DSC01477

กลับมาแล้วจร้า หลังจากหายหัวไปเที่ยวญี่ปุ่นมา 6 วัน สนองความอยากของครอบครัวปิดท้ายก่อนเปิดเทอมของลูกชายที่กำลังจะขึ้น ป. 1

xenon_art เก็บเรื่องราวท่องเที่ยวฉบับครอบครัวมาฝากกันเหมือนเดิม ประเดิมตอนแรกกับความประทับใจในการตัดสินใจนอนทั้ง 5 คืนที่ “โอไดบะ”

จากที่มีตั๋วราคาพิเศษแลกไมล์ครึ่งราคาของการบินไทย บันทึกท่องเที่ยว: โอ้วพระเจ้า การบินไทยจัดโปรโมชั่นตั๋วแลกไมล์ไปญี่ปุ่นครึ่งราคา แบบนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว

xenon_art ก็ไม่รอช้าจัดแจงแลกไมล์พาครอบครัวเฮฮาไปย่ำญี่ปุ่นทันที โดยทริปนี้ไปกันแบบไม่มากไม่น้อย 6 วัน 5 คืนพอดี ๆ โดยออกเดินทางจากสุวรรณภูมิคืนวันที่ 31 กรกฏาคม ไปถึงสนามบินนาริตะ ประมาณ 8 โมงเช้า เรียกว่านอนบนเครื่องประหยัดเวลาไปได้มาก หากครอบครัวไหนฟิต ๆ ก็สามารถเริ่มต้นเที่ยวได้ทันที

ตอนแรกเลย พยายามหากโรงแรมในชินจูกุ เหมือนที่เคยไป แต่คราวนี้โรงแรมที่ตั้งใจไว้อย่าง Shinjuku Prince ดันไม่มีห้องใหญ่ว่างสำหรับครอบครัวของเราที่เดินทางแบบผู้ใหญ่ 1 เด็ก 7 ขวบคนนึง และ ลูกน้อยวัย 3 เดือน

หาไปหามาก็ถอดใจ เลยของของแปลกไปนอนที่ “โอไดบะ” เมืองท่องเที่ยวที่คนนิยมไปกัน เอาหล่ะมาเริ่มเที่ยวไปกับผมเลย

เที่ยวบินไปญี่ปุ่นของสายการบินไทยนั้นมีรอบ 4 ทุ่มกว่า ไปถึงนาริตะ 7 โมงเช้า กับ 5 ทุ่มกว่า ไปถึงนาริตะ 8 โมงเช้า และ เนื่องจากผมใช้ตั๋วแลกไมล์ เที่ยวบิน 5 ทุ่มเต็มเลยต้องไปเที่ยว 4 ทุ่มกว่า

DSC01459 DSC01461

ขาไปนั่ง Business Class Boeing 777 นั่งสบาย บริการดี ตามแบบของการบินไทย

IMG_0910

IMG_0912

ไปถึง นาริตะ ประมาณ 7 โมง ใช้เวลาผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และ รับกระเป๋าประมาณเพียง 20 นาทีเอง เนื่องจากเดินทานพร้อมเด็ก จะมีช่องพิเศษให้เข้าเลย ดังนั้นหากเพื่อน ๆ เดินทางเป็นครอบครัว พอไปถึงให้มองไปทางช่องซ้าย ๆ จะมีป้ายบอกว่าเป็นช่อง เด็ก สตรีมีครรภ์ และ คนชรา (นั่งรถเข็น)

IMG_0916

การเดินทางจากสนามบินที่เร็วที่สุดเป็นรถไฟ โดยผมนั่งรถไฟชุดบนสุด Access limited Express ไปลงสถานี Simbashi ราคาคนละ 1,280 เยน ใช้เวลา 68 นาที

แต่…..มันไม่ถึงนะครับ น้องพนักงานหน้าสวยก็พูดปะกิตไม่แข็งแรง แต่ยังไงต่อ…..อ่านไปเรื่อย ๆ ครับ

จริง ๆ แล้วจากสนามบินไปโรงแรมง่ายที่สุดเป็น Shuttle Bus หรือ Limousine Bus น่าเสียดายที่เค้าเปิดบริการ 8 โมงเช้า ตอนนั้นเพิ่ง 7 โมง 20 นาทีเอง ไม่มีตัวเลือก รถไฟก็ได้ (วะ)

IMG_0919

เอาหล่ะ ผม ภรรยา + ลูก 7 ขวบคนนึง และ เกือบ 3 เดือนคนนึงพร้อมรถเข็น กระเป๋าเดินทางใบยักษ์อีก 2 ใบ ต้องขนขึ้นรถไฟเนี่ยนะ….ทำไงดีหล่ะ?

ไม่ต้องห่วงครับ เดินไปสุดทางขวา (หันหน้าเข้าเคาเตอร์ขายตั๋วรถไฟ) จะเห็นมีบริการส่งกระเป๋าไปโรงแรมให้

เห็นมี 3 เจ้า 2 เจ้าไม่รู้จัก แต่ JAL ABC อ่านรีวิวเพื่อน ๆ ท่านอื่นคุ้นอยู่ เลยตัดสินใจเอาบริการของบริษัทนี้ อารมณ์เหมือนส่ง EMS เลยครับ โดยผมส่งตอน 7.30 น. กระเป๋าจะไปถึงโรงแรมระหว่างเวลา 15.00 – 21.00 น.

ให้ย้ำบอกพนักงาน (ที่พูดอังกฤษไม่ค่อยได้) ว่า “ไอ ว้อน ทูเดย์” เพราะมันมีแบบส่งถึงพรุ่งนี้ด้วยนะเออ อย่าพลาดหล่ะ

IMG_0917

พอจ่ายเงิน และ ทำเอกสารแล้วก็จะเอาป้ายมาห้อยแบบนี้ และมีสำเนาให้เราเก็บไว้ 1 ใบ….ขนาด และ การเขียนต่าง ๆ เหมือน EMS บ้านเราเป๊ะ

IMG_0920

ส่งกระเป๋าแล้วก็ตัวปลิว มุ่งหน้าสู่โรงแรมด้วยรถไฟ ที่เดินไปก็โชว์ตั๋วให้พนักงานตามทางเดิน แล้วถามว่า Platform (แพลทฟอร์ม) อยู่ไหน เค้าก็จะชี้ให้เราไปขึ้นรถไปที่ชานชลาไหน

นั่งมาเรื่อย ๆ ตามเวลาในตารางที่เห็นมาลงสถานี Shimbashi ซึ่งคงต้องมาอีกหลายเที่ยวหากจะข้ามจาก โอไดบะ มาเที่ยวชินจูกุ ชิบูยะ หรือ อากิฮาบาระ

จริง ๆ แล้วหากเพื่อน ๆ มากับเด็กโต หรือ มีพลังงานเหลือเฟือ สามารถเริ่มเที่ยวกันได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาไปเช็คอินที่โรงแรมทั้ง ๆ ที่ไม่มีกระเป๋าเดินทางสักใบ จะไปเที่ยวไหน ก็ลุยกันแต่เช้าได้เลย เพราะตอนนี้มันเพิ่ง 9 โมงเช้าเอง เรียกว่าเที่ยวได้เต็มวัน บ่าย ๆ เย็น ๆ ค่อยไปเช็คอิน และ รับกระเป๋าที่ส่งมาพอดี

DSC01474

หน้าตา และ สภาพรถไปที่ต้องนั่งจากสถานี แรก ๆ ก็สบาย ๆ พอเริ่มเข้าเมืองหน่อย คนเพียบครับ พอดีมาช่วงเช้าคนเดินทางไปทำงานพอดี

หากเดินทางเป็นครอบครัว มีเด็กเล็ก หรือ มีผู้สูงอายุ เค้ามีที่นั่งสำรองพิเศษไว้ให้ด้วย ซึ่งปกติก็มีคนนั่งกันเต็ม แต่พอถ้ามีคนที่ต้องได้รับสิทธิ์ขึ้นมาเค้าก็จะลุกให้นั่ง แถมคนที่ลุกให้นั่งก็จะเป็นผู้ใหญ่หน่อย เด็กวัยรุ่น หรือ คนทำงานอายุประมาณไม่เกิน 30 ก็จะทำเป็นมองไม่เห็นเหมือนบ้านเรา

IMG_0922

ตั๋วที่เราซื้อมา สุดที่ Shimbashi แต่ตอนที่ซื้อตั๋วคุยกับคนขายไม่รู้เรื่อง มาถึงก็เลยมึน ๆ ไปต่อไม่เป็น กลัวลูกเหนื่อย (จริง ๆ เค้าง่วง และ หิวแล้ว) เลยเรียกแท๊กซี่มุ่งตรงสู่โรงแรมเลย ค่าแท๊กซี่ประมาณ 3,000 เยน (หรือ 900 บาท) รับได้นะครับ

แต่สำหรับคนที่สะดวกนั่งรถไฟ จาก Shimbashi ก็ไปต่อไม่ยากแล้ว ผมเพิ่งมารู้อีกทีตอนนั่งรถไฟจากโรงแรมจะเข้าเมือง เลยเอามาเล่าสู่กันฟัง

พอลงสถานี Shimbashi แล้วมองหาป้าย หรือ ตามเสาตามรูปด้านบน  หาทางไป Yurikamome Line ซึ่งคือรถไฟโมโนเรล ตรงสู่โอไดบะ

IMG_1178

โดยสถานนีรถไฟสาย Yurikamome นั้นอยู่นอกสถานีหลักของ Shimbashi นะครับ แต่เดินออกมาจากสถานีแล้วก็จะเจอเลย อารมณ์เหมือนออกจาก MRT ไปต่อ BTS ของสถานีอโศกเลยครับ

DSC01486

นั่งไปประมาณ 4 – 5 ป้ายก็ถึงสถานี Daiba จุดหมายปลายทาง ค่ารถไฟคนนึง  310 เยน และ รถไฟสายนี้เป็นโมโนเรล ตอนนั่งเลยเห็นวิวรอบเมือง แถมต้องวิ่งข้ามสะพาน Rainbow Bridge ด้วย นั่งชมวิวไปเพลิน ๆ ไม่เกิน 10 นาทีก็ถึง

พอออกจากสถานีก็จะเห็นป้ายบอกเลยว่าไปโรงแรมอะไร ห้างอะไร ทางไหน หากลูกนั่งรถเข็น มองหาลิฟท์จากชานชลา ลงมาทางออกได้เลยไม่ต้องห่วง

IMG_0931

โรงแรม Grand Pacific Le Daiba อยู่ติดสถานีเลย อารมณ์เหมือนลงรถ BTS สยาม แล้วเดินบน skywalk ไป สยามดิส แค่นั้นเอง สะดวกโคตร ๆ ครับพี่น้อง

ที่นี่น่ารักมาก  ๆ โดยปกติโรงแรมใน ญี่ปุ่น มักจะให้เช็คอินประมาณ 12.00 – 15.00 น. แต่วันนั้นไปถึงโรงแรมตั้งแต่ 10 โมงเช้า เค้าเห็นมีเด็กอ่อน เลยจัดการเช็คอินให้ทันที

ตอนเช็คอินก็บอกเค้าว่าเราส่งกระเป๋าโดยบริการของ JAL ABC เพื่อให้พนักงานคอยดูให้ หากกระเป๋ามาจะแจ้งขึ้นไปที่ห้องของเราทันที….บริการดีมากขอบอก

DSC01478

ผมนอนที่นี่ 5 คืน ตอนแรกเช็คที่ booking.com ได้ราคา 131,000 เยน แต่ภรรยาเลือกจองตรงกับเวปของโรงแรม กับโปรโมชั่นใช้บัตร Visa นอน 5 คืน รวมอาหารเช้าราคา 141,000 เยน ตอนเช้าหากินง่านดีกับบุฟเฟ่ต์ของโรงแรม ตกวันละ 2,000 เยน หรือ 660 บาท (กินได้ 2 คน)

ปราดแรกที่เข้ามาในห้องพัก ทุกคนร้อง ว้าววววว กันหมดเลย ห้องสวยมากกกก และ ใหญ่กว่ามาตรฐานโรงแรมในเมืองของ ญี่ปุ่น ที่ปกติจะเล็ก ๆ แคบ ๆ แต่นี่ อูวววววส์ มีโคมระย้าด้วยนะ

DSC01479

เลือกจองห้อง Twin Bed และ เตียงที่เห็นใหญ่พอสมควร นอนกันได้ 2 คนโดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มเตียงเสริม นอนสบายมาก ๆ

DSC01484

พอเค้าเห็นว่ามีเด็ก ไม่ต้องขอเลย เค้าจ้ดที่กันตกมาให้เสร็จ 2 อัน กันซ้าย – ขวา ตามใจเราเลย สุดยอดมาก ๆ

DSC01483

ไม่เพียงเท่านั้น พอเค้าเห็นลูกชายวัย 7 ขวบของผมปุ๊ป ทุกวันห้องเราจะได้รับชุดที่เห็นด้านบนนี้ มีชุดนอน รองเท้าใส่ในห้องขนาดเด็ก และ ชุดแปรงสีฟันเด็กมาให้ ไม่ว่าจะใช้ หรือ ไม่ใช้ ทุกวันจะได้ 1 สุดเสมอ

ไอ้กระดาษที่แนบมาด้วยอ่านไม่ออก ใครอ่านออกแปลให้ด้วยนะจ๊ะ

DSC01480

มีกาแฟ ชา และ ถังน้ำแข็งบริการพร้อม…..ฟรี

DSC01481

ห้องน้ำหรู ๆ ที่หากนอนใน ชินจูกุ คงจะไม่มีโอกาสได้เห็น หรือ ราคาคงเกินหมื่นต่อคืนแน่ ๆ

DSC01482

มีอ่างอาบน้ำด้วยนะ อย่างหรูขอบอกว่าจ่ายไปคืนละ 9,300 บาท รวมอาหารเช้านี้ รู้สึกเลยว่าไม่แพง เพราะผมนอนกันหลายคน โดยเฉพาะในญี่ปุ่น โรงแรมส่วนใหญ่หากเด็กอายุเกิน 6 ขวบจะนับเป็นผู้ใหญ่นะครับ ต้องซื้อเตียงเสริม หรือ ต้องจองห้อง Triple แต่ที่นี่ไม่ได้ว่าอะไร

DSC01485

นั่งเล่นในห้องได้แป๊ปนึง พนักงานมากดกริ๊งประตูพร้อมยื่นแท่นยืนสำหรับให้เด็กยืนแปรงฟันมาให้ด้วย….ไม่ได้ขอนะอันนี้ เพราะปกติไม่เคยคิดว่าโรงแรมที่ไหนเค้าจะมีบริการนี้ แต่ทีนี้มีให้ครับ สุดยอดมากกกกกกก

ใครคิดจะเดินทางเป็นครอบครัวเหมือนผม โรงแรมนี้เหมาะจริง ๆ #familytrip

DSC01477

ห้องพักอยู่ชั้น 6 ของโรงแรม เปิดหน้าต่างออกมาได้วิวอย่างที่เห็น…..สวยมั๊ย

ทางด้านขวาจะเห็นแท่ง ๆ เหมือนตึก นั่นเป็นทางลงอุโมงเข้าเมืองโตเกียว

IMG_0928

เปิดมือถือพยายามหาไวไฟแต่ไม่เจอ มองซ้ายมองขวาเห็นแต่สาย LAN สำหรับต่อกับคอม เลยโทรลงไปถามเค้าว่ามี Wifi มั๊ย

ไม่เกิน 5 นาทีพนักงานเอา wifi router มาให้ พร้อมคู่มือการติดตั้ง ซึ่งเพียงเสียบปลั๊ก แล้วเสียบสาย LAN เข้าไปเท่านั้น แต่ปราดแรกที่รับมา….งง เป็นไก่ตาแตก แถมขำด้วยว่า เออ เค้าจัดหนักมาให้เลยนะเนี่ย

IMG_0936

หากเป็นสาวกกันดั้ม โรงแรมนี้เค้ามีห้อง Project Room-G ที่ตบแต่งตามสไตล์ กันดั้ม (Gundam) ไว้คอยบริการด้วยนะครับ

วันแรกของการเดินทางนี้ผมกับลูกชายก็จัดหนักเลย เริ่มจากทิ้งภรรยา และ ลูกสาวนอนพักผ่อนในโรงแรม แล้วพากันไปลุย Toy R Us ต่อด้วย Legoland แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ไว้มาเล่าต่อกันวันหลัง

ตอนนี้มาดูกันก่อนว่าทำไมผม ผมจั่วหัวโพสไว้ว่า “พักที่โอไดบะมันฟินมาก”

เพราะว่า……ที่นี่มันมีให้ครบทุกอย่างที่ต้องการสำหรับการพาครอบครัวมาเที่ยวหน่ะสิ

ไม่ว่าโรงแรม Grand Pacific Le Daiba ที่ห้องกว้างขวาง เอาใจใส่ครอบครัวที่มีเด็กได้ดี เดินทางไปไหนก็สะดวก มีร้านสะดวกซื้อเดิน 1 นาทีถึง แถมมีสวนสาธารณะ มีห้าง มีแหล่งของเด็ก และ ของผู้ใหญ่พร้อม มาดูกันเลย

IMG_0934

เดินออกจาก ล็อบบี้ โรงแรมเลี้ยวขวาไป 20 เมตร ก็จะเจอร้านสะดวกซื้อที่มีทุกอย่างพร้อม

IMG_0932

เครื่องดื่มเอย นมเอย ขนมเอย เพียบจนตาลาย

IMG_0933

ของกินก็มีนะ ซื้อแล้วให้เค้าเวฟได้ทันที ผมให้เค้าอุ่นแล้วเอากลับไปกินในห้องของโรงแรม สะดวก สบาย ประหยัด

OdiabeTrip

ที่ว่าเหมาะกับการท่องเที่ยวแบบครอบครัวนั้น เพราะมันสะดวกมาก ๆ ไม่เชื่อดูแผนที่ด้านบนสิ เดิน 7 นาทีถึง Toy R Us, 10 นาทีถึง Legoland 10 นาทีถึง Kiddy Land แถมไม่ไกลจาก Disneyland และ Disney Sea อีกต่างหาก นี่มันสวรรค์ชัด ๆ

โรงแรมเค้ามีบริการรถบัสรับ – ส่ง จากโรงแรมไป Disneyland หรือ Disney Sea ด้วยนะ แต่ราคาเท่าไหร่ไม่รู้เหมือนกันเพราะผมนั่งแท๊กซี่ แหะ แหะ แหะ

IMG_0972

อยากไปเดินซื้อของที่ Toy R Us สามารถเช็คบทความของผมได้

– พาเที่ยว และ อัพเดทราคาของเด็กอ่อนที่ Toy R Us / Babies R us ญี่ปุ่น 3 สิงหาคม 2556

– อัพเดทราคาของเล่นที่ญี่ปุ่น 2 สิงหาคม 2556 ที่ Toy R Us และ Yodobashi (Lego, DX Masked Rider)

DSC01530

จะไปเที่ยว Legoland อยากรู้ไปยังไง มีอะไรด้านในบ้าง อ่านโพส

– xenon_art พาเที่ยว Legoland Tokyo โลกแห่งจินตนาการ และ สร้างสรรสำหรับทุกคน โอไดบะ ญี่ปุ่น

DSC01647

ไม่เพียงแต่ได้มาชมหุ่นขึ้ผึ้ง มาดาททรูโซ กับ เที่ยว เลโก้แลนด์ เท่านั้นที่ Island Mall / Decks นี้ยังมีงานวัดญี่ปุ่นโบราณจำลองมาตั้งอยู่ด้วย เดินเล่นกันหมดวันเพลิน ๆ ไม่รู้ตัว

IMG_1019

นอกจากนั้นยังมี Diver City Tokyo แหล่งช็อปปิ้งเจ๋ง ๆ เดินจากโรงแรมไม่เกิน 7 นาที

DSC01695

หรือ จะไป Disneyland ก็สบาย ๆ เพราะโรงแรมมีรถรับ – ส่ง (เสียเงิน) แต่ต้องจองล่วงหน้าเพราะเต็มตลอดดดดด เลยช่างมันฉันนั่งแท๊กซี่ก็ได้ ถ้าจำไม่ผิดผมจ่ายไม่เกิน 4,000 เยน (แท๊กซี่ที่นี่ทุกคันรูดบัตรเครดิตได้นะ)

IMG_1059 IMG_1134

ครั้นจะเข้าเมืองไปไหว้พระที่ อาซากุสะ หรือ เดินเล่นชินจูกุ ดูของเล่น เครือ่งไฟฟ้าที่ อากิฮาบาระ ก็สบาย ๆ กับการนั่งรถไฟสาย Yurikamome ไปลงสถานี Shimbashi แล้วซื้อตั๋ว JR Yamanote ไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ หรือ จะนั่ง JR สายอื่น ๆ ก็ได้ตามแต่ถนัด

ประวัติคร่าว ๆ ของเมืองนี้ที่ฟังจากพี่ชายมาคือเค้าเอาขยะมาถมทะเลเพื่อสร้างพื้นที่ให้กับเมืองใหญ่อย่างโตเกียวมากขึ้น โดยแรก ๆ โอไดบะ นี้ไม่มีอะไรมากเป็นเขตที่อยู่อาศัย มีรถไฟโมโนเรล วิ่งรอบ ๆ เมื่องเพื่อรับคนเข้าไปฝั่งโตเกียวเพื่อทำงานกัน

จากนั้นสถานีโทรทัศฟูจิ ก็มาตั้งอยู่ที่นี่ จากนั้นเขตโอไดบะก็พัฒนาขึ้นเรื่อยมาจนปัจจุบันมีห้างสรรพสินค้า กันดั้มขนาดยักษ์ตั้งกลางสวน จากที่ผมเห็นมาเมืองนี้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวไปเรียบร้อยแล้ว แถมเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ แต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนญี่ปุ่นเอง ช่วงที่ผมไปเป็นช่วงปิดเทอม สวนสาธารณะก็จะมีจัดสวนสนุกด้วย เลยเห็นแต่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นหอบลูกจูงหลานมาเที่ยวกันเป็นกรุ๊ป ๆ น่ารักดี ทำให้รู้ว่า อืม…เราพาครอบครัวมาถูกที่แล้วหล่ะ

และ ด้วยการที่เป็นเมืองท่องเที่ยวของคนที่นี่ เราจึงจะได้รับวัฒนธรรมของคนเค้าเต็มที่ เห็นความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นจริง ๆ ไม่ใช่เดินไปไหนก็เจอแต่คนไทย หรือ ฝรั่งนักท่องเที่ยว เหมือนนอนที่ชินจูกุ

สรุปว่าทริป 6 วันของผม วนเวียนอยู่ใน โอไอบะ ซะเป็นส่วนมาก รู้สีกสะดวก มีทุกอย่างที่เด็ก ๆ ต้องการ ร้านอาหารอร่อย ๆ เพียบ แถมยังได้สัมผัสอะไรที่นอกเหนือจากการไปเดินในเมืองโตเกียว เที่ยวตามห้างมาตรฐานในเมืองเยอะเลย

บันทึกท่องเที่ยว :  เที่ยวโตเกียวฉบับครอบครัว ตอนแรกนี้ก็ขอจบไว้ตรงนี้ก่อนนะครับ ไว้ว่าง ๆ จะมาอัพเดทเรื่องอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกิน เรื่องเที่ยวเมื่อพาครอบครัวไปนอนที่ โอไดบะ 

ขอให้มีความสุขทุกคนครับ

_________________________________________________________________

xenonart80x80

หากเพื่อน ๆ ชอบเรื่องกิน เที่ยว และ รีวิวของผมที่ตรงไปตรงมา ไม่มีอวย ฝากเพื่อน ๆ กด LIKE Facebook Fanpage ของผมเพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ

http://www.facebook.com/xenonartpage?ref=hl

Facebook-Like

About the author

xenon_art

บล็อคเกอร์กวน ๆ อารมณ์ดี ขี้บ่นบ้างอะไรบ้าง ชอบเขียนเรื่องสมาร์ทโฟน กิน เที่ยว และ ของเล่น เขียนบทความเป็นงานอดิเรก

twitter: @xenon_art
Instagram: xenon_art

9 Comments

  • สวัสดีค่ะ กำลังจะไปญี่ปุ่นมีนาฯปีหน้า รบกวนถามนิดนะค่ะ
    โรงแรมนี้กับ Tokyo Diver City พอจะเดินถึงกันได้ไหมค่ะ ดึกๆเดินกลังโรงแรมจะเปลี่ยวไหมค่ะ
    เออ แล้วเวลาเข้าเมืองไป ชินจุกุ กินซ่า ชิบุย่า ยากไหมค่ะ
    รบกวนแนะนำด้วยค่ะ

    ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

    • ใกล้มาก ๆ ครับ มี skywalk เชื่อมถึงกันระยะสัก 200 เมตร ไม่น่ากลัว เข้าเมืองง่าย ๆ ตามวิธีที่รีวิวไว้เลยครับ

  • กำลังแพลนเที่ยวโตเกียวเลยค่ะ ลงสนามบินนาริตะ เห็นรีวิวบล๊อคเกอร์แล้วว่าจะพักที่นี่เลยค่ะ ไปผู้หญิง2คน ที่พักไม่เปลี่ยว ไม่น่ากลัวใช่มั้ยคะ เดินทางเที่ยวสะดวกรึป่าว ขอบคุณมากค่า

    • ไม่น่ากลัวเลยครับ สบายมาก ๆ

    • เพิ่มเติม : เดินทางไปชินจูกุสะดวกครับทต่อรถไฟไม่เยอะ ฝช้เวลารวม 30 นาทีถึง แค่แถวโรงแรงมีที่ช๊อปเยอะนะ

  • ขอบคุณครับ

    มีนานี้จะตามรอบไปครับ 🙂

    • เพิ่งกลับมาได้อาทิตย์นึง
      ทำเลที่พัก และโรงแรมเยี่ยมมาก
      แต่ไม่ได้เที่ยวใกล้ๆ ละแวกนั้นเท่าไหร่เสียดายอยู่เหมือนกันครับ

      • ไม่เป็นไรคราวหน้าเอาใหม่ 555