นี่คือคัมภีร์ Singapore Chili Crab ฉบับง่าย สไตล์เที่ยวรวดเร็ว มาดูกันว่าร้านดังต่าง ๆ จะต่างกันอย่างไร ใครควรไปร้านไหน #NoSignBoard #Jumbo #LongBeach #ClarkQuay #Seafood #Singapore #ChiliCrab

ดังนั้นจะแนะนำร้านที่สะดวก เหมาะกับครอบครัว เดินทางง่าย อร่อย จากประสบการณ์ที่ไปชิมมาจากการต้องไปประชุมที่โน่นบ่อย ๆ บางร้านมีหลายสาขา ก็เลือกสาขาที่เหมาะที่สุด ใครที่ติดตามกิน-เที่ยวสไตล์พี่อาร์ตคงทราบดี และมักจะมีเพื่อนฝูงถามว่าไปกินร้านไหนดี

เป็นคำถามง่าย ๆ แต่ก่อนจะตอบต้องโพรเซสข้อมูลหลายอย่างทีเดียว สิ่งที่เป็นตัวแปรหลัก ๆ ในการเลือกจะมีดังนี้

  1. ไปกินสไตล์ไหน ครอบครัว คู่รัก เพื่อนฝูง หรือเลี้ยงแขก
  2. ชอบรสชาติแบบไหน
  3. มีเวลาเตรียมตัวหรือไม่

ตัดสินใจบินไปตั้งใจไล่ชิมอีกรอบ เพื่อให้รีววินี้สมบูรณ์…คือบางทีส่วนตัวเป็นคนเยอะนิดนึง คือกลัวตอบไปแล้วไม่ตรงเป้า และก็คัดมาแนะนำได้ดังนี้ โดยทุกร้านสามารถพาลูก พร้อมรถเข็นเด็กไปได้ไม่มีปัญหา

  1. Jumbo Seafood @ Dempsey – สำหรับคนชอบหวาน มีเมนูอร่อยหลายอย่าง
  2. Long Beach @ Dempsey – ปูอร่อยล้ำ แต่อาหารอย่างอื่นเฉย ๆ มีห้อง VIP เลี้ยงแขกหล่อ ๆ
  3. No Signboard Seafood @ Vivo City – อร่อยทุกอย่าง อยู่ในห้าง มี Toy R Us ใกล้ Sentosa ปูศรีลังกาต้องสั่งล่วงหน้า
  4. Clark Quay Seafood – อร่อย บรรยากาศดี จิบไวน์ริมแม่น้ำย่าน Clark Quay โรแมนติกมาก

Jumbo Seafood Restaurant 

มีหลายสาขาเดินทางง่าย มีที่เที่ยวต่อต้อง Clark Quay แต่คนเยอะเว่อร์ และเสียงดังหนวกหูมากกกกกก กอไก่ล้านตัว ไปแล้วไม่ชอบเอาเสียเลย

สายฮิป สายชิลด์ หรือ สายรถเข็นเด็กอย่างผมแนะนำสาขา Dempsey Hill จาก Orchard มาไม่ยาก เรียกแท๊กซี่บอกไป Jumbo at Dempsey Hill เค้ารู้ทันที ค่ารถประมาณ 10 – 15 เหรียญ แล้วแต่ช่วงเวลา

Jumbo Seafood สาขา Dempsey Hill

มื้อเที่ยง
12pm – 3pm (last order at 2.15pm)

มื้อเย็น
5.30pm – 11.30pm (last order at 10.30pm)

ใครจะไปร้านนี้แนะนำจองโต๊ะผ่านเวป สามารถระบุ วัน เวลา และ จำนวนคนได้ง่าย ๆ ที่ลิ้งค์นี้

https://www.jumboseafood.com.sg/en/reservations

ข้อมูลสาขาอื่นดูได้ที่ https://www.jumboseafood.com.sg/en/our-outlets
รีวิวฉบับเต็ม>>>คลิ๊กที่นี่ 

ที่แนะนำมา Demsey Hill เพราะเป็นแหล่งเก๋ ๆ มีร้านอาหารมากมาย มีร้านกาแฟฮิป ๆ และร้านขายของชำสไตล์อังกฤษให้เดินซื้อของด้วย

อย่างร้าน Jones ด้านบน มีขนมปัง และครัวซองต์อร่อยเด็ด ซื้อเอาไว้ทานกับกาแฟเป็นมื้อเช้ารับรองติดใจ อีกอย่างนึงที่ต้องซื้อเลยคือ Truffle Spread หอมโดนใจ

จะแวะเดินซื้อของก่อน หรือไปกินก่อนก็ได้เพราะแถวนี้ปิดดึกทุกร้าน จากร้าน Jones เดินมาฝั่งตรงข้ามลานจอดรถก็จะเจอร้าน Chili Crab ร้านแรก Jumbo Seafood ชื่อที่นักท่องเที่ยวเกือบทุกคนรู้จักดีเพราะถือเป็นร้านมาตรฐานสำหรับนักท่องเที่ยว อารมณ์สมบูรณ์โภชนานั่นแหละ แต่……ร้านนี้คนสิงคโปร์เองเค้าบอกเป็น Tourist spot คือ เอาไว้ดักนักท่องเที่ยวนะ คนพื้นที่ไม่ค่อยกิน

จากการไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง ผมว่าคนสิงคโปร์ก็เยอะอยู่นะ เพียงแต่ส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยว 555

รสชาติโดยรวมอร่อยดี ปูมีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่โลนึง โดยเป็นปูศรีลังกา แต่หากอยากลองปูอื่นก็มีปูอลาสก้าให้ลองด้วย (แต่แพงและไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่) รสชาติจะออกหวานน้ำซอสมะเขือเทศนำมาเลย รสเผ็ดอ่อน ๆ ตามมีทีหลัง เหมาะสำหรับคนชอบหวาน

เมนูอื่น ๆ อร่อยดี ที่สำคัญเค้ามีขายผง Chili Crab, Cereal Crispy Shrimp และ บักกุ๊ดเต๋ ขายด้วยเผื่อใครอยากเอามาผัดกินเองที่บ้าน ผมลองซื้อ บักกุ๊ดเต๋ มาทำแล้ว อร่อยดี เหมือนกินที่สิงคโปรเลย ใครไปทานที่นี่แนะนำอย่างแรงว่าให้ซื้อกลับมาทำกินเอง หรือเป็นของฝากก็ได้นะ

Long Beach @ Dempsey

เครดิตภาพจาก SG Asia-city

LONG BEACH @Dempsey

ที่อยู่ 25 Dempsey Road, Singapore 249670
เปิด ทุกวันเวลา 11 โมงเช้า-บ่ายสาม และ ห้าโมงเย็น-ตีหนึ่ง
โทร จองได้ที่ +65 6323 2222
สาขา อื่นดูได้ที่ http://longbeachseafood.com.sg/contact-us/
วิธีไป – โบกแท๊กซี่แล้วบอกไป “ลองบีช แอด แดมพ์ซี่ ฮิล”
รีวิวฉบับเต็ม>>>> คลิ๊กที่นี่

ร้านนี้ไปกินหลายรอบ ส่วนมากไปกินเลี้ยง ไม่ว่าเค้าเลี้ยงเรา หรือเราเลี้ยงแขก ซึ่งข้อดีคืออยู่บน Dempsey Hill แอเรียเก๋ ๆ ที่มีครบทุกอย่าง เดินเล่นได้ ไม่ห่างจาก Orchard มากนัก ร้านอาหารใหญ่โต มีห้อง VIP เป็นส่วนตัว สามารถจองล่วงหน้าเพื่อจัดเลี้ยงได้

Chili Crab ที่นี่รสชาติอร่อยที่สุดเท่าท่ี่ทานมา รสชาติไม่หวานมาก บาลานซ์รสชาติได้ดีมาครบทั้งหวาน เค็ม เผ็ดนิด ๆ  เอาหมั่นโถวทอดจิ้มซอสกินก็ยิ้มเหมือนขึ้นสววรค์แล้ว ร้านนี้ดีวามถูกปากทั้งผม ภรรยา รวมถึงคนชาติอื่น ๆ ที่พาไปทาน แต่……คหสต. ผมว่าอาหารอื่น ๆ อย่างผัดผักในน้ำซุป เนื้อผัดซอส กุ้งทอดซีเรียล รสชาติกลาง ๆ ทานได้ ไม่ได้อร่อยล้ำเท่าไหร่นัก ถือว่าผิดหวังเล็ก ๆ ซึ่งแปลกใจมากเพราะไปทานมาหลายครั้งไม่รู้สึกอะไร กินไปคุยไปเพลิน ๆ แต่ครั้งหลังสุดพาภรรยาไปทานเพื่อถ่ายรีวิว ถึงจะเพิ่งรู้สึกว่าเมนูอื่นไม่อร่อยเท่าร้านคู่แข่ง

วันนั้นปูที่สั่งเป็น 1.7 กิโล เป็นปูศรีลังกาเหมือนเคย ขนาดเทียบกับ iPhone 7 ที่กำลังจะตกรุ่นในอีกไม่กี่วัน ถือว่าใหญ่สะใจดีมาก เนื้อแน่น หวานตามาตรฐานสิงคโปร์นะ ทุกร้านที่ไปชิมมา ยังไม่เจอร้านไหนปูไม่ผ่านเลย ต่างกันก็แค่รสชาติของ Chili Sauce เท่านั้น

โดยรวมร้านนี้ผมก้ับภรรยาคุยกันแล้ว ชอบทุกอย่าง เสียอย่างเดียวเมนูอื่นไม่ถูกปาก คงไม่ได้ไปบ่อยนัก แต่ถ้าจะเลี้ยงแขก หรือไปกินกลุ่มใหญ่ ๆ ร้านนี้เป็นตัวเลือกแรก ๆ เพราะจองห้อง VIP ได้ มีความเป็นส่วนตัว ปูที่เป็นไฮไลท์อร่อยมาก เมนูอื่น ๆ กินไปคุยก็อร่อยดี หากไม่ได้ไปจ้องจับผิดเหมือนผมที่ตั้งใจไปกินเพื่อรีวิวในคร้้งล่าสุด

No Signboard Seafood

สาขา Vivo City

เวลาเปิด-ปิด 11:00 – 22:30 ยาว ๆ เพราะอยู่ในห้างฯ

ข้อมูลสาขาอื่นดูได้ที่ https://nosignboardseafood.com/#pgBranches

จองโต๊ะที่นี่ https://nosignboardseafood.com/#pgReservations

รีวิวฉบับเต็ม>>>> คลิ๊กที่นี่

ร้านนี้มีตำนาน เพราะชื่อ “ร้านไม่มีชื่อ” หรือ No Sighboard นั้นมาจากต้นกำเนิดของร้านที่เปิดในย่านเกลัง / Geylung ซึ่งเป็นย่านท่องราตรีอันโด่งดัง ร้านเค้าเป็นร้านเล็ก ๆ รสชาติดี มีลูกค้าบอกกันปากต่อปาก อารมณ์เจ้ง้อในสมัยเปิดร้านครั้งแรก แต่…..ร้านนี้เค้าไม่มีชื่อร้าน เวลาคนบอกกันปากต่อปากเค้าก็จะบอกว่า “ไอ้ร้านที่ไม่มีชื่อร้านนั่นแหละ” “The restaurant that has no signboard” จนกลายมาเป็น “No Signboard Seafood Restaurant” ในทุกวันนี้ ซึ่งขยายไปหลายสาขาในสิงคโปร์

เลือกสาขา Vivo City ที่มีสถานีรถไฟฟ้าเข้า Sentosa เพราะสะดวก อยู่ในห้างใหญ่ยักษ์อลังการ มีทุกอย่างให้เลือกสรร เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ที่สำคัญมี Toy R Us ที่ใหญ่กว่าฮ่องกงเท่าตัว!!!! ส่วนราคาของเล่นที่นี่ถูกกว่าฮ่องกงนิดหน่อย แถมทำ Tax Refund ได้ด้วย

การมาสาขานี้ไม่ยากเนอะ รถไฟใต้ดินสบาย ๆ ส่วนพี่อาร์ตนั่งแท๊กซี่เช่นเคย บอกเค้าไป วีโว่ซิตี้ รู้เรื่องทุกคัน พอแท็กซี่จอดแล้วก็เดินขึ้นบันไดเลื่อนมาชัน 3 ตรงสถานีรถไฟฟ้าเข้า Sentosa จากนั้นเดินออกมาลานด้านนอกเลี้ยวซ้ายไปก็เจอแล้ว

เวลาเปิด-ปิด 11:00 – 22:30 ยาว ๆ เพราะอยู่ในห้างฯ

ข้อมูลสาขาอื่นดูได้ที่ https://nosignboardseafood.com/#pgBranches

จองโต๊ะที่นี่ https://nosignboardseafood.com/#pgReservations

Chili Crab ที่นี่นับว่ารสชาติอร่อยมาก เทียบแล้วรสชาติอยู่ตรงกลางระหว่าง Jumbo และ Long Beach คือไม่หวานมากเหมือน Jumbo แต่ก็ไม่รสจัดเท่า Long Beach ถือว่าอร่อยกำลังดี กลาง ๆ ทานง่าย เหมาะกับทุกคน ที่สำคัญเมนูอื่นอร่อยทุกเมนู เรียกว่าสั่งอะไรก็อร่อย ถือเป็นร้านโปรดประจำครอบครัวผมไปเรียบร้อยแล้วทั้ง ๆ ที่ทุกคนชอบ Chili Crab ของ Long Beach ที่สุด แต่โดยรวมมา No Signboard ได้อร่อยทุกอย่าง โลเคชั่นเป็นเลิศ ช๊อปของลูกต่อได้สบาย ๆ

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของ No Signboard คือ “ไม่มีปูศรีลังกา” นะจ๊ะ มีเสริฟเฉพาะปูอลาสก้า กับ ปูแคนาดาตัวเป็น ๆ ในตู้ หากต้องการปูศรีลังกาต้องสั่งล่วงหน้า 3 วัน ซึ่งสามรถโทรสั่งได้ที่เบอร์ +65 6376 9959

หรือเขียนในรีเควสตอนจองผ่านหน้าเวปดูก็ได้ แต่ผมแนะนำเลือกโทรดีกว่า ได้กินแน่นอน 555

ดังนั้นร้านนี้เป็นร้านที่ต้องมีแผนล่วงหน้านิดนึงหากต้องการฟินกับปูศรีลังกาสด ๆ หวาน ๆ ที่แอบบอกว่าหวาน และ เนื้อแน่นกว่าปูศรีลังกาที่ขายในบ้านเรา

กรณีไปแบบไม่ได้วางแผน หรือ ไม่มีเวลาสั่งล่วงหน้า 3 วันอันน่ารำคาญแล้ว สั่งปูแคนาดาเอาก็ได้ ตัวละ 1 กิโล แม้ก้ามจะไม่ใหญ่ถ่ายรูปอวดเพื่อไม่สวย แต่เนื้อหวาน แน่นอร่อยมาก เนื้อปูแคนาดาจะมีรสชาติ และผิวสัมผัสคล้ายปูทะเลบ้านเรา สด แน่น หวานกำลังดีเข้ากับ Chili sauce ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญตัวละ 128 เหรียญ หรือ ประมาณ 3,200 บาท

อีกตัวเลือกนึงเป็นปูอลาสก้าไฮโซ ตัวนึงเกือบสองโล สำหรับคนใจถึงอยากลองปูอลาสก้าสไตล์จีน ๆ นี้ ลองสั่งมาแล้ว ตัวใหญสะใจ มีพนักงานตัด เลาะกระดองเปลือกให้เสร็จสรรพ ใส่ถุงมือแล้วหยิบกินชิลด์ ๆ นับเป็นประสบการณ์ที่ดีทีเดียว (หากไม่นับราคา) เนื้อปูหวานกว่าปูศรีลังกา และ แคนาดา ทำให้ผัดออกมาแล้วจะซอสหวานกว่าเดิม ที่สำคัญไปกัน 2 คนกินไม่หมดจร้า

สรุปแล้วถ้าไปแบบไม่ได้วางแผนให้สั่งปูแคนาดา ดีกว่า นอกเสียจากไปกับเกิน 4 คน สั่งปูอลาสก้าคุ้มกว่า และตอนนี้ No Signboard เป็นร้านโปรดของครอบครัวไปแล้ว

Quayside Seafood Restaurant

ร้านเล็ก ๆ อยู่ท้ายน้ำของ Clark Quay ตั้งชื่อเก๋ไก๋ว่า Quayside Seafood ร้านเงียบ ๆ เหมาะสำหรับคนไม่ชอบความวุ่นวาย นั่งทานกระหนุงกระหนิงพร้อมวิวสวยกลางเมือง กินเสร็จแล้วเดินดูแสงสีของ Clark Quay ย่อยอาหาร หรือจะเลือกร้านเก๋ ๆ นั่งดริ้งค์กันต่อกับเพื่อนฝูง หรือ คนสนิทก็ได้ทั้งนั้น เชื่อว่าจะเป็นร้านที่โดนใจใครหลายคน โดยเฉพาะคนหนีลูกไปเที่ยว 555

เครดิตภาพ 2 บนจากเวปร้าน quayside เพราะไปทานตอนกลางคืน มืดมาก ไม่สวยเลย 555

เดินทางไม่ยาก นั่งรถไปลง Clark Quay จากจุดลงแท็กซี่ เดินไปทาง Hooter’s โดยให้ Hooter’s อยู่ขวา แม่น้ำอยู่ซ้าย จากนั้นเดินตามทางไปเรื่อย ๆ จนเกือบสุดก็จะเจอ Quayside แล้ว หากเดินต่อไปอีกหน่อยก็จะทะลุออกตึก Liang Court มี 7-11 และ Taxi Stand ซึี่งคนไม่เยอะนะ แอบมาขึ้นรถตรงนี้บ่อย ๆ

ข้อมูลเพิ่มเติมและจองโต๊ะออนไลน์ดูได้ที่ http://quaysidedining.com/

นอกจากความโรแมนติค ปนบรรยากาศสนุกสนานในบริเวณ “คล๊ากคีย์” แล้ว Chili Crab ร้าน Quayside / คีย์ไซด์ เสริฟปูศรีลังกาสามารถเลือกขนาด น้ำหนัก และ ขอดูปูก่อนนำไปปรุงได้ว่ายังเป็นอยู่หรือไม่ รับประกันความสดหวาน เนื้อแน่นชัวร์

สำหรับรสชาตินั้น ออกหวานนิด ๆ เผ็ดหน่อย ๆ กลมกล่อมกำลังดี ร้านนี้เป็นร้านที่พาภรรยาไปทาน Chili Crab ครั้งแรก และทำให้เธอติดใจจนต้องพาไปลองอีกหลาย ๆ ร้าน…..สรุปว่าพาภรรยาไปแล้วยาวแน่นอน

#พ่อบ้านควรระวัง #กระเป๋าพังอย่าโทษพี่

โดยรวมหากเทียบแล้วจะหวานน้อยกว่า Jumbo แต่เข้มข้นไม่เท่า No Signboard นะ เมนูอื่น ๆ อร่อยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเมนูมาตรฐานสิงคโปร์อย่างกุ้งทอดซีเรียล ก็ถูกปาก แถมบรรยากาศดี จิบไวน์ไปด้วยเลอเลิศ เรียกว่าเป็นร้านที่เหมาะกับอารมณ์โรแมนติค หนีลูกเที่ยวอะไรทำนองนี้ หากพาลูกไปด้วย หรือไปเป็นกลุ่มใหญ่ ผมว่าราคาแพงไป ไปกินที่อื่นดีกว่าไม่ต้องจ่ายค่าบรรยากาศ นอกเสียจากจะเที่ยวต่อที่ Clark Quay ถือว่า Quayside ครบจบในที่เดียว

++++++++++++ บทส่งท้าย ++++++++++++

สำหรับคนที่พากันไปแบบครอบครัวพร้อมลูกเล็ก ไม่ต้องห่วง สิงคโปร์ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัย และถือเป็นประเทศพัฒนาแล้วไม่ด้อยไปกว่าญีุ่่ปุ่น ร้านอาหารเกือบทุกร้าน ที่ไม่ใช่ข้างทาง และ ฟู๊ตคอร์ท จะมีเก้าอี้เด็กไว้คอยบริการเสมอ เดินทางสะดวก เรียกแท๊กซี่มาจอดเค้าเห็นรถเข็นเด็กปุ๊ป เปิดท้ายรถให้เลย บางคันลงมาช่วยเก็บรถเข็นอีกต่างหาก พอนั่งในรถคนขับมักจะชวนเด็ก ๆ คุย ทำ้ให้ได้ประสบการณ์ดี ๆ หลายอย่าง

ปล. เพื่อนสิงคโปร์ บอกเดี่ยวนี่้คนที่นี่เค้าเรียก Grab กับ Uber กันแทนแท๊กซี่โบกแล้ว เพราะมี Promo Code ลดราคาบ่อย ๆ เดินทางถูกกว่าแท๊กซี่โบกทั่วไป

นอกจากเมนู Chili Crab แล้ว ปูผัดพริกไทยดำก็เป็นอีกเมนูที่คนสิงคโปร์ชอบสั่งกัน และด้วยผมไม่ทานพริกไทยดำ เลยไม่มีโอกาสได้ลอง จากการสอบถามเพื่อนสิงคโปร์ เค้าบอกเมนูนี้ No Signboard ชนะเลิศนะ

วันนี้แนะนำ 4 ร้านเด็ด ร้านดังที่คนชอบพูดถึง จะได้รู้ว่าแต่ละร้านเป็นอย่างไร ควรเลือกไปทานร้านไหนดี บอกเลยทั้ง 4 ร้านไม่มีร้านไหนถูก ราคาต่อมื้อเตรียมไว้เบา ๆ 5,000 บาทเพื่อความสบายใจ แต่รับรองจะได้ประสบการณ์ดี ๆ และรูปสวย ๆ มาลงโซเชี่ยลเยอะเลย 555

พอมาเขียนรีวิวสิงคโปร์ เพิ่งรู้สึกตัวว่า ทั้ง ๆ ที่ปากบอกไม่ชอบไปสิงคโปร์ แต่ไปบ่อยมากกกกกกกก ทั้งไปประชุมในธุรกิจของตัวเอง ไปงานเปิดตัวมือถือที่เค้าเชิญไปบ้าง จับฉลากไปบ้าง พาครอบครัวไปเที่ยวบ้าง นับแล้วปีนึงไปหลายรอบเหมือนกัน ปีนี้ก็ 4 รอบแล้ว ^^!

ไว้ว่าง ๆ จะรีวิวแต่ละร้านแยกออกมาเพราะถ่ายรูปมาเยอะ มีหลายเมนูอร่อยของแต่ละร้านด้วย รวมถึงยังมีร้านปูเด็ด ๆ อีกหลายร้าน เดี๋ยวไปลุยแล้วมาเล่าให้ฟังอีกนะ ติดตามกันไว้ทั้งหน้าแฟนเพจสำหรับอัพเดทเรื่องกิน เที่ยว และแหล่งของเล่นในสิงคโปร์

_________________________________________

หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย

ฝากกดไลค์ติดตามเพจ “ล้านเรื่องราว กับพี่อาร์ต” ด้วยนะจ๊ะ

https://www.facebook.com/storywithArt

Facebook-Like

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art