ไตรภาครีวิว แรกสัมผัส Galaxy S5 เจาะลึกตัวเครื่องทุกซอกมุม

วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วกับ Samsung Galaxy S5 และ แน่นอนที่ xenon_art จัดรีวิวมาให้เสพกันเช่นเคยด้วย ไตรภาครีวิวตอนแรก

เชื่อว่าคงจะแปลกใจกันเล็กน้อยกับพาดหัวที่เปลี่ยนจาก “แกะกล่อง” กลายเป็น “แรกสัมผัส” เนื่องจากตัวนี้ผมได้รับเครื่องทดสอบจาก ซัมซุง ประเทศไทย ห๊ะ!!! ได้รับเครื่องทดสอบจากซัมซุง เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย ยังไงขอบคุณซัมซุงประเทศไทยด้วยนะคร้าบ

เนื่องจากได้มาแต่เครื่องเท่านั้น จึงไม่มีกล่อง ไม่มีอุปกรณ์ให้ชมกัน จากแกะกล่องเลยกลายพันธ์เป็นแรกสัมผัสแทน ว่าแล้วมาเริ่มเจาะลึกตัวเครื่องทุกซอกทุกมุมกันเลย เริ่มจาก spec ก่อน

จ่ายเงินไป 23,800 บาท ท่านจะได้

หน้าจอ Super AMOLED full HD ขนาด 5.1 นิ้ว
ตัวเครื่องขนาด 142×72.5×8.1 มม. หนัก 145 กรัม
CPU Snapdragon 801 QuadCore ความเร็ว 2.5 GHz
หน่วยความจำในตัวเครื่อง 16 กิ๊ก เหลือใช้จริง 7.8 กิ๊ก (โดยประมาณ)
ใส่เมมโมรี่การ์ดได้สูงสุด 128 กิ๊ก
แรม 2 กิ๊ก
ระบบปฏิบัติการ Kitkat 4.4.2
กล้องหน้า 2.1 ล้านพิกเซล
กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล
แบตเตอรี่ 2,800 มิลิแอมป์

ตัวเครื่องด้านหน้าสีดำมาพร้อมหน้าจอขนาด 5.1 นิ้ว หน้าจอชัดเว่อร์ สีสรรคมกริบด้วยหน้าจอ Super AMOLED FullHD

ด้านหลังที่ฝาปิดแบตเตอรี่เป็นพลาสติคบาง ๆ เคลือบด้วยวัสดุคล้ายยางเหมือนฝาหลังของ Note3 สีดำ แต่ปั๊มรูเพิ่ม ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนหนัง

สรุปทั้ง Note3 และ S5 ฝาหลังไม่ใช่หนังสักกะอัน จะเรียกหนังเทียมก็ไม่ได้เพราะมันเป็นยางเคลือบบนพลาสติคทำให้เรา “มโน” ว่ามันคือหนัง แต่….มันจับกระชับมือมาก ๆ ขอบอก

ส่วนใครที่คิดว่าจะซื้อเคส หรือ Flip Cover มาใส่อยู่แล้ว ฝาหลังจะเป็นอะไรก็ช่างเถอะ เนอะ ๆ ๆ ^^

Galaxy S5 มากับกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซลพร้อมลูกเล่น หน้าตาปรับโฉมใหม่เกือบหมด แถมฟีเจอร์สุดล้ำแห่งปี 2014 ที่จะกลายเป็นเทรนด์สำหรับเครื่องรุ่นอื่น ๆ ก็คือ Selective Focus ทำให้เราสามารถถ่ายรูปแล้วค่อยมาเลือกทีหลังว่าจะเอาแบบ ชัดตื้น หรือ ชัดลึก หรือ จะชัดเท่ากันทั้งภาพ และทีเด็ดคือจะทำกี่ครั้งก็ได้

ข้อเสียคือ หากใช้โหมด Selective Focus เราจะสูญเสียความสามารถของโฟกัส 0.3 วิไปทันที โดยการถ่าย Selective Focus ทั้งกล้อง และ คนที่ถูกถ่ายต้องอยู่นิ่ง ๆ ราว 3 – 4 วินาที ขึ้นอยู่กับสภาพแสง

ใต้กล้องถ่ายรูปจะเป็นไฟแฟรช LED 1 ดวง ถับไปข้าง ๆ เห็นรูปกลม ๆ 2 อันนั่นคือเซนเซอร์วัดการเต้นของหัวใจที่ต้องบอกก่อนนะว่าเอาไว้วัดดูกันเองสนุก ๆ ไม่สามารถอ้างอิงทางการแพทย์ได้ แต่อย่างน้อยทำให้เรารู้อัตราการเปลี่ยนแปลงของหัวใจขณะออกกำลังกาย

ด้านล่างมีลำโพงด้านนอก จริง ๆ เครื่องที่ขายจริงจะมีคำว่า LTE แปะอยู่แถวนี้ด้วย แต่ตัวนี้เป็นเครื่องทดสอบเลยไม่มีมั๊ง

ขอบข้างได้แรงบันดาลใจจาก Note3 ต่างกันตรงที่เส้นของไม่คมสวยเหมือน Note3

ด้านข้างซ้ายมือของตัวเครื่องมีเพียงปุ่ม Power เท่านั้นตามสไตล์ซัมซุง

ตัวเครื่องโดยรวมหนาพอ ๆ กับ S4 แต่ด้วยการออกแบบโดยรวม ตอนจับถือครั้งแรก ๆ จะ “จิ้น” ไปเองว่ามันหนากว่า S4 และ หน้าแตกไปตามที่ผมเคยบ่นไว้ในบทความ

5 สิ่งที่ผิดหวัง Samsung Galaxy S5…ความเห็นมั่ว ๆ ก่อนจับเครื่องจริง

ด้านข้างขวามือก็มีปุ่มปรับเพิ่ม – ลดเสียง เช่นเคย ซึ่งการใช้งานโดยรวมใช้ได้ดีแม้ปุ่มจะดูเรียวบาง แต่กดไม่พลาดนะ

บนที่เห็นรูกลม ๆ ใหญ่ ๆ คือช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.

ทางด้านซ้ายมือของเรา ช่องดำ ๆ รี ๆ จะเป็นช่องอินฟราเรท เอาไว้ใชักับตอนแปลงร่าง S5 ให้กลายเป็นรีโมททีวีราคาสองหมื่นกว่าบาท 555

รูเล็ก ๆ เท่ารูเข็มเป็นรูไมโครโฟนสำหรับอัดเสียงขณะถ่ายวีดิโอ

ด้านล่างที่ปกติเป็นช่องต่อสายดาต้า / สายชาร์ตนั้น คราวนี้มาพร้อมฝาปิดกันน้ำที่ต้องเปิดออกทุกครั้งเวลาจะเสียบสาย ตอนปิดเข้าไปให้ระวังดี ๆ ต้องปิดสนิทจริง ๆ ไม่งั้นน้ำเข้านะจ๊ะ

สังเกตุว่าบนฝาปิดจะมีขอบยางซิลิโคนคุณภาพสูงเอาไว้ Dust Tight หรือ ปกป้องฝุ่นละออก และ ซีลช่องไม่ให้น้ำเข้า

กันน้ำ กันฝุ่น แถมฝาหลังถอดได้ นับว่าเป็นแอนดรอย์ตัวเดียวในตลาดที่ทำได้แบบนี้ ยี่ห้ออื่น ๆ กันน้ำแต่เปิดฝาหลังไม่ได้

เปิดขึ้นมาจะเจอแบตเตอรี่ขนาดคุ้นตา แต่คราวนี้มันมาพร้อมความจุ 2,800 มิลิแอมป์ มากกว่า S4 200 มิลิแอมป์ ซึ่งจะทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น แถมหากใช้โหมด Power Saving เหลือแบต 10% ยังสามารถใช้งานได้ต่อไปอีกประมาณ 10 ชั่วโมง

ช่องใส่ซิมขนาดเล็ก หรือ Micro Sim เป็นขนาดมาตรฐานของสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ขณะที่ iPhone หนีไปใช้ขนาดจิ๋ว หรือ Nano Sim ทำให้คนใช้ไอโฟนเริ่มบ่น ๆ แล้วว่าใช้ร่วมกับใครไม่ได้เลย

ช่องใส่ Micro SD หรือ เมมโมรี่การ์ดจะทับอยู่บนช่องใส่ซิมตามภาพด้านบน

สังเกตุฝาหลังดี ๆ จะเห็นขอบยางซิลิโคนที่ทำหน้าที่ปกป้องตัวเครื่องจากฝุ่น และ น้ำ ในระดับ IP67 ซึ่งสามารถกันน้ำได้ลึกไม่เกิน 1 เมตร เป็นเวลาไม่เกิน 30 นาที รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้จากบทความ

ไขข้อข้องใจ Galaxy S5 กันน้ำ และ ฝุ่นได้แค่ไหนก่อนเอาไปลุยสงกรานต์

ด้านหน้าส่วนบนก็คุ้นเคยกันดีกับมือถือของซัมซุง ที่ไม่ว่ารุ่นแพง รุ่นถูกก็จะคล้าย ๆ กันหมด โดยตรงกลางจะเป็นช่องลำโพงหูฟังสำหรับสนทนาโทรศัพท์ ด้านข้างเป็นกล้องหน้า และ เซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ส่วนไฟ LED เตือนสถานะอยู่มุมซ้ายมือของเรา หรือ มุมทางตัว S ของคำว่า samsung ครับ

ด้านล่างกับปุ่ม 3 ทหารเสือ โดยประเอกของงานคือปุ่มโฮมที่สามารถแสกนลายนิ้วมือได้ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ทั่วโลกบอกว่า ซัมซุง ทำแน่ ๆ เพราะ ไอโฟน เค้าทำแล้ว งานนี้เฮียไม่ก๊อปก็ไม่ใช่ซัมซุงละนะฮ๊าฟฟฟฟฟ 555

แต่งาานนี้เสียดายเฮียไม่ก๊อปเทคโนโลยี 64 บิตมาใช้ด้วย

วิธีใช้งานไม่ยากเมื่อตั้งค่าแล้วก็ รูดนิ้วจากหน้าจอลงมาที่ปุ่มโฮมเพื่อปลดล็อคหน้าจอ ซัมซุง เค้าทำลายจุด ๆ บนหน้าจอไว้เพื่ออำนวยความสะดวกเชชอกให้เรารู้ว่าต้องรูดจากด้านบนลงมา

เท่าที่ลองปลดเล่น ๆ ดู 10 ครั้ง ใช้งานได้อย่างราบลื่นดี แต่หากเอาวางไว้บนโต๊ะแล้วเอานิ้วรูด ตัวเครื่องเหมือนจะอ่านลายนิ้วมือไม่ได้

ส่วนใครจะพิเรนเหมือนในคลิปเอาหัวนมปลดล็อคไอโฟน มาลองกับ S5 ก็ตามสบายนะครับ อิ อิ อิ

ตัวเครื่องโดยรวมจาการได้สัมผัสครั้งแรก ลองเล่นอยู่ประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง การทำงานลื่นไหลดีมาก ๆ โหลดแอพทีละ 10 แอพยาว ๆ ผ่านไวไฟ หลังเครื่องไม่ได้ร้อนอะไร เพียงอุ่นขึ้นเล็กน้อยตามประสาสมาร์ทโฟนสมัยนี้

เมมในตัวที่เคยอ่านเวปฝรั่งมาว่าเหลือใช้จริง 7 – 8 กิ๊ก ตัวเครื่องที่ผมได้มามีเมมเหลือถึง 10 กิ๊กด้วยกัน อย่างไรก็เหอะ เราใส่เมมอยู่แล้วนี่นา มี 10 กิ๊กเอาไว้ลงโปรแกรมเรียกว่าเหลือเฟือ

อาการ lag หรือ จอดำไปประมาณ 1 – 2 วินาที ตอนเรียกหน้าโทรศัพท์ที่ชินชากลายเป็นอาการประจำตัวของซัมซุงเพียงไปแล้วนั้น เท่าที่ทดสอบกับ Galaxy S5 อาการ Lag เบื้องต้นเหลือไม่มากนัก…มาเร็วทันใจกว่าเมื่อก่อนอย่างน่าพอใจ

หน้าจอแน่นอนว่าสวยสุด ๆ เพราะคำว่า Super AMOLED มันเป็นประกันอยู่แล้ว การอ่านเวปต่าง ๆ รวมถึงการเล่น Facebook, Twitter และ instagram ผ่านเจ้า S5 ทำได้อย่างน่าประทับใจกับหน้าจอ 5.1 นิ้วที่เรียกว่าถือจับถนัดมือ

หน้าการตั้งค่า หรือ Settings ปรับโฉมใหม่หมดจด ……เพื่อ?

เปิดมาครั้งแรกงงเป็นไก่ตาแตกเลยคัรบ ทำเอาต้องศึกษากันใหม่เกือบหมดทำให้รู้สึกว่าใช้ยากกว่าแต่ก่อนในตอนแรก แต่พอเริ่มชินปุ๊ปจะรู้สึกว่าหน้าการตั้งค่าเปลี่ยนเป็นแบบไอค่อนทำให้มันดูสบาย ๆ เก๋ ๆ น่าใช้กว่าแอนดรอย์ปกติ

นี่เป็นเพียงความรู้สึกแรกสัมผัสกับ Galaxy S5 ของ xenon_art เท่านั้น เดี๋ยวใช้งานจริง ๆ แล้วจะมารีวิวอีกครั้งว่าสรุปมันดีหรือเปล่า รวมถึงรีวิวที่ผมชอบทำที่สุดนั่นคือ…..กล้องถ่ายรูป

อัพเดท 14 เมษายน 2557

แถมรูปคู่ Samsung Galaxy S4 เทียบ S5 ดูกันว่าหน้าตามันต่างจากเดิมหรือเปล่า โดยอีตัวซ้ายมือเราที่ใหญ่ก่วา แน่นอนมันคือ Galaxy S5 หน้าจอ 5.1 นิ้ว ที่รูปทรงออกแนว Note3 คือ จะเหลี่ยมกว่า Galaxy S4 ตัวเก่าอย่างเห็นได้ชัด ขนาดต่าง ๆ ก็ใหญ่ขึ้นด้วยโดยที่สเปคภายในไม่ต่างจากเดิมมากนัก