางซ้อนกันอยู่
กาแลคซี่ เมก้า 6.3 มี NFC มาด้วยพร้อมฟีเจอร์ส่งไฟล์ผ่าน S Beam ซึ่ง Mega 5.8 ทำไม่ได้เนื่องจากไม่มี NFC
NFC หรือ Near Field Communication เป็นการใช้สัญญาณคลื่นสั้นในการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ทีมี NFC ด้วยกัน ทำงานคล้าย ๆ บลูทูธ นั่นแหละแต่สามารถส่งไฟล์ขนาดใหญ๋ได้ดีกว่า
สำหรับ Samsung Galaxy Mega 6.3 ฝัง NFC ไว้ที่แบตไม่ได้ฝังไว้บนฝาครอบแบตเตอรี่เหมือนแบล็คเบอรี่ ทีนี้ราคาแบตคงแพงกว่าเดิม
ช่องใส่เมมขนาด ไมโครเอสดี หรือ เมมเล็ก ที่เป็นมาตรฐานปัจจุบันจะซ้อนอยู่บนช่องใส่ซิมการ์ด ขนาด ไมโครซิม (Micro SIM)
เมื่อใส่แบตแล้วจะถอดซิมไม่ได้ แต่สามารถถอดเปลี่ยน เมมการ์ด ได้อย่างอิสระ แต่สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอย์ ไม่แนะนำให้ถอดเมมออกดื้อ ๆ ควรปิดเครื่อง หรือ ไปสั่ง unmount SD Card ใน setting เสียก่อน
หน้าจอแบบ Super LCD HD ความละเอียด 1280 x 720 สวยสดเป็นธรรมชาติกว่า
ผมเองส่วนตัวแล้วชอบ Super LDC หรือ IPS HD มากกว่า Super AMOLED ของซัมซุง ที่นำมาใช้ใน Galaxy Note II และ S4 เพราะสีมันจัดเกินจริง ไม่เป็นธรรมขาติ
ความเห็นส่วนตัวผมว่า Super LCD ใช้งานนาน ๆ สบายตากว่า และ สีที่ได้ธรรมชาติกว่า
การทำงานโดยรวมเบื้องต้นต้องบอกว่าประทับใจกว่าที่คิดเยอะ ลื่นไหลดีมาก ๆ ลงแอพโน่นนั่นนี่ไปหลายตัวก็ยังโอเคอยู่
ซัมซุงก็ยังคงเหมือนทุกครั้ง คือ แจ้งว่ามีหน่วยความจำภายในตัวเครื่องเท่าไหร่ไม่เคยได้เต็มกะเค้าซักที คราวนี้ตัวเครื่องมีหน่วยความจำ 16 จิ๊ก แต่เปิดเครื่องมาเหลือให้ใช้ได้จริง ๆ 11 จิ๊กเท่านั้น
เมมมาไม่เต็มนั้นเป็นทุกค่าย เริ่มจาก Apple ก่อนเลย เพราะไอโฟนตั้งแต่ยุคแรก ๆ บอกว่า 16 จิ๊ก แต่ใช้งานได้จริง ๆ ประมาณ 15 จิ๊กเท่านั้น นาน ๆ เข้าด้วยความสุดยอดของไอโฟนที่ทำให้ผู้ใช้งานไม่โวยวายอะไรมากนัก นาน ๆ เข้าก็ชิน ผู้ผลิตเจ้าอื่นเลยเอามั่ง
แต่ในกรณีของ ซัมซุง หลาย ๆ คน (รวมถึงผมด้วย) จะไม่ค่อยพอใจมากกว่ายี่ห้ออื่นมากหน่อยเพราะบางรุ่นยังแบ่งเอาไปเป็น แรม อีกต่างหาก แถมพี่แกยัดฟีเจอร์โน่น นั่นนี่ มาจนกินเมมของตัวเครื่องไปเยอะ งานนี้หายไปร่วม 5 จิ๊ก เลย…… –!
สำหรับ Galaxy Mega 6.3 สามารถใส่เมมเพิ่มได้สูงสุด 64 จิ๊ก แต่ผมว่าใส่ 32 ก็เหนื่อยแล้วครับ เพราะเมมแบบนี้บอกตรง ๆ ว่าบ้านเราหาของแท้ยากจริง ๆ นอกจากจะซื้อตามห้าง หรือ ร้านกล้องถ่ายรูป ทำให้คุณภาพการอ่านข้อมูลช้า ใส่เยอะ ๆ บางทีอาจทำให้ตัวเครื่องอ่านข้อมูลนานกว่าปกติหากใช้เมมความเร็วต่ำ
สเปคอย่างเป็นทางการของ Samsung Galaxy Mega 6.3
ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่
http://www.samsung.com/th/consumer/mobile-devices/smartphone/android-os/GT-I9200ZKETHL-spec
ไตรภาครีวิว Samsung Mega 6.3 ตอนอื่น ๆ
– เปรียบเทียบสเปค Samsung Mega 5.8 vs 6.3 หน้าตาคล้ายกันแต่ไส้ในต่างกัน…อะไรบ้าง?
– ไตรภาครีวิว Samsung Galaxy Mega 6.3 ภาคกล้องถ่ายรูป 8 ล้านพิกเซล มันชัดป่ะ?
– ไตรภาครีวิว ซัมซุง เมก้า 6.3 ภาคจบ…มาดูการใช้งาน และ บทสรุปว่ามันน่าใช้หรือเปล่า
_________________________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ
[…] […]
[…] […]
ชัดเจนมากครับ ขอบคุณนะครับ
ผมมีในใจที่จะซื้ออยู่ 2 ตัว คือ Maga 6.3 กับ Note 2 แต่เลือกไม่ถูก ช่วยแนะนำหน่อยครับ
ส่วนตัวเชียร์ Note2 ครับ
ทำไมใช้ซิมของmyถึงต่อเนตไม่ได้มีคำแนะนำไหมคะ
แนะนำเช็คการตั้งค่า และ สถานะเน็ตของซิมครับ ถ้าไม่ได้จริง ๆ แนะนำติดต่อผู้ให้บริการ my ครับ