มาแล้วจ้า!!! รีวิว EP. 1 ภาพแกะกล่องทุกซอกทุกมุม พร้อมสเปคจัดเต็ม มาให้เสพทั้งแบบภาพนิ่ง และ คลิปวีดิโอ

#RazerPhone #ซื้อเองรีวิวเองไม่ต้องอวย

Razer…..for Gamers by Gamers นี่คือนิยามของแบรนด์เรเซอร์ ที่มีผู้ก่อตั้งเป็นชาวเอเชียแต่สร้างแบรนด์ได้อย่างชาญฉลาดจนโด่งดังไปทั่วโลก และเมื่อต้นปี 2017 ที่ผ่านมา Razer ไปซื้อบริษัทมือถือ Nextbit จนล่าสุดคลอด Razer Phone มือถือที่ออกแบบทุกสิ่งอย่างมาเพื่อเล่นเกมส์โดยเฉพาะ!!!!

Razer Phone คือ โทรศัพท์ Smart Phone ที่อัดสเปคแรง ๆ เน้นเล่นเกมกันแบบลื่นๆ พร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่สบายตาด้วยจอ LCD แบบ Ultramotion ที่หน้าจอมีรีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ที่เหล่า Gamer ต้องร้อง “ว้าว” อย่างแน่นอน มาพร้อมกับความละเอียดแบบ 1440 X 2560 อัตราส่วน 16:9 ตอบโจทย์ชาว Gamer อย่างสมบูรณ์แบบ

มันคือ มือถือสำหรับฮาร์ทคอร์ตัวจริง

สเปคอย่างเป็นทางการ Razer Phone

  • ขนาดตัวเครื่อง 158.5 x 77.7 x 8 มม.
  • หนัก 197 กรัม
  • หน้าจอ 5.7 นิ้ว แบบ IGZO IPS LCD 
  • ความละเอียด QuadHD 1440 x 2560 รีเฟรชเรทเทพ ๆ ที่ 120 Hz
  • ซีพียู Snapdragon 835 แบบแปดแกน Octa core ความเร็ว 2.35 GHz Quad + 1.9GHz Quad
  • ชิพกราฟฟิก Adreno 540
  • แรม 8 กิ๊ก แบบ LPDDR4, 1866 MHz
  • หน่วยความจำในตัวเครื่อง 64 กิ๊ก
  • ระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ 7.1.1
  • ซิมแบบไฮบริด คือเลือกใส่ 2 ซิม หรือช่องซิม 2 เปลี่ยนไปใส่เมมโมรี่การ์ดแบบ Micro SD ได้สูงสุด 256 กิ๊ก
  • กล้องหลังคู่ Dual Camera ขนาด 12 ล้านพิกเซล โดยเลนส์นึงเป็นแบบ เลนส์มุมกว้าง (Wide-angle Lens) f/1.75 ส่วนอีกเลนส์เป็นเลนส์ซูม (Telephoto Lens)  f/2.6 พร้อมแฟรช Dual Tone
  • กล้องหน้า 8 ล้านเพกเซล f/2.0
  • แถมด้วยระบบกันสั่นแบบฮาร์ดแวร์ OIS (Optical Image Stabilization) ทั้งสองเลนสN
  • แบตเตอรี่ความจุ 4,000 มิลิแอมป์ พร้อมฟีเจอร์ Qualcomm quick charge 4+
  • ช่องเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
  • ไม่มีรูเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. แต่ให้อะแดปเตอร์แปลง USB Type C to 3.5 mm. แทน
  • ระบบเสียง Stereo Front-facing speakers พร้อม Dual Amplifiers
  • ส่งพลังเสียงด้วยเทคโนโลยี THX certified DAC
  • ปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือบนปุ่ม Power
  • ราคา 699 เหรียญสหรัฐ หรือ 5,990 เหรียญฮ่องกง ประมาณ 26,000 บาท
  • มีจำหน่ายสีดำ และรุ่นลิมิเต็ท สีดำโลโก้งูด้านหลังสีเขียว

https://www.razerzone.com/mobile/razer-phone

วันนี้ใจด่ีจัดรีวิวให้ทั้งแบบคลิปวีดิโอ และ แบบภาพนิ่ง เชิญเสพตามอัธยาศัย

รีวิวฉบับภาพนิ่ง

Razer Phone มากับกล่องสีดำใบใหญ่ดูพรีเมี่ยมสไตล์งูเขียว ด้านในการจัดวางเป็นระเบียบดูดีกว่าแพ๊คเกจสมาร์ทโฟนในระดับราคาเดียวกันเยอะ

อุปกณ์ในกล่องประกอบด้วย

  1. ตัวเครื่อง Razer Phone
  2. สายดาต้า / สายชาร์จ แบบ USB Type-C
  3. หัวปลั๊กชาร์จไฟบ้าน
  4. อะแดบเตอร์ USB Type-C เป็น รูหูฟัง 3.5 มม.
  5. คู่มือฉบับย่อ
  6. สติ๊กเกอร์ Razer
  7. เข็มจิ้มซิม

สังเกตุว่าเค้าไม่มีหูฟังมาให้ ดังนั้นหากต้องการหูฟังต้องซื้อแยก มีให้เลือกแบบบลูทูธ และ แบบหัว USB Type-C ราคาประมาณ 2,600 บาท หรือจะเอาหูฟังที่เกมเมอร์มักมีอยู่แล้วมาต่อกับอะแดปเตอร์ที่แถมมาในกล่องก็ได้

เข็มจิ้มซิมที่ดูดีมากกกกกกกก ดูมีดีไซน์กว่าไอโฟน และ ซัมซุงเยอะเลย 555

USB Type-C เป็น 3.5 มม. สำหรับต่อหูฟังที่มีอยู่กับตัวเครื่อง

ชุดสาย USB Type-C พร้อมอะแดปเตอร์ชาร์จไฟบ้านสวยงามมาก สายที่ใช้เป็นสายถักเช่นเดียวกับสายหูฟัง สายเม้าส์ ต่าง ๆ ของ Razer เอง ส่วนหัวปลั๊กมีโลโก้งู 3 ตัวชัดเจน….ถูกใจสาวกจริง ๆ ^^

อะแดปเตอร์จ่ายไฟที่ 2 แอมป์ รองรับ Qualcomm Quick Charge 4+

แน่นอนเครื่องนอกฮ่องกงเป็นแบบ 3 ขาใหญ่ ก็จัดการหาหัวแปลงมาเสียบให้เรียบร้อย

ขนาดตัวเครื่อง 158.5 x 77.7 x 8 มม. หนัก 197 กรัม หน้าจอ 5.7 นิ้ว แบบ IGZO IPS LCD ที่เป็นเทคโนโลยีของ Sharp มีดูแล้วสีจะจืดกว่า Super AMOLED อยู่หน่อย สัดส่วนหน้าจอ 16:9 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ดีที่สุดในการเล่นเกมส์ แต่จะทำให้ตัวเครื่องดูกว้างกว่ามือถือเรือธงตัวอื่น ๆ ในยุคนี้ที่นิยมสัดส่วน 18.5:9 อย่างที่ซัมซุงใช้อยู่ ทำให้การถือจับในท่ามาตรฐานรู้สึกไม่ค่อยสบายมือนักประกอบกับมุมทั้ง 4 ของตัวเครื่องจะแหลม ๆ ทำให้คนมือเล็กมีปัญหาในการใช้งานมือเดียวบ้าง แต่ถ้าใช้สองมือไม่มีปัญหา

หน้าจอความละเอียด QuadHD 1440 x 2560 รีเฟรชเรทเทพ ๆ ที่ 120 Hz โดยแกะกล่องออกมาจะตั้งค่าไว้ที่ 60 Hz และเราสามารถไปปรับตั้งได้ในหน้า Setting

Razer Phone ขับเครื่องด้วยซีพียู Snapdragon 835 แบบแปดแกน Octa core อันทรงพลังที่ความเร็ว 2.35 GHz Quad + 1.9GHz Quad เสริมความลื่นด้วยชิพกราฟฟิก Adreno 540 อัดแรมมาให้มากที่สุดในตลาดถึง 8 กิ๊ก แบบ LPDDR4, 1866 MHz

มีหน่วยความจำในตัวเครื่อง 64 กิ๊ก โดยใส่เมมโมรี่การ์ดแบบ Micro SD ได้สูงสุด 256 กิ๊ก ในช่องซิม 2 เพราะตัวนี้มาพร้อม 2 ซิมแบบไฮบริด

ตัวเรื่อนอลูมิเนียมสีดำด้าน ใช้งานจริงแอบลื่นเกือบหลุดมือหลายที ต้องรีบกดสั่งเคสจากอีเบย์โดยพลัน

เจ้าตัวนี้มาพร้อมกล้องหลังคู่ Dual Camera ขนาด 12 ล้านพิกเซล โดยเลนส์นึงเป็นแบบ เลนส์มุมกว้าง (Wide-angle Lens) f/1.75 ส่วนอีกเลนส์เป็นเลนส์ซูม (Telephoto Lens)  f/2.6 พร้อมแฟรช Dual Tone แถมด้วยระบบกันสั่นแบบฮาร์ดแวร์ OIS (Optical Image Stabilization) ทั้งสองเลนส์

แบตเตอรี่ความจุ 4,000 มิลิแอมป์ พร้อมฟีเจอร์ Qualcomm quick charge 4+

ด้านซ้ายมือของตัวเครื่องเป็นปุ่ม Power ที่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือประจำการอยู่ ตัวปุ่มแนบไปกับขอบตัวเครื่องไร้กังวลเรื่องนิ้วเผลอไปกดปุ่มปิดหน้าจอตอนกำลังเล่นเกมส์เข้าด้ายเข้าเข็ม 555

ช่องใส่ซิมแบบไฮบริดอยู่ด้านซ้ายบนตามภาพ

 

ด้านขวาของตัวเครื่องเป็นปุ่มปรับเพิ่ม – ลด เสียง ซึ่งย้ายจากตำแหน่งค่อนบน มาอยู่กลางเครื่องแทนซึ่งเชื่อว่าเพื่อให้สะดวกในการจับเล่นเกมส์ในแนวนอน โดยการจับสองมือจะได้ไม่ไปโดนปุ่มปรับเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ

ด้านล่างไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. มีเพียงช่อง USB Type-C เอาไว้ชาร์จแบตฯ และโอนถ่ายข้อมูล โดยสามารถซื้อหูฟังแบบแจ๊ค USB Type-C ของ Razer รุ่น Hammerhead ได้ หรือจะใช้หูฟังเดิมก็ได้เพราะเค้ามีหัวแปลงแถมมาให้ในกล่อง

ด้านบนของตัวเครื่องเรียบ ๆ มีเพียงรูไมโครโฟนสำหรับอัดเสียงขณะถ่ายวีดิโอเท่านั้น

Razer Phone รุ่นนี้มาพร้าระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ 7.1.1 แบบเกือบ ๆ เพียวแอนดรอยด์ แต่ติดตั้ง Nova Launcher มาให้ใช้งาน ใครไม่ชอบก็ไปโหลดแอพฯ จัดการหน้าจอ หรือ Launcher มาได้ โดยในภาพด้านบนเป็น Apex Launcher ที่ผมชอบใช้งาน เพราะฟีเจอร์น้อย เลยรู้สึก “มโน” เอาว่ามันน่าจะไม่กินทรัพยากรณ์ของเครื่อง อิ อิ

ด้านหน้ามาพร้อมระบบเสียง Stereo Front-facing speakers ที่ติดตั้งอยู่บน และ ล่างของขอบจอ พร้อม Dual Amplifiers ส่งพลังเสียงด้วยเทคโนโลยี THX certified DAC

กล้องหน้า 8 ล้านเพกเซล f/2.0 อยู่ด้านบนของหน้าจอ

 

การควบคุมด้วยปุ่มบนหน้าจอดังเช่นแอนดรอยด์ทั่วไป ไม่สามารถปรับตำแหน่งของปุ่มได้นะจ๊ะ

อย่างที่บอกว่าเจ้า Razer Phone ตัวนี้มันจะออกเหลี่ยม ๆ หน่อย มุมทั้ง 4 ของตัวเครื่องแหลมได้ใจมว๊ากกกก

นอกจากความเทพที่สามารถปรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอได้สูงสุดที่ 120 เฮิร์ทส์ แล้ว หากอยากปรับเป็น 60 เฮิร์ทส์ เพื่อความสบายใจว่าทุกแอพฯ ในแอนดรอยด์จะไม่มีปัญหาแล้วหล่ะก็ เค้ามี Game Booster ให้เราปรับตั้งค่าความแรงได้ โดยสามารถปรับแยกแต่ละเกมส์ / แอพส์ ได้อย่างอิสระ โดยในภาพด้านบนเกม RoV ผมปรับความแรงสุดทุกอย่างไม่ว่า CPU 2.3 GHz ความละเอียดหน้าจอ 1440p และ รีเฟรชหน้าจอที่ 120 Hz จัดเต็มกันไปเลย ที่สำคัญสามารถเซฟโปรไฟล์เป็นของตัวเองได้ด้วย…..เทพของแท้

แรม 8 gb แบบจัดเต็ม เปิดเครื่องใช้งานจริง เหลืออีก 5.8 gb ในโหมดการใช้งาน Normal หรือโหมดปกติ เรียกว่าเหลือเฟือ

นอกจากนี้ยังมีแอพฯ Razer Zone ให้เราเข้าไปโหลดธีม และ วอลเปเปอร์ต่าง ๆ มาใช้งานให้ถูกจริตคนรักเกมส์ด้วยนะเออ…..ขอคารวะในรายละเอียดจริง ๆ

เจ้า Razer Phone นี้ราคา 699 เหรียญสหรัฐ หรือ 5,990 เหรียญฮ่องกง ประมาณ 26,000 บาท ราคาแพงกว่า Note 8 ถูกกว่า iPhone X แต่เค้าไม่แคร์ เพราะเค้าไม่ได้เกิดมาเอาใจทุกคน แต่เค้าเกิดมาเอาใจฮาร์ทคอร์ตัวจริงเท่านั้น!!!!

อ้อ เคั้ามีจำหน่ายสีดำเท่านั้น และออกรุ่นลิมิเต็ท สีดำโลโก้งูด้านหลังสีเขียว ที่หาซื้อไม่เจอเลย หมดเกลี้ยง

ถามว่าลองเล่นแล้วเป็นไง?

ปราดแรกเลย ตกใจเครื่องใหญ่มาก แต่พอลองถือแล้ว เออไม่หนักนะ มันหนักกว่า Note 8 แค่ 2 กรัมเอง หน้าจอสวยงาม ด้วยความกว้างของหน้าจอแบบมาตรฐาน ทำให้จอ 5.7 นิ้ว ดูใหญ่สะใจกว่าจอ 6 นิ้วแบบไร้ของที่จะแคบ ๆ ยาว ๆ เยอะทีเดียว พลังเสียงสะใจ ซึ่งในคลิปรีวิวแกะกล่องแบบกาก ๆ มีแอบให้ดูนิดนึงแล้วความลื่นไหลขั้นเทพ นี่แค่ปรับใช้งาน 60 เฮิร์ทซ์ ดูลื่นกว่าแอนดรอยด์เครื่องอื่น ๆ ในมือเลยครับ

ตอบได้คำเดียว “ประทับใจมาก”

สำหรับการใช้งานยาว ๆ รวมไปถึงเล่นเกมส์หนัก ๆ จะเป็นอย่างไร ลำโพงกระหึ่มแค่ไหน ฉบับเต็มเดี๋ยวทดสอบให้เต็มที่แล้วจะรีบออกรีวิวให้เสพนะครับพี่สัญญา ^^

_________________________________________

xenonart80x80

ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย

กด LIKE Facebook Fanpage ไว้ติดตามรีวิวดี ๆ และพูดคุยกันครับ

http://www.facebook.com/xenonartpage

Facebook-Like

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art