มาแล้วครับ สด ๆ ร้อน ๆ จากศูนย์บริการ กับแอนดรอย์รุ่นล่าสุด เทพที่สุดในบรรดาจตุรเทพของช่วงนี้
Samsung Galaxy S4 ที่มากับ OctaCore หรือ CPU 8 แกน กล้อง 13 ล้าน ราคา 21,900 บาท
หากใครงงว่าจตุรเทพแอนดรอย์ที่ผมพูดถึงมันคืออะไร ไปอ่านบทความเก่าได้
จตุรเทพแอนดรอย์ Galaxy S4, Optimus G / G Pro, HTC One และ Xperia Z สเปคเป็นไง ซื้ออะไรดี
สำหรับ Galaxy S4 ตัวนี้เป็นมือถือแอนดรอย์รุ่นล่าสุดจาก ซัมซุง เจ้าพ่อสมาร์ทโฟนจากแดนกิมจิที่กระแสแรงแบบฉุดไม่อยู่ ที่หลายปีก่อนประกาสกร้าวท้าชนไอโฟนและโดนคนหัวเราะมาแล้วทั่วโลก พร้อมกับปรามาสไว้ว่า “จะไหวเหรอ”
จากนั้น ซัมซุง ก็เริ่มกระบวนการ ก๊อป สิ่งดี ๆ จากหลาย ๆ ระบบปฏิบัติการ และ หลาย ๆ ยี่ห้อ จนมีคดีความฟ้องร้องกันไปชุดใหญ่
ในที่สุด ซัมซุง ก็ค้นพบทางเดินของตัวเอง โดยเริ่มสร้างปรากฏการใหม่ให้กับวงการแอนดรอย์เมื่อปีที่แล้วกับ Galaxy S3 ที่ทำเอาแอปเปิ้ลสะดุ้งไปเหมือนกัน
อ้าว…แล้ว S1 กับ S2 หล่ะมันหายไปไหน
มันไม่ได้หายไปไหนครับ เพียงแต่ S1 เมื่อ 4 ปีก่อนยังไม่ฉายแววที่จะดี ส่วน S2 เริ่มดีขึ้น แต่ด้วยดีไซน์ต่าง ๆ ที่โดนฟ้องร้องว่าก็อปเค้ามา ประกอบกับระบบปฏิบัติการแอนดรอย์ในขณะนั้นยังไม่เสถียรพอที่จะกระชากใจผู้ใช้ได้ แต่ก็เริ่มฉายแววตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา
ดังนั้นความดังของซัมซุงเอง เพิ่งจะมาสร้างกระแสแรง ๆ ได้ตอน S3 ที่ผ่านมา โดยกลายเป็นมือถือที่ “ใคร ๆ ก็ใช้กัน” จนประสบความสำเร็จอย่างสูง
ความสำเร็จของ Galaxy S3 สร้างปรากฏการณ์ใหม่อีกอย่างหนึ่งคือ เมื่อก่อน เค้าจะบอกว่า แอนดรอย์ ปะทะ ไอโฟน แต่ตอนนี้กลายเป็น ซัมซุง ปะทะ ไอโฟนไปเสียแล้ว ค่ายอื่น ๆ โดนซัมซุงทิ้งห่างไปแบบไม่เห็นฝุ่น
ปีนี้ ซัมซุง เข็นสุดยอดนวตกรรมแห่งมือถือแอนดรอย์ออกมาอีกครั้งกับ Samsung Galaxy S4 ตัวเทพที่ใช้แนวคิด “มือถือที่จะเป็นทุกอย่างให้คุณ” หรือ “Life Companion” ส่วนจะทำได้จริง และ ทำได้ดีเพียงใดติดตามรีวิวของผมให้ครบทุกภาคนะครับ
จุดเด่นของ Galaxy S4 คงหนีไม่พ้น สเปคขั้นเทพดังนี้
- จอ Super AMOLED ขนาด 5 นิ้ว แบบ Full HD
- ซีพียู หรือ ชิพประมวลผลแบบ OctaCore ซึ่งก็คือ ระบบซีพียู 8 แกน โดยเค้าเอาซีพียู QuadCore 2 ตัวมาทำงานร่วมกันนั่นเอง (1.6 GHz + 1.2 GHz)
- กล้องหลังขนาด 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ขนาด 2600 mAh
- เมมในตัวเครื่อง 16 จิ๊ก เหลือใช้จริงประมาณ 8 จิ๊ก
นอกจากเสปคขั้นเทพ ที่ทิ้งห่างคู่แข่งแล้ว ซัมซุง ยังยัดเทคโนโลยีมาให้อีกเพียบ เช่น
- Air Gesture – ระบบสั่งที่ช่วยให้ทำงานได้โดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ
- Dual Camera – ระบบการถ่ายรูปที่ถ่ายกล้องหลัง และ กล้องหน้าพร้อมกัน ทำให้คนถ่ายมีส่วนร่วมในภาพ
- Sound & Shot – การใส่เสียงเข้าไปในภาพถ่ายเพื่อเก็บความประทับใจ
- Animated Photo – ฟังก์ชั่นการถ่ายภาพที่ผสมผสานระหว่างภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวในภาพเดียวกัน ซึ่งคือไฟล์ .gif นั่นเอง
- Group Play – ทำให้เราแชร์ไฟล์ต่าง ๆ ใหักับเพื่อนคนอื่นผ่าน NFC
- และ อื่น ๆ อีกมากมายบรรยายไม่หมด
เอาหล่ะ เกริ่นยั่วน้ำลายกันมาพอสมควรแล้ว ตอนนี้พบกับ ปฐมบทมหากาพย์รีวิว Samsung Galaxy S4 ตอนที่ 1 ภาพ รีวิวแกะกล่องกันได้
หน้ากล่องที่เป็นกระดาษรีไซเคิล สกรีนลายไม้พร้อมโลโก้ ซัมซุง กาแลคซี่เอส 4 บนหน้ากล่อง
เรียบ ง่าย และ ดูแตกต่าง เป็นตัวของตัวเองดี นับเป็นรุ่นแรกที่ประเดิมกล่องแบบไร้รูปของซัมซุงเลย
ด้านหลังกล่องมีสเปคคร่าว ๆ ให้ดูกัน
ด้านข้างของกล่องก็เหมือนกับ Galaxy Note 8.0 ที่ระบุว่าใช้กระดาษรีไซเคิ้ล และ ใช้หมึกที่ผลิตจากถั่วเหลืองในการพิมพ์ ขับเน้นไอเดียรักษ์สิ่งแวดล้อม
เปิดกล่องออกมา ว้าววววว น้องเอส4 นอนแน่นเกล่องเชียว
ด้านหน้าตัวเครื่องมีแผ่นปิดปกป้องจอพร้อมข้อมูลบางส่วน
เมื่อเอาน้องเอสสี่ ออกมาชาร์ตแบตรอ เปิดถาดรองเครื่องปุ๊ปเราก็จะพบกับคู่มือ และ อุปกรณ์ต่าง ๆ ดังนี้
- คู่มือภาษาไทย และ ภาษาต่างประเทศ
- สายดาต้า / สายชาร์ต
- หัวปลั๊กชาร์ตไฟบ้าง
- หูฟัง / สมอลทอล์ค แบบ InEar
- จุกหูฟังสำรองขนาดต่าง ๆ
เนื่องจากฟีเจอร์ที่ “อัด” มาเต็ม ๆ ในเครื่องจนเมมในตัวหดหายไปเกือบครึ่ง ทำให้ซัมซุงมีโจทย์ใหญ่นั่นก็คือ จะสื่อสารไปยังผู้บริโภคอย่างไรว่ามีฟีเจอร์อะไรบ้าง และ จะใช้งานอย่างไร ซึ่งเป็นคำถามที่ผมทวิตไประหว่างร่วมงานเปิดตัว Galaxy S4 ที่โรงแรม W Hotel
พอแกะกล่องออกมาก็ถึงบางอ้อ งานนี้ซัมซุงจัดคู่มือฉบับกระเป๋าสอนการใช้งานฟีเจอร์ล้ำ ๆ เอาไว้เรียบร้อย อ่านง่าย ตัวหนังสือไม่เยอะ เหมาะกับคนไทย
ผมลองเอามาให้ชมกันเพียง 2 หน้าเท่านั้น ของจริงมีสิบกว่าหน้าเลยครับ ใครซื้อเอสสี่แล้วอย่าลืมอ่านคู่มือเล็ก ๆ แต่มีประโยชน์นี้ด้วยนะ
สายดาต้าแบบด้านหนึ่งเป็นหัว USB อีกด้านหนึ่งเป็นหัว Micro USB ซึ่งเป็นสายดาต้าแบบมาตรฐานสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน
หัวปลั๊กชาร์ตไฟบ้าน ที่เมื่อเอาสายดาต้ามาเสียบต่อกันจะแปลงร่างเป็นที่ชาร์ตไฟสำหรับ galaxy S4
หัวปลั๊กนี้จ่ายไฟที่ 2.0 A ให้กับแบตเตอรี่ขนาด 2600 mAh
หูฟังแบบ In Ear สีขาวสวยงาม ใช้แจ๊กขนาด 3.5 มม. มาตรฐานปัจจุบัน
จุกซิลิโคนที่มีสำรองมาให้เราเลือกเปลี่ยนได้ตามสรีระรูหูของเรา
ดูอุปกรณ์กันไปแล้ว มาถึงไฮไลท์ของรีวิวนี้กันแล้ว น้อง Galaxy S4 ตัวเก่ง ตัวเทพของเรา
ผมซื้อสีขาวมาใช้ ดังนั้นด้านหน้าตัวเครื่อง และ ด้านหลังตัวเครื่องทั้งหมดจะเป็นสีขาว
หน้าจอ Super AMOLED แบบ Full HD ขนาดอลังการ 5 นิ้ว แต่….อย่านึกว่ามันใหญ่นะ มันไม่ได้ใหญ่ไปกว่า S3 เลยครับ
งานนี้ซัมซุงพัฒนามาเป็นอย่างดี โดยออกรุ่นใหม่ด้วยขนาดเท่าเดิม แต่จอใหญ่กว่าเดิม บางกว่าเดิม เบากว่าเดิม และ แรงกว่าเดิม
สังเกตุว่าขอบจอแคบลงทำให้จอใหญ่ขึ้นเป็น 5 นิ้วโดยขนาดโดยรวมไม่เปลี่ยน…..เยี่ยมครับ
ด้านซ้ายของตัวเครื่องก็คุ้นกันดีกับดีไซน์ของซัมซุง คือ มีเพียงปุ่มปิด-เปิดเครื่องเท่านั้น
ขอบรอบตัวเครื่องเป็นพลาสติคชุบโครเมี่ยม แต่เค้าให้บอกว่ามันคือ โพลีคารบอนเนตเคลือสี
ด้านขวาของตัวเครื่องจะเป็นปุ่มปรับเพิ่ม-ลดเสียง
ด้านบนของตัวเครื่อง หรือ หัวเครื่อง จะมีรูเสียบหูฟัง 3.5 มม ส่วนกลม ๆ ขวามือของภาพเป็นช่องอินฟราเรดเอาไว้แปลงร่าง S4 ให้เป็นรีโมททีวีราคาสองหมื่นกว่าบาท ด้วยแอพ Watch On
พอร์ตอินฟราเรดนั้น คนเก่าคนแก่คงคุ้นเคยกันดีเพราะสมาร์ทโฟนยุคแรก ๆ ต้องมีกันทุกเครื่อง รวมถึงปากกา Stylus แต่เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยน ช่องอินฟราเรด กับ ปากกาเขียนหน้าจอ กลายเป็นสิ่งล้าสมัย
แต่ซัมซุงกลับสร้างกระแสใหม่ด้วยสิ่งเหล่านี้ และ ประสบความสำเร็จมาแล้วกับ S-Pen เราคงต้องติดตามกันต่อไปว่าซัมซุงจะสามารถปลุกผีช่องอินฟราเรดนี้ได้หรือไม่
ด้านล่างของตัวเครื่องหรือ “ตูด” เครื่อง ก็ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน มีเพียงรู เอ้ย ช่องเสียบสายชาร์ต / สายดาต้า
รูกลม ๆ ด้านซ้ายมือของภาพ จะเป็นไมโครโฟนสำหรับโทรศัพท์
ด้านหน้าส่วนบนตามภาพ จะมีลำโพงสนทนา กล้องหน้า เซ็นเซอร์ และ ไฟเตือนสถานะ
ด้านหน้าส่วนล่าง ดูเรียบ ๆ มีเพียงปุ่มโฮมอันลือลั่นของ ซัมซุง เท่านั้น
แต่พอไฟหน้าจอติดขึ้นมา ม้นจะเผยอีก 2 ปุ่มที่เหลือขนาบปุ่มโฮมอยู่
ทางซ้ายคือปุ่มเมนู ส่วนทางขวาที่เป็นรูปลูกศร คือปุ่มกลับ
3 ปุ่มนี้เป็นปุ่มชุดมาตรฐานของมือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอย์ ที่ผมมักจะเรียกว่าปุ่ม 3 ทหารเสือ
ด้านหลังสีขาวเรียบ ๆ เงา ๆ แต่มีการฝังลายไว้เนื้อพลาสติคเพื่อให้ดูมี Texture และ ไม่เรียบจนน่าเบื่อ
การจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ด้านหลังที่คุ้นเคยของซัมซุง ยิ่งตระกูล กาแลคซี่ แล้วต้องบอกว่าการจัดวางจะเป็นแนวนี้หมด มองไกล ๆ ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นรุ่นไหนกัน แต่นี่คือเอกลัษณ์ของเค้าหล่ะ
มาดูลายที่ฝังอยู่ในฝาหลัง Samsung Galaxy S4 สีขาวกับใกล้ ๆ
ที่เห็นมุมล่างของภาพ ไอ้เจ้ารูรี ๆ ยาว ๆ นั่นคือลำโพงครับ จะเห็นว่าแกนที่คั่นระหว่างช่องรี ๆ นั้นจะนูนขึ้นมาเพื่อยก “ก้น” ของมือถือขึ้น เวลาโทรศัพท์ดัง เสียงจะได้ออกมาอย่างเต็มที่
กล้องขนาด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟรช LED ที่ต้องพิสูจน์ว่ามันจะ “เจ๋ง” หรือ “เจ๊ง” อย่างที่เคยรีวิว Sony Xperia Z มาแล้ว
จัดหนักแน่ ๆ เตรียมชมได้เลย
เปิดฝาปิดแบตเตอรี่ออกมาก็จะเจอกับแบตขนาด 2600 มิลิแอมป์ที่เราต้องมาทดสอบกันว่า เอามาให้ CPU OctaCore สูบไปใช้งาน จะอยู่ทนเพียงใด
ซิมการ์ดจะเป็นแบบ Micro Sim และ เมมโมรี่สามารถเพิ่มได้ด้วย Micro SD Card สูงสุด 64 จิ๊ก
วัสดุฝาปิดแบตเตอรี่เป็นพลาสติคบางเฉียบ และ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเอกลัษณ์ของ ซัมซุง แกแลคซี่มาตลอด
เขี้ยว และ รูล็อคฝาหลังที่มีมารอบเครื่อง แกะทีดังกรอบบบบบ กดปิดเข้าไปอีกทีดัง แกรบบบบบบ
แต่เมื่อปิดเข้าไปสนิทแล้ว ดูมั่นคง จับแล้วกลับรู้สึกแข็งแรงเป็นส่วนเดียวกับตัวโทรศัทพ์ดีครับ
จบแล้วครับ รีวิวแกะกล่อง ซัมซุง แกแลคซี่ เอส 4 เทพแอนดรอย์ตัวล่าสุดที่จุติมายังประเทศไทย
แกะกล่องแล้วก็ใส่แบตเพื่อทดสอบการใช้งานกันเลย อยากลองมานานแล้ว
แกะกล่อง เปิดเครื่องครั้งแรก ต่อไวไฟแล้วจัดการเช็คอัพเดทซอฟท์แวร์ให้เรียบร้อยครับ
หลังจากนั้นแนะนำให้ทำการ factory reset ซะ 1 ทีก่อนใช้งาน เพื่อเป็นการล้างเครื่อง และ ตั้งค่าใหม่ หมดปัญหาเรื่องปัญหาต่าง ๆ ที่อาจตามมา
จริง ๆ ไม่แต่เพียงซัมซุงเท่านั้น สมาร์ทโฟนทุกตัวซื้อมาผมก็แนะนำให้ ล้างเครื่อง 1 ครั้งก่อนการใช้งานเสมอ
เมมในตัว 16 จิ๊ก เหลือให้ใช้ประมาณครึ่งหนึ่ง คือ 8.21 จิ๊ก ตามสไตล์ซัมซุงที่เอาเมมไปใส่อย่างอื่นเพียบ
ตรงนี้รู้สึกจะเป็นเจ้าเดียวในตลาดที่เหลือหน่วยความจำในตัวน้อยกว่าชาวบ้าน เพราะปกติหากโฆษณาว่าเมมในตัว 16 จิ๊ก มักจะเหลือให้ใช้จริงประมาณ 10 ว่าจิ๊ก
แกะกล่องกันเสร็จ ล้างเครื่องกันเรียบร้อย พร้อมใช้งานกับ สมาร์ทโฟน ระบบปฏิบัติการแอนดรอย์ที่สเปคเทพที่สุด ฟีเจอร์เยอะที่สุดในโลก ณ. วันนี้
สเปคอย่างเป็นทางการของ Galaxy S4
ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่ http://www.samsung.com/th/galaxys4/specifications.html
ความรู้สึกแรก….แบบส่วนตั๊วส่วนตัว
เกริ่นก่อนว่าผมก็เป็นแฟนตัวยงของ ซัมซุง มานานแล้ว ซื้อใช้เกือบทุกรุ่น ไล่ย้อนไปถึง i320 และ i320n….เกิดทันกันมั๊ย 555 (ไปกูเกิ้ลหารูปดูกันเอาเอง)
สมัยก่อนโน้น ผมเคยดูแลห้อง ออมเนียคลับ ณ.เวปสุดที่รักของผม และ ปลุกปั่นสร้างสังคมออนไลน์สำหรับซัมซุงมาก่อน โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จาก ซัมซุงแม้แต่น้อย แม้กระทั้งตอนจัดมีตติ้ง ของรางวัลที่แจกกลับเป็น มือถือ LG ซะงั้น
ซัมซุง รุ่นที่ผ่าน ๆ มาก็มีชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง แต่สำหรับ Galaxy S4 สารภาพว่าเห็นภาพโปรโมทตามเวปต่าง ๆ บวกกับอ่านพรีวิวเมืองนอก ตอนนั้นผมบอกตัวเองในใจว่า เฮ้อ….หน้าตาช่างธรรมดา แทบไม่ได้เปลี่ยนจากปีก่อนสักเท่าไหร่ ทั้งรูปทรง ฝาหลัง และ หน้าตาการใช้งานภายในเครื่อง แม้กระทั้งไปร่วมงานเปิดตัว เห็นบนเวทีเค้าโชว์ ยังรู้สึกว่า อืม…ก็งั้น ๆ นะ ไม่น่าตื่นเต้น
ผมเดินผ่านซุ้มทดลองเล่นในงานเปิดตัวที่ W Hotel ยังไม่หยุดเล่นเลย เพราะทั้งคนเยอะ และ รู้ตัวว่าตอนบ่ายเราก็จะได้เครื่องของตัวเองแล้ว เลยไม่มีความกระตือรือล้นในการเบียดคนเข้าไปลองเล่น เพียงมองผ่าน ๆ ไปเท่านั้น
แต่….พอได้จับเครื่องของจริงด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก บอกได้คำเดียวว่าชอบเลย มันน่าตื่นเต้นมาก ๆ กับสัมผัสที่ได้รับ ความกระชับที่รู้สึกได้ มันจับถนัดกว่า S3 ทั้ง ๆ ที่ตัวเครื่องขนาดพอ ๆ กัน แต่รูปทรงที่เปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อยกลับให้สัมผัสที่แตกต่าง
เปิดเครื่องครั้งแรกก็ตะลึงกับหน้าจอที่สวยงาม คมชัด ให้สีโอเว่อร์จัดจ้านจามสไตล์เกาหลี
การทำงานลื่นไหลดี แต่เอ๊ะ…..นี่มัน OctaCore นี่นา ทำไมตอนเปิดหน้าจอยังแอบมี Lag อีกแล้ว ความเร็วในการ “ตื่น” ของตัวเครื่องไม่ได้เร็วกว่า S3 สักเท่าไหร่
ลองเปิดกล้องเช็คสินค้าก่อนจ่ายเงิน กล้องชัดดี มีโหมดให้เล่นมากมาย และ ภาพถ่ายดูคร่าว ๆ จากตัวเครื่องก็ยังรู้สึกว่า สีสรรออกแนวซัมซุงเหมือนเดิม
ทั้งหมดนี้่ เป็นเพียงความรู้สึกแรกที่ได้ลองเครื่องเพียง 10 นาทีเท่านั้น
รอชมรีวิวการใช้งานแบบเต็ม ๆ กันอีกทีว่ามันจะดีเพียงใด
บทความที่เกี่ยวข้อง
– รีวิว Samsung Galaxy S4 ภาค กล้องถ่ายรูป [ระวังรูปเยอะ โหลดโหด]
– รีวิว Samsung Galaxy S4 บทสรุปการใช้งานว่ามันดีแค่ไหน [วีดิโอ]
___________________________________________________________________________
หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ
ขอแชร์นะครับพี่ รีวิวนี้ผมว่าหลายคนที่กำลังอยากชม
ยินดีครับ
ได้ความรู้ดี มีภาพประกอบ ชอบ ๆ
ชอบจริงๆคนๆนี้รีวิว ^_^ และขอแชร์นะครับ
[…] […]
[…] […]
พี่ครับผมสังเกตุว่า S4 ของผมเวลาเปิดคีบอดขึ้นมาโทนสีของจอมันจางลงครับ เห้นชัดเลยคับจากแถบด้านบน ผมลองปิด Auto bright energysaving autotone ดูแล้วครับมันก้ไม่หายครับเป็นทุกคีบอดเลยครับ อยากรู้ว่าเป็นที่เครื่งผมคนเดียว หรือว่าฟีเจอนี้มันปิดได้ครับ ปกติผมใช้ ss คีบอดครับ แต่การใช้งานอื่นๆปกติดีครับ
ของผมไม่รู้สึกนะ ยังไงลองไปตามร้านที่เค้ามีเครื่องโชว์แล้วเปิดคีบอร์ดมาเทียบดูนะครับ
เครื่องผมไม่รู้สึกนะครับ แนะนำว่าลองแวะไปร้านที่เค้ามีเครื่องโชว์แล้วลองเปิดคีบอร์ดเทียบดู
มีปัญหาเครื่องร้อนเร็วบ้างไหมคะ แบบเล่น5 นาทีก็ร้อนแล้ว ไม่ได้เล่นหนักนะแค่แอฟเดียวก็ร้อนแล้ว
เล่นนานๆ ถึงจะร้อนครับ ประมาณ 20 นาที
iรู้สึกเหมือนกัน เพิ่งเล่นไปแปบเดียว ร้อนซะแล้ว
ใช่ครับร้อนง่าย
มีปัญหาเวลาชาทร์แบตเครื่องร้อนทุกครั้งที่ชาทร์
[…] […]
[…] […]
[…] […]
เวลาคุยโทรศัพท์ กดเพิ่มเสียงลดเสียงดูค้างๆค่ะ ไม่เพิ่มไม่ลดให้เลย บางทีคุยจบแล้ว ถึงเพิ่ม-ลด ให้ค่ะ ใครเป็นบ้างคะ
พี่ตอนเนี้ยnote 3ตอนเนี้ยมีข้อเสียที่เป็นอุปสรรคกับซอฟแวร์บ้างรึป่าวครับ