รีวิวแกะกล่อง Blackberry Z10 สีดำ พร้อมปะทะสีขาว จาก @BBClubTH

ช่วงนี้ปั่นข่าว ปั่นรีวิว ปั่นคู่มือการใช้งาน ปั่นโปรแกรมเถื่อน….เอ้ย โปรแกรมที่แงะจาก แอนดรอย์มาใส่ BB10 จนหัวปั่นไปหมด แต่รับรองว่าไม่ลืมหามือถือดี ๆ มารีวิวให้ชมกัน

เมื่อวานผมออกรีวิว แกะกล่อง Blackberry Z10 สีดำสุดเท่ห์ไปที่ BlackberryClubThailand.com หรือ พิมพ์สั้น ๆ BBClubTH.com ไป พร้อมด้วยการปะทะกับ Z10 สีขาวสุดเร้าใจ

ใครชอบสีไหน ใครลังเลว่าจะสอยสีอะไรดี งานนี้ไม่ควรพลาด

วันนี้จึงคัดลอกรีวิวมาไว้ในบล็อค “ล้านเรื่องราว ของ xenon_art” มาให้เพื่อน ๆ ได้เสพกัน เผื่อไม่ได้แวะไปบ้านโน้น

เมื่อวานจัดแกะกล่อง Blackberry Z10 สีขาวสุดสวยไปแล้วที่กระทู้

รีวิว แกะกล่อง Blackberry BB10 รุ่น Z10 สีขาว ครั้งแรกในไทย รูปเยอะ จุใจ

ซึ่งสร้างความ “คัน” ให้สาวก และ แฟน ๆ ของ xenon_art กันไปตาม ๆ กัน จนเที่ยงวันนี้นายบวบ หรือ @beonybuab ก็ทนอาการคันคะเยอไม่ไหว จัดสีดำตามมา 1 ตัว ผมจึงเชิญแวะมาลงโปรแกรมชุดใหญ่ที่ผมแอบ port มาจากแอนดรอย์ ติดตั้งด้วยวิธีการ SideLoad ตามกระทู้นี้

วิธีการติดตั้งโปรแกรมจากคอม หรือ SideLoad แบบง่าย ๆ ใน BB10, Z10 หรือ Q10

ส่วนเพื่อน ๆ ที่สงสัยว่ามีโปรแกรมอะไรบ้าง ก็ติดตามข่าวสารกันที่เวป BBClubTH ของเรานี้ครับ จะทยอยปล่อยเรื่อย ๆ

เมื่อขอถ่ายรูปแกะกล่องทำรีวิวสร้างความ “คัน” ให้คนอื่นเพิ่มท่านบวบก็ยินดีจัดให้ 555

ว่าแล้วเรามาชมกันเลยครับ…..อ้อ ขอบอกก่อนนะครับ ว่าด้วยความที่ไม่มีเวลา (หรือ ขี้เกียจนั่นเอง) ผมก็อปข้อมูลส่วนใหญ่จากกระทู้แกะกล่องสีขาวมาปรับใช้นะครับ

หน้ากล่อง Z10 ที่สามารถออกเสียงได้ 2 แบบคือ แซด10 และ ซี10 แล้วแต่จะเอาสำเนียงไหน สำหรับผมก็แบบไทย ๆ ครับ เด็กไทยยุคผมเรียก แซด10

หน้ากล่องไม่มีอะไรมากมายนักตามสไตล์ มีเพียงคำว่า Z10 ตัวเบ่อเร่ออยู่บนกล่องพื้นสีดำด้าน และ โลโก้ Blackberry อยู่มุมล่างขวาของกล่อง และ จากหน้ากล่องทั้งสีขาว และ สีดำก็ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าเครื่องสีอะไร ต้องดูที่สติ๊กเกอร์รายละเอียดด้านข้างกล่อง

สาวกบีบีคงคุ้นเคยกันดีกับกล่องสไตล์ดำด้านของ Blackberry พอมาถึง Z10 ระบบปฏิบัติการใหม่ รูปร่างหน้าตาใหม่ การออกแบบกล่องใหม่ แต่แอบแฝงกลิ่นอายความคลาสสิคดั้งเดิมเอาไว้ จับกล่องครั้งแรกก็ช่วยให้หายคิดถึง และ ทำให้ระลึกถึงตอนทำรีวิวแกะกล่องบีบี ที่ห่างเหินไปนานเพราะไม่มีรุ่นใหม่ อั้นกันมาทั้งปีจนมาเปิดตัวกับ Z10 สุดยิ่งใหญ่นี่แหละ

ด้านหลังของกล่องมีรายละเอียดเพียบ โดยแบ่งเป็นหลายภาษา

เปิดกล่องออกมากเจอน้อง Z10 สีดำนอนรอให้เราลูบไล้อย่างสงบ

ลักษณะการจัดวางก็ตามมาตรฐานปัจจุบัน คือ “ไม่เยอะ” ความกว้าง ความยาวของกล่องก็พอดี ๆ กับตัวเครือ่ง มีเหลือขอบกันกระแทกไว้นิดเดียว

ตัวเครื่องวางอยู่บนถาดรองเครื่องทำจากกระดาษ ซึ่งคาดว่าจะเป็นกระดาษรีไซเคิล

พอยกถาดรองเครื่องออกมา ก็เจอกับชุดกล่องใส่อุปกรณ์ 2 กล่องอยู่ภายใน……..อืม ได้อารมณ์คลาสสิคของบีบีที่ไม่มีใครเหมือนอีกแล้ว

ไม่อยากจะบอกว่ากลิ่นก็ช่างคุ้นเคย (เว่อร์ไปป่ะ)….ห่างหายจากการแกะกล่องบีบีไปนานครับ 555

กล่องชุดบน หรือ กล่องที่ใหญ่กว่าเป็นที่เก็บบรรดาอุปรกรณ์เสริมต่าง ๆ

กล่องชุดล่าง ซึ่่งเป็นกล่องเล็ก เปิดออกมาจะเป็นหัวปลั๊กชาร์ตไฟบ้าน ที่เป็นอแดปเตอร์ในตัว

ด้านในของกล่องบนประกอบด้วย

1 สมุดคู่มือ พร้อมแผ่นพับจาก Blackberry

2 สายดาต้า/สายชาร์ต ในเส้นเดียวกัน

3 หูฟังพร้อมสมอล์ทอล์คในตัว

4 แบตเตอรี่ขนาด 1800 mAh

ด้านในของกล่องล่างประกอบด้วย

1 ปลั๊กแบบอแดปเตอร์แปลงไฟในตัว ชนิด 2 ขากลม

2 ปลั๊กแบบอแดปเตอร์แปลงไฟในตัว ชนิด 3 ขาเหลี่ยม

สายดาต้า/สายชาร์ต แบบ USB ด้านหนึ่ง Micro USB อีกด้านหนึ่ง เป็นสีดำเช่นเดียวกับตัวเครื่อง

สายชุดนี้ สามารถใช้ร่วมกับสายทั่วไปของ บีบี รุ่นอื่น ๆ รวมทั้ง แอนดรอย์ ได้เลยนะครับ ขนาดเดียวกัน

หูฟัง พร้อมเป็นสมอลล์ทอล์คในตัว สีดำเข้าชุดเช่นกัน

หูฟังที่แปลกตาไป โดยเฉพาะช่องลำโพงที่มีรูเล็ก ๆ เรียงเป็นชุด เหมือนดอกไม้เลย

แบตเตอรี่ขนาด 1800 mAh ผลิตจากเกาหลี ประกอบในจีน

แบตตัวนี้เป็นตัวเดียวกับที่ใช้บน DevAlpha B ซึ่งผมทดสอบใช้งานในชีวิตประจำวันมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว จากการใช้งานปกติ คือ เน้นโทรศัพท์ ทวิตเตอร์ เฟสบุ๊ก และที่สำคัญ อีเมลล์เพียบ สำหรับผม อยู่ได้วันนึงสบาย ๆ ครับ

ผมเอาสายชาร์ตออกประมาณ 9 โมงเช้า ประมาณ 4 ทุ่ม ยังเหลืออีกครึ่ง

แต่สำหรับคนใช้เยอะมาก ๆ คงไม่พอเช่นเดียวกับบรรดา แอนดรอย์ หรือ ไอโฟน ที่ต้องหาที่ชาร์ตแบตสำรอง หรือ Power Bank พกติดตัว

แบบแรกสามารถใช้กับบ้านเราได้เลย เป็นแบบ 2 ขากลม ซึ่งปลั๊กไปบ้านเราส่วนมากรองรับ ยกเว้นบ้านรุ่นเก่า ๆ ที่เสียบได้แต่ปลั๊กแบนเท่านั้น

เรื่องกระแสไฟฟ้าก็ไม่ต้องห่วง เพราะปลั๊กแบบอแดปเตอร์แปลงไฟในตัวนี้ รองรับไฟทั่วโลก

อีกอันหนึ่งเป็นแบบ 3 ขาเหลี่ยม ที่โซนยุโรป และ เอเชียบางประเทศใช้กัน ใครชอบไปฮ่องกงให้พกแบบ 3 ขาเหลี่ยมนี้ไปเลยครับ

สำหรับนักเดินทางคงจะชอบ เพราะสามารถเลือกพกพาปลั๊กที่ถูกต้องไปได้ในแต่ละการเดินทาง

หัวปลั๊กชาร์ตไปแบบมีอแดปเตอร์แปลงไฟในตัวนี้ จ่ายไฟให้บีบี แซด10 ที่ 750mA

จากประสบการณ์ของ DevAlpha หากแบตแดง หรือ หมดจนดับไป จะใช้เวลาประมาณ 2.5 – 3 ชั่วโมง ในการชาร์ตให้มันเต็ม 100%

ถือว่าไม่เร็ว ไม่ช้าครับ

รื้อกล่องดูจนทั่วแล้ว มาถึงของดีของเด็ดกับ Blackberry Z10 สีดำกันได้แล้ว

ด้านหน้าของ แซด10 สวยบาดใจจริง ๆ ดำด้านสุดขรึม อินเทรนด์จริง ๆ

คั่นกลางด้วยหน้าจอแบบ LCD สีดำสนิทขนาด 4.2 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 768 พิกเซล พร้อมความละเอียดที่ 336 ppi หรือ pixel per inch พร้อมโลโก้ Blackberry ที่ใช้เป็นจุดสัมผัสเวลารูดปรื๊ด ๆ

ใส้ใน DualCore Qualcomm Snapdragon S4

เมมในตัว 16GB ของ Samsung แรม 2GB ของ Samsung เช่นกัน

ข้อมูลเพิ่มเติมของชิ้นส่วนภายในดูได้ที่ เปลือยทุกส่วน!!! มาดูกันว่าภายใน BlackBerry Z10 แต่ละส่วนประกอบมีอะไรบ้าง

ด้านหลังสีดำผิวสัมผัสคล้ายยาง มีลายจุด รองรับโลโก้ บีบี สีเงินหรูหราตรงกลาง

ด้านบนมีกล้องขนาด 8 ล้านพิกเซล ที่มีฟีเจอร์ Time Shift อันโด่งดังของรุ่นนี้ และ นับเป็นมือถือตัวแรกของโลกที่มีระบบ Time Shift โดยเมื่อถ่ายภาพแล้ว เราสามารถเลือกช่วงเวลาที่ต้องการ หรือ ปรับแต่งบางส่วนของใบหน้าบุคคลในภาพถ่ายเพื่อเลือกช่วงเวลาที่ดีที่สุดบนภาพถ่าย

ยกตัวอย่างเช่น เวลาถ่ายรูปหมู่เพื่อน ๆ หากมีเพื่อนคนหนึ่งหลับตา เราไม่ต้องถ่ายรูปใหม่ เพียงแต่ “แตะ” ที่หน้าเพื่อนคนนั้น แล้วเลื่อน “วงแหวนแห่งกาลเวลา” ไปยังจุดที่เพื่อนคนนั้นลืมตา แล้วกดโอเค

แค่นี้เราก็จะได้ภาพถ่ายเพื่อน ๆ ที่ ลืมตา กันทุกคน

ใครไม่เก็ต เดี๋ยวรอชมรีวิวกล้องถ่ายภาพ

ฝากหลังลายจุด ๆ หลุม ๆ สีดำวัสดุเคลือบผิวยาง ให้สัมผัสที่กระชับมือ

โลโก้ บีบี สีเงินเงาแว๊ป หลังการอยู่กลางฝากหลัง เด่นมาก ๆ บนพื้นสีดำ

ฝาหลังของ แซด10 นี้ ทำจากวัสดุพลาสติกชนิดพิเศษ ให้ความบางเฉียบ แต่คงไว้ซึ่งความแข็งแรง

ลองเอา แซด10 มาถือในมือดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ถือแล้วรู้สึก “หล่อ” ขึ้นกระทันหัน ขนาดพอดีมือ การใช้งาน การควบคุมต่าง ๆ ทำได้ถนัดดี โดยเฉพาะการเปิดหน้าจอด้วยการรูดจากคำว่า Blackberry ขึ้นไปจนถึงกลางหน้าจอ เป็นการ “ปลุก” และ “ปลด” หน้าจอในคราวเดียวกัน

ด้านหลังสีดำเคลือบวัสดุคล้ายยาง งานประกอบแน่นหนา ทำให้รู้สึกคุ้มค่าเงินสองหมื่นกว่าที่เสียไป เพียงเพื่อเอามาทำรีวิวเท่านั้น

ตัวเครื่องถือแล้ว ให้ความรู้สึกเบามือ ถือสบาย เอาใส่กระเป๋ากางเกง ก็ไม่ตุง อืม……..ชมอย่างเดียวครับ อวยกันสุด ๆ ก็แหมนี่มันแบรนด์ในดวงใจนี่นา

ด้านบนของตัวเครื่อง จากซ้ายของภาพ จะเป็นช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. ที่เอาหูฟังอะไรมาใส่ก็ได้ ไม่มีปัญหา

ถัดมาตรงกลาง เป็นปุ่ม power เอาไว้ปิด-เปิดเครื่อง รวมถึงกดเพื่อพักหน้าจอ

ปุ่ม Power นี้หากเรากดตค้างไว้ หน้าจอจะเป็นสีดำ และ มีตัวเลขนับถอยหลัง 3 2…1 เพื่อดับเครื่องให้สนิท ถ้าเราไม่ต้องการก็ปล่อยปุ่ม power ได้

หากต้องการ restart เครื่องด้วยความรวดเร็ว สามารถกดปุ่ม Power นี้ค้างไว้ 2 วิ หน้าจอจะดำ และ มีเลขนับถอยหลัง ให้ปล่อยนิ้วออกจากปุ่ม power แล้วสังเกตุที่มุมล่างขวามือ จะมีไอค่อน restart…..แตะเบา ๆ เครื่องก็จะ restart ตัวเอง

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง สีดำด้าน มีปุ่มปรับเพิ่ม-ลดเสียง และ ปุ่มปิดเสียง (Mute) คั่นอยู่ตรงกลาง

วัสดุของปุ่มให้สีสรรเหมือนอลุมีเนียมปัดด้าน เข้ากันได้ดีกับขอบเครื่องดำด้านจริง ๆ

ด้านขวามือของตัวเครื่อง จากบนลงมา จะเป็นช่องต่อ Micro HDMI ออกทีวี สามารถเล่นหนังแบบ Full HD ออกจอทีวีได้สบาย ๆ รวมถึงการจำลองหน้าจอ แซด10 ไปยังหน้าจอทีวี หรือ Projector เพื่อพรีเซ้นต์งานได้ด้วย

ถัดลงมาเป็นช่อง Micor USB เพื่อเชื่อมต่อกับคอมกับคอม โอนถ่ายข้อมูล ซิงค์มีเดียต่าง ๆ กับคอมพิวเตอร์ผ่านโปรแกรม Blackberry Link ที่ออกมาทดแทน Blackberry Desktop Manager เดิม

ด้านหน้าส่วนบน สีดำด้าน คั่นด้วยลำโพงสนทนาโทรศัพท์สีเงิน พร้อมเซนต์เซอร์ดับหน้าจอเวลาเอาไปแนบหู

ที่เห็นกลม ๆ ข้าง ๆ ลำโพง เป็นกล้องหน้าขนาด 2 ล้านพิกเซล….จะชัดแค่ไหน รอไม่นานครับ รีวิวเจาะลึกกำลังจะมา

ด้านหน้าส่วนบนนี้ยังซ่อนไฟ led แสดงสถานะเอาไว้เตือนเวลามีข้อความ หรือ สายไม่ได้รับ

ขอบล่างของหน้าจอมีโลโก้บีบีพร้อมคำว่า Blackberry เป็นจุดที่ซ่อนเซนต์เซอร์อยู่ภายใน

โลโก้นี้จำให้ดี ๆ เพราะไม่ว่าจะเปิดเครื่อง ปลดหน้าจอ ปิดแอพ ออกจากแอพต่าง ๆ เราต้องตั้งต้้นรูดนิ้วบนคำว่า Blackberry พอดีจึงจะทำงาน

ด้านหน้าส่วนล่าง ขอบดำด้านงาม ๆ……ไว้ถ้าอารมรณ์คึก จะลองทด drop test ดูว่ามันจะทนแค่ไหน

ด้านล่างของตัวเครื่องเรียบ ๆ สีดำด้านเช่นกัน ร่องที่เห็นนี้จะเป็นร่องสำหรับแงะฝาหลังสุดบาง

ด้านใต้ของร่องแกะฝาหลัง จะเป็นที่อยู่ของลำโพง เสียงเรียกเข้า และ ดูหนังฟังเพลงด้ว

เปิดฝาครอบแบตออกมา ก็จะเห็นด้านหลังส่วนในทั้งหมด เพราะฝากครอบแบตเตอรี่จะปิดทั้งหมดของด้านหลังกินไปถึงขอบข้างเล็กน้อย

ด้านในจะมีช่องใส่แบตเตอรี ช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Micro SIM และ ติดกันจะเป็นช่องใส่เมมโมรี่การ์ด หรือ มีเดียการ์ด ที่รองรับความจุสูงสุด 64GB

มาดูทั้ง 3 ช่องแบบใกล้ ๆ กัน

วัสดุ งานประกอบเรียบร้อยดีมาก ๆ เรียกว่าต่างกับ Blackerry รุ่นก่อน ๆ เยอะ

เวลาจะใส่เมมโมรี่การ์ดแบบ Micro SD ก็ให้ยกแผ่นยางปิดช่องสีฟ้าขึ้น แล้วจึงดัน เมมโมรี่กร์ด เข้าไป

อุปกรณ์ NFC จะติดอยู่ที่ฝาหลังของ แซด10 และ มีแผ่นรับขาแตะวงจร สีทอง ๆ กลม ๆ อยู่ 2 อันเพื่อเชื่อมต่อสัญญาณกับตัวเครื่องเวลาใช้งาน

ส่วนที่ตัวเครื่องด้านหลังก็จะมีขาทองแดง 2 ขายื่นออกมาเพื่อแตะวงจรบนฝาหลัง ทำให้ระบบ NFC ทำงานได้อย่างสมบูรณ์

ชมแกะกล่องสีดำกันมาแล้ว แวะไปชมแกะกล่องสีขาวกันก็แล้ว ไม่สะใจใช่ไหม???

ผมรู้ว่าไม่สะใจ เลยจัดรูปคู่ Blackberry Z10 สีขาว ปะทะ สีดำ มาให้ชมกันหลาย ๆ มุม

ด้านหน้า มุมนายแบบที่ 45 องศา

ขาวด้าน ปะทะ ดำด้าน เลือกไม่ถูกจริง ๆ

ด้านหลังเครื่องสีดำเป็นพลาสติคเคลือกยาง นุ่ม และกระชับมือ

ด้านหลัีงเครื่องสีขาวเป็นพลาสติคเคลือบสีขาวกึ่งมันกึ่งด้าน ไม่นุ่มเท่า ไม่กระชับมือเท่า แต่สบายมือไม่ลื่นแต่อย่างใด

ลายบนฝาหลังของสีขาว และ สีดำ ระยะใกล้……ใจ ละลายหรือยัง

ด้านข้างสีด้านทั้งคู่ แถมถ่ายออกมามัวอีกต่างหาก ขออภัยครับ

หัวดำ ปะทะ หัวขาว คุณชอบแบบไหน?

ดำด้าน หรือ ขาวด้านดีหนอ???? สุดทั้งคู่

ลองดูมุมนี้บ้าง ใครชอบสีไหนจัดสีนั้น ใครเลือกไม่ถูก ไว้รอ Q10 รุ่นมีแป้นคีย์บอร์ดออกมาแล้วจะยิ่งเลือกยากกว่านี้ จะ บอก ให้

ไหนดูซิ…สีขาวด้าน หรือ สีดำด้าน จะเข้ากับบรรดาปุ่มสีอลุมีเนียมปัดด้านมากกว่ากัน

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ รีวิว แกะกล่อง แบล็คเบอรี่ แซด10 รุ่นใหม่ล่าสุด สีดำ ที่แกะไปชมไป อวยกันออกหน้าออกตา…..แถมการปะทะกันระหว่าง เสือขาว และ สมิงดำ (เวิ่นเว้อไปอีกแล้ว) หวังว่าเพื่อน ๆ คงจะเต็มตากันพอสมควร และ คงจะน้ำลายหกกันพอสมควรด้วย

การใช้งานเบื้องต้นสำหรับผม สาวกบีบีตัวจริง ยอมรับเลยว่า BB10 เป็นระบบปฏิบัติการที่เปลี่ยนโลกของ บีบี ไปอย่างสิ้นเชิง อะไรที่เคยทำไม่ได้ใน บีบี รุ่นเก่า รุ่นนี้ทำได้เกือบหมด

เน็ตแบบเดิม ๆ สุดเน่าเพราะผู้ให้บริการไม่ได้ไปเพิ่ม bandwidth ของ Blackberry Service ทำให้การเข้าเน็ตบน บีบี ช้าเป็นเต่า ตอนนี้ BB10 ไม่ต้องใช้ Blackberry Service อีกต่อไป ผู้ให้บริการปล่อยสัญญาณแรงแค่ไหน เครื่องวิ่งแรงแค่นั้นเหมือน Android และ iPhone แล้ว

กล้องที่เหมือนจะตามเค้าไม่ทัน ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว

ส่วนอะไรที่เคยทำงานได้ดี ตอนนี้เค้าพัฒนาให้ใช้งานได้ดีขึ้นไปอีก ระบบรักษาความปลอดภัย จุดเด่นของ Blackberry ยังคงอยู่ และ ทำงานด้วย Server ตัวใหม่ที่รองรับภาษา QNX ภาษาของ BB10 ไม่ใช่ Java อีกต่อไป

อีเมลล์ที่เจ๋ง ๆ ตอนนี้มี Blackberry Hub ใช้งานง่ายกว่าเดิม รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียวกัน แถมยังพ่วง Twitter, Facebook chat และ บรรดา Social Network มารวมไว้ใน Hub ที่เดียว จัดการง่าย บริหารสบาย

ยังไงก็ติดตามข้อมูลข่าวสารจากผม และ ทีมงาน Blackberry Club Thailand กันเรื่อย ๆ นะครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

– รีวิว แกะกล่อง Blackberry BB10 รุ่น Z10 สีขาว ครั้งแรกในไทย จาก @BBClubTH

___________________________________________________________________________________

สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมของระบบปฏิบัติการ BB10 หรือ ข้อมูลของ Z10 และ รุ่นอืน ๆ สามารถอ่านข่าวย้อนหลังได้ที่ ฟอรั่ม นี้ครับ

http://blackberryclu…/forum/12-news/

หากเพื่อน ๆ ซื้อมาใช้งานแล้ว ขอแนะนำ ฟอรั่ม BB10 ที่รวบรวมวิธีการใช้งาน เทคนิค และ สิ่งที่ควรรู้ อีกทั้งยังมีฟอรั่ม ถาม-ตอบ ปัญหาเฉพาะ BB10 ด้วย

http://blackberryclu…ry-bb10-forums/

ซึ่งประเดิม คู่มือการใช้งานแรกไปแล้วบางส่วนดังนี้

เกร็ดควรรู้

– ไขข้อข้องใจ BB10 ต้องเปิด BB Service เหมือนเดิมหรือไม่ ใช้แพคเกจอะไรดี

ซื้อเครื่องใหม่ต้องทำอะไรบ้าง