BlackBerry_classic (11)

ใครรอชม BlackBerry Classic อยู่บ้างยกมือขึ้น…วันนี้เอาตอนแรกของ “ไตรภาครีวิว” มาฝากกันแล้วครับกับการส่องรอบตัวเครื่อง และ ความรู้สึกแรกสัมผัส

ก่อนอื่นทำความเข้าใจก่อนว่า Classic ไม่ใช่รุ่นท๊อปนะครับ เพราะรุ่นท๊อปสำหรับ BlackBerry ปีนี้ (2557) คือ Passport ที่มาพร้อมหน้าจอขนาดยักษ์ใช้งานง่าย และ ซีพียูแรง ๆ แบบ QuadCore สุดลื่น

BlackBerry Classic เป็นรุ่นที่อยู่ตรงกลางระหว่าง Passporrt และ Q10 โดยจะมีซีพียูแบบ DualCore ความเร็ว 1.5 กิ๊ก แรม 2 กิ๊ก ซึ่งสำหรับระบบปฏิบัติการ BB OS 10.3.1 แล้วบอกเลย ลื่นสุดไม่มีสะดุด หรือ หน่วงเลย จะเสียเปรียบเล็กน้อยก็ตอนเล่นเกมส์บนแอพฯ ของแอนดรอยด์เท่านั้น

จุดขายของ Classic แน่นอนว่าคือ บีบีที่เอาความเก๋าคลาสสิคกลับมา โดยมันมาพร้อมปุ่ม โทรออก / เมนู / แทรคแพด / ย้อนกลับ และ วางสาย ที่ทุกคนชื่นชอบกลับมาให้เราใช้กัน อย่ารอช้ามาเริ่มกันด้วยสเปคเลย

Specs BlackBerry Classic
  • หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon S4 ความเร็ว 1.5 GHz
  • Ram ขนาด 2 GB
  • หน้าจอ 3.46 นิ้ว ความละเอียด 720×720
  • กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
  • หน่วยความจำในตัวเครื่อง 16 กิ๊ก
  • เพิ่มเมมโมรี่ได้สูงสุด 128 กิ๊ก
  • แบตเตอรี่ความจุ
  • แบตเตอรี่ความจุ 2,515 มิลิแอมป์ ใช้งานได้นาน 22 ชั่วโมง ถอดเปลี่ยนไม่ได้
  • ระบบปฏิบัติการ BlackBerry 10.3.1 พร้อม BlackBerry World และ Amazon Appstore
  • มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยในการใช้งานระดับองค์กร BBM Protected, BlackBerry Blend, BlackBerry Balance เป็นต้น
  • รองรับ 3G/4G 2100

เนื่องจากตัวที่ผมได้มา เป็นตัวทดสอบ ไม่มีกล่องอะไรมาให้ เลยเอาคลิปแกะกล่องอย่างเป็นทางการของ BlackBerry จากข่อง BlackBerry Channel ในยูทูปมาฝาก

ว่าแล้วก็มาเริ่มดูตัวเป็น ๆ ของ classic กันเลยว่ามันคลาสสิค และ สวยล้ำขนาดไหน

BlackBerry_classic (1)

ตอนนี้ Classic มีวางขายเฉพาะสีดำเท่านั้น ในอนาคตคาดว่าจะออกเพิ่มอีก 2 สี (รอยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง)

หน้าตาเห็นปราดแรกเลย มันคือ BlackBerry Bold และ Q10 ผสมกันจนได้ออกมาเป็น Classic โดยหน้าการเรียงปุ่มจะเหมือนกับ Q10 แต่ได้ปุ่มควบคุมจาก Bold 9900 มาใช้

โดยรวมแล้วขนาดจะใหญ่กว่า Q10 ทั้งหน้าจอแสดงผล และ ปุ่มกด ทำให้ใช้งานสบายตามากกว่าเดิม และ พิมพ์ง่ายกว่า Q10

BlackBerry_classic (4)

BlackBerry_classic (3)

ด้านหลังเป็นวัสดุคล้ายยางหนึบมือ ถือแล้วไม่เสียวหล่น กระชับมั่นใจมาก ๆ อ้อ..เปิดฝาครอบแบตเตอรี่ไม่ได้นะ โดยแบตเตอรี่ให้มาใช้ 2,515 มิลิแอมป์ กับหน้าจอขนาดนี้ และ ระบบปฏิบัติการ OS 10.3.1 ผมใช้ได้เกือบ 2 วันสบาย ๆ โดยใช้โทรศัพท์ รับเมลล์ และ เช็คตารางนัดหมายเป็นหลัก แต่ถ้าเล่นเกมส์ด้วยก็อยู่ได้วันเต็ม ๆ หายห่วง

ตรงกลางเป็นโลโก้ BB ตัวใหญ่สวยงาม ด้านบนเป็นกล้องขนาด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแถบคาดเขียนชื่อรุ่น Classic ส่วนกล้องนั้นเท่าที่ได้ลองมา บอกเลยว่าไม่ทำให้ผิดหวังเช่นเคย เอาไว้รอชมรีวิวกล้องเร็ว ๆ นี้แล้วกัน

BlackBerry_classic (8)

BlackBerry_classic (9)

ขอบรอบตัวเครื่องเป็นโลหะแข็งแรงทนทาน สีเงินด้านรอบตัวเครื่อง ให้สัมผัสที่ทรงพลังมาก ๆ สร้างความรู้สึกว่าเครื่องมันไว้ใจได้สุด ๆ ไม่ก๊อก ๆ แก๊ง ๆ เหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไป

เนื่องจากเปิดฝาหลังไม่ได้ ซิม และ เมมโมรี่การ์ด จะใส่ด้านข้าง เอาเข็มจิ้มเพื่อถอดถาดใส่เมม และ ซิมการ์ดออกมา โดยรุ่นนี้ใช้ซิมเหมือน Passport คือ Nano Sim สลับใช้กันง่ายดี ^^

BlackBerry_classic (7)

ด้านซ้ายของตัวเครื่องเป็นปุ่มปรับเพิ่ม – ลดเสียง และ ปุ่ม Mute ตรงกลาง เอาไว้ปิดเสียงชั่วคราว หรือ หยุดเล่นเพลง

สังเกตุคุณภาพการผลิตตัวเครื่อง แนบสนิททุกชิ้นส่วน หรูหรา และ เสนอตัวตนความเป็นบีบีออกมาอย่างชัดเจน สาวกของแท้เห็นแล้วรักทุกคน…ชิมิ

BlackBerry_classic (5)

ปุ่ม Power อยู่ด้านบนตรงกลาง ด้วยตัวเครื่องที่ไม่ได้ใหญ่ขนาด Passport เอาไว้ตำแหน่งนี้กดง่ายดี

ส่วนรู ๆ ที่เห็นขนาบข้างปุ่ม Power อยู่นั้นเป็นรูไมโครโฟนสำหรับอัดเสียง และ ช่วยปรับความสมดุลย์ของเสียงขณะคุยโทรศัพท์ด้วยระบบ HD Voice ให้เสียงคมชัดเหมือนนั่งคุยกันซึ่งหน้า….ลองแล้วครับ สุดยอดจริง ๆ

BlackBerry_classic (6)

ด้านล่างของตัวเครื่องตรงกลางเป็นช่องเชื่อมต่อสายดาต้า / สายชาร์จ แบบ Micro USB มาตรฐานสามาร์ทโฟนปัจจุบัน เอาสายใครมาใช้ก็ได้สบายมาก แถมเอาสายชาร์จอื่น ๆ มาใช้ได้ในกรณีฉุกเฉิน

BlackBerry_classic (14)

ปุ่มกดที่ใหญ่กว่า Q10 ทำให้พิมพ์ง่ายไม่ค่อยผิด ถึงแม้จะไม่ได้สกรีนแป้นไทยแต่ยังพอเดาได้ง่าย ๆ เพราะการวางตำแหน่งเหมือนแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์เด๊ะเลย (เหมือน Bold กับ Q10 นั่นแหละ) ที่สำคัญปุ่มนิ่มมาก พิมพ์ไม่เมื่อยนิ้วเลย

ได้แทรคแพดกลับมาทำให้การใช้งานราบลื่นกว่าเดิม ไม่ต้องไปแตะหน้าจอมากนัก ใช้ปุ่มทุกปุ่มอย่างคุ้มค่า เวลาจะปิดโปรแกรมกด Back / ย้อนกลับก็จะเป็นการย่อลงไป กดอีกครั้งกลายเป็นปิดโปรแกรม ไม่ต้องเล็งกากบาทเพื่อปิดโปรแกรมอีกต่อไป ง่าย เร็ว ชอบ ๆ ๆ

ไอค่อนรูปโทรศัพท์บนหน้าจอหายไป เพราะเรามีปุ่มโทรออกมาใช้เรียกหน้าโทรศัพท์แล้ว เย้….แต่ก็ไม่ค่อยได้ใช้นะ เพราะปกติจะโทรหาใครก็พิมพ์ชื่อลงไปเลย ระบบจะค้นหารายชื่อมาให้เราเสร็จ

BlackBerry_classic (10)

ขนาดจับกระชับมือ การทำงานลื่นไหลหายห่วง แถมได้ฟิลลิ่งของบีบีกลับมานำตาไหลพราก

งานนี้ใครคิดถึง Bold แต่อยากได้ระบบปฏิบัติการ BB10 ที่เทพกว่าเดิมเพราะไม่ง้อ BlackBerry Service แถมเล่นแอพฯ แอนดรอยด์ได้แบบไร้ขีดจำกัดแล้วหล่ะก็ ผมว่า Classic ตอบโจทย์คุณได้ดีทีเดียว เพราะมันคือรุ่นที่รวมสองโลกมาไว้ด้วยกัน คือ โลกแห่งบีบีที่เราคุ้นเคย และ โลกบีบี10 ยุคใหม่ที่ตอบโจทย์ชีวิตเรามากกว่าเดิม

แต่….ใครรักจอใหญ่ ผมบอกได้เลยว่า Passport ก็เทพมากนะ 55

ปิดท้ายด้วยภาพหมู่เปรีบบเทียบระหว่าง Passport, Classic และ Q10 สังเกตุว่าขนาดของ Classic จะต่างกับ Q10 พอสมควร

BlackBerry_classic (18)

เอามาฝากให้เสพกันสนุก ๆ นะครับ ส่วนจะเข้าไทยหรือไม่บอกเลยว่า ความหวังน้อยมาก ๆ ใครสนใจคงต้องหาเครื่องนอกที่คาดว่ามาบุญครองจะมาในเร็ววันนี้

สนใจซื้อจากต่างประเทศคลิ๊ก ShopBlackBerry

ขอให้มีความสุข สนุกกับ LifeStyle IT ครับ

_________________________________________________________________

xenonart80x80

หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย

ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ

http://www.facebook.com/xenonartpage?ref=hl

Facebook-Like

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art