เทคนิค “Do & Don’t” ใช้สมาร์ทโฟนได้ยาวๆ ในช่วงวันหยุดยาว

หยุดยาว แต่แบตมือถืออาจไม่ยาวด้วย….อ่าน Do & Don’t นี้สิ แล้วจะรู้ว่าต้องทำยังไงให้สนุกสุดเหวี่ยงข้ามปีกับมือถือ หรือ แท๊ปเล็ตของเรา

ได้บทความฝากประชาสัมพันธ์จาก เบลกิ้น ประเทศไทย ซึ่งไม่เคยได้รับมาก่อน ตอนแรกแอบแปลกใจเหมือนกัน พอลองอ่านแล้วผมว่าเป็นประโยชน์ สมารถปรับให้เข้ากับการใช้งานของเรา ซึ่งบางอย่างผมก็เห็นไม่ตรงกับบทความนะ แต่โดยรวมถือว่าโอเค

ตัดสินใจเอามาฝากเพื่อน ๆ และ บรรดาลูกเพจที่ใช้ Gadget ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันจร้า

“แนะนำทิป “Do & Don’t”: ใช้สมาร์ทโฟนได้ยาวๆ ในช่วงวันหยุดยาว [ฉบับพกพา]”

สังคมก้มหน้าคู่กับมือถือดูจะเป็นภาพชินตาซะแล้ว นั่นเพราะโลกออนไลน์กำลังเป็นช่องทางหลักในการสร้างกำไรให้ธุรกิจน้อยใหญ่ พร้อมสร้างไลฟ์สไตล์และการตัดสินใจที่รวดเร็วทันใจ ให้ชม กดไลท์ ใช้จ่าย ได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่เมื่อชั่วโมงบินของดีไวซ์ตัวจิ๋วเกิดน้อยลงทุกที สัญญาณเซย์กู้ดบายจากเจ้ามือถือเริ่มมาถี่มากขึ้น เบลคิน จึงขอเสนอกลเม็ดเด็ดต่อลมหายใจฉบับพกพาให้หน้าจอสว่างพร้อมใช้งานข้างกายคุณได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวที่จะมาถึง เพื่อให้คุณได้พักผ่อนออนเดอะโกได้อย่างเต็มที่ โดยมีข้อควรทำและข้อควรคำนึง ดังนี้:

Do	Don’t
ไม่เล่นมือถือขณะชาร์จแบต:หากจำเป็นต้องใช้ขณะชาร์จมือถือ ให้เปิดโหมดเครื่องบิน (Flight Mode) และเสียบกับสายชาร์จ AC Adaptor แทน	เล่นมือถือทุกที่ทุกเวลา: ชาร์จมือถือไป เล่นไป จะทำให้แบตเตอรี่ต้องทำงานมากกว่าปกติถึง 40 เท่า
ชาร์จแบตเตอรี่ทันที เมื่ออยู่ในระดับ 40 เปอร์เซ็นต์: เพื่อให้ประจุในแบตเตอรี่ทำงานตามปกติ และเพื่อให้แบตเตอรี่ไม่เสื่อมสมรรถภาพ	รอแบตเตอรี่เหลือ 0% แล้วจึงชาร์จ: เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้แบตเตอรี่พังไวมาก เพราะแบตฯต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น 3 เท่ากับการเรียกคืนประจุ เป็นเหตุทำให้เครื่องร้อนง่าย
ใช้ปลั๊กพ่วง เพิ่มความปลอดภัย: ใช้ปลั๊กพ่วง หรือปลั๊กสามตาต่อก่อนเสียบชาร์จแบตในมือถือ เพื่อตัดการใช้ไฟมากกว่าปกติ ลดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร เพิ่มความปลอดภัยให้ทั้งคนและมือถืออีกระดับหนึ่ง สำหรับที่ชาร์จที่ได้มาตรฐานหลายยี่ห้ออาจดูราคาสูง แต่ได้เพิ่มฟังก์ชั่น surge protection ไว้ด้วย ซึ่งลดความเสี่ยงได้มาก	เสียบปลั๊กได้ทุกที่ ขอแบตฯเข้าเครื่องก็พอ: การใช้ที่ชาร์จเสียบกับปลั๊กทุกที่ โดยไม่ผ่านปลั๊กสามตา อาจทำให้เกิดเกิดไฟกระชาก และทำให้แบตเตอรี่ในมือถือคุณอายุสั้นลง
รักษาอุณหภูมิเครื่อง: ถ้าเครื่องร้อนจี๋ ให้รีบวางพักไว้ที่อุณหภูมิ 23-25 องศาเซลเซียส ทันที และควรเก็บอุปกรณ์ในอุณหภูมิระหว่าง 0-35 องศา พร้อมถอดเคส ออกก่อนชาร์จ	ทิ้งโทรศัพท์ไว้บนรถที่จอดกลางแจ้ง: อากาศร้อนทำให้แบตเสื่อมสภาพได้ง่ายเช่นกัน
ปิดแอพฯทุกครั้งที่ใช้เสร็จ และใช้โหมดประหยัดพลังงานเป็นประจำ: ปรับแสงหน้าจอมือถือให้พอเหมาะ ลบแอพพลิเคชันที่ไม่ใช้ เพื่อให้มือถือไม่ต้องทำงานหนัก เช่น การปิดระบบสั่นแล้วเปิดเสียงเรียกเข้าแทน โดยไม่ลืมใช้โหมดประหยัดพลังงานด้วย	เปิดแอพฯค้างไว้ที่ละหลายๆ อัน: การอัพโหลดแอพไว้มากมาย ทำให้แอพตรวจไวรัส และความปลอดภัย เด้งเตือนมาเต็มหน้าจอ แสงสว่างจากหน้าจอทำให้เปลืองแบตเตอรี่
ใส่ใจขั้นตอนการชาร์จ: เสียบที่ชาร์จกับปลั๊กไฟก่อน แล้วจึงชาร์จกับมือถือ เพื่อป้องกันไฟกระชาก	ชาร์จกับปลั๊กไฟทันที ในขณะที่มือถือเสียบที่ชาร์จอยู่: การชาร์จแบบนี้จะทำให้เกิดไฟกระชาก ให้จำว่ามือถือจะเป็นสิ่งสุดท้ายในการเสียบชาร์จแบตเตอรี่
ใช้งานเครื่องอย่างสม่ำเสมอ: การใช้มือถือตลอดเวลา จะช่วยให้อิเล็กตรอนในแบตเคลื่อนตัวอยู่ตลอด อายุการใช้งานมือถือจะมีมากขึ้น	ใช้งานนานๆครั้ง: ทำให้อิเล็กตรอนไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหว มือถือจะอายุสั้น หรือเสื่อมประสิทธิภาพง่าย
ใช้มือถืออย่างระมัดระวัง: ป้องกันมือถือกระแทกด้วยการใส่เคส หรือติดฟิล์มกันรอยอีกชั้นหนึ่ง	ทำมือถือตกหล่นเป็นประจำ: ทุกครั้งที่มือถือหล่นกระทบตกพื้น แบตเตอรี่จะเสียหาย และอาจทำให้สารเคมีในแบตรั่วไหล หรือขั้วแบตอาจหลุดออกมาได้ ส่งผลให้การจ่ายไฟไม่นิ่ง
ใช้ที่ชาร์จที่เป็นแบรนด์ที่ผ่านการรับรอง และน่าเชื่อถือ: เป็นทราบกันดีว่า สินค้าที่เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าควรได้รับการรับรองมาตรฐาน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับชีวิตและความปลอดภัย การประหยัดค่าที่ชาร์จ แล้วเกิดความเสียหายคงไม่คุ้มกันแน่	ใช้ที่ชาร์จปลอม: การมักง่ายกับความปลอดภัยใกล้ตัวโดยการใช้ที่ชาร์จแบตมือถือปลอม หรือไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้เสี่ยงถึงชีวิต