เปรียบเทียบรูปถ่ายจาก iPhone 5 ปะทะ iPhone 4S และ อื่น ๆ

    อีกไม่นาน iPhone 5 สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจากค่ายผลไม้แหว่ง (Apple) ก็จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว เพื่อน ๆ หลาย ๆ ท่านคงถอยเครื่องนอกมาใช้งานกันแล้ว

อีกหลาย ๆ ท่านยังคงรอ หรือ ลังเลอยู่ว่าจะขยับจาก 4S เป็น 5 หรือไม่ วันนี้จัดหนักด้วย vdo เทียบการเข้าเวปไปแล้ว ตอนนี้ขอนำเสนอเรื่องคุณภาพกล้องกันบ้างดีกว่าว่า 5 มันจะเป็นอย่างไร

ตลาดมือถือตอนนี้ กล้องถ่ายภาพ เป็นปัจจัยอันดับต้น ๆ ของผู้บริโภคในการเลือกซื้อโทรศัพท์สักเครื่องหนึ่ง เพราะกล้องบนมือถือเป็นอะไรที่ใกล้ตัว หยิบใช้ง่าย สามารถเก็บความทรงจำต่าง ๆ ได้ตลอดเวลา อีกทั้ง ผู้ผลิตต่างก็แข่งขันกันในเรื่องของกล้องกันมากขึ้นโดนที่ตอนนี้มาตรฐานกล้องบนมือถือนั้นมาอยู่ที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลไปแล้ว

หันมาดูเจ้า iPhone 5 ก็ยังคงมีกล้องหลังขนาด 8 ล้านพิกเซลเช่นเดียวกัน แต่ความต่างกับ iPhone 4S คือ ใน iPhone 5 จะมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวอัติโนมัติ (หมายถึงไม่มีให้ตั้งค่า) มาให้ใช้งานกันด้วย

ส่วนเรื่องเลนส์รับภาพ หรือ แผ่นรับแสงอะไรนั่นหน่ะ ผมไม่สนใจสเปคหรอก ผมเน้นที่ภาพจริง ๆ

ว่าแล้วก่อนไปดูการเปรียบเทียบภาพถ่ายมาดูการใช้งานโหมด พานอรามา (Panorama)

เมื่อเรียกกล้องถ่ายภาพขึ้นมา ด้านบนตรงกลางจะมีปุ่ม option พอแตะปุ๊ปก็จะเห็น Panorama ให้เลือก

วิธีการใช้งานไม่ยากครับ พอเลือก Panorama แล้ว หน้าจอของน้องไอ5 จะปรับล็อคเป็นแนวตั้งทันที

หากต้องการเริ่มถ่ายก็กดปุ่มชัตเตอร์ (รูปกล้องตรงกลาง)

หลังจากนั้นให้เราค่อย ๆ เลื่อนน้องไอโฟน 5 ไปทางขวาเรื่อย ๆ ตามลูกศร โดยให้ปลายแหลมของลูกศรอยู่ในแนวเส้นระดับ ตามภาพ

ถ้าหากเราเลื่อนกล้องเร็วไป จะมีข้อความเตือนให้เราช้าลง

ถ้าหากเราพอใจกับความกว้างของภาพแล้ว กดปุ่ม “Done” ได้เลย ไม่ต้องรอให้สุดอีกขอบหนึ่ง

เสร็จปุ๊ปก็จะได้ภาพ พานอรามา สวย ๆ อย่างที่เห็นนี่แหละครับ

แต่ส่วนตัวผมว่าสีเพี้ยน และ หากห้องแสงน้อยก็จะเกิด noise หรือ จุด ๆ เยอะมาก แต่ก็เอาเถอะ ผมก็ยังไม่เห็นมี smartphone ตัวไหนถ่าย panorama ได้ภาพคมชัดสมใจสักตัว

ภาพนี้เอามาแปะให้ดูสีของผนังตกแต่งกลางภาพที่ออกสีเนื้อ ๆ นวล ๆ จากภาพปกติ แต่พอเป็น panorama แล้วจะออกขาวเว่อร์ ๆ ไปซะงั้น

จบเรื่อง Panorama ไปแล้ว กลับมาสู่เรื่องคุณภาพภาพถ่าย ที่เป็นหัวข้อสำคัญของบทความนี้ดีกว่า

ออกตัวก่อนนะว่ารีวิวนี้ เป็นสไตล์ของผมเอง โดยยึดจากนิสัยส่วนตัวของผมที่เน้นง่ายเอาไว้ก่อน ฉะนั้นการใช้กล้องบนมือถือของผมจะเน้นง่าย แกะกล่องออกมา ปรับเลือกโหมดกันภาพสั่นไหว และ เลือก Auto Focus เอาไว้เท่านั้นเอง ไม่ได้ตั้งค่าอื่น ๆ เพิ่มเลย เพราะกล้องมือถือ สำหรับผม ผมว่ามันต้องเน้นที่ง่าย และ เร็ว เพราะส่วนมากเราใช้กล้องมือถือเก็บความทรงจำ และ ความรู้สึกกับสถานะการณ์เฉพาะหน้า ดังนั้นหากต้องมาตั้งค่าให้เป๊ะ แล้วค่อยถ่าย เราคงไม่ทันเก็บภาพบรรยากาศนั้น ๆ ได้

และ นี่คือ “ข้ออ้าง” ว่าทำไมผมถึงทำรีวิวที่ไม่เน้นการทดสอบภาพ จากการตั้งค่าต่าง ๆ ทั้ง white balance, ISO (และ อื่น ๆ อีกมากมายที่ผมไม่รู้เรื่อง และ ไม่สนใจ)

การทดสอบนี้ผมจะเน้นไปที่ผลของรูปที่ถ่ายออกมา ตอนดูผ่านคอมนะครับ หลาย ๆ ครั้งที่ดูบนเครื่องสวยแต่ออกมาเน่าก็เยอะไป

ตอนแรกว่าจะเอา Apple ปะทะ Apple แต่เปิดดูแล้วเห็นว่ามีภาพจากมือถือตัวเทพ ๆ ยี่ห้ออื่นอยู่เลยเปลี่ยนใจจัดเต็มงัดกรุออกมาเปรียบเทียบกันให้เห็นจะ ๆ ระหว่าง iPhone 5 ตัวเทพล่าสุดจาก Apple ที่ต้องบอกว่า “ใครจะว่ายังไงผมก็ซื้อครับ” มาเทียบกับภาพจาก HTC One X, Galaxy SIII รวมถึง Galaxy SII ตัวเก่า และ iPhone4S

มุมนี้ผมชอบมาก ๆ เพราะเป็นมุมลึกที่มีกำแพงทะแยงเข้า ประกอบกับประตูโบราณสีน้ำตาลแปลก ๆ ถัดไปเป็นวงกบประตูสีโอ๊ค (น้ำตาลเข้มผสมแดงนิด ๆ ) คั่นด้วยผนังบุผ้าสีทอง เดินดิ้นทอง จบด้วยกระจกสีชาทอง และ ด้วยส่วนประกอบทั้งหมดนี้ เล่นเอากล้องมึนมาแล้วมากมาย สีจะเพียนไม่เพี้ยนเห็นชัดดีครับ

ชม และ พิจรณากันเองนะครับ ไม่ต้องมีซับไตเติ้ล

มุมของแต่ละรูป อาจต่างกันไปบ้าง (บอกแล้วว่าไร้ทฤษฏี) แต่แสงของทุกรูปแทบไม่ต่างเพราะเป็นห้องที่เปิดไฟเหมือนเดิมทุกครั้ง ไม่มีแสงธรรมชาติเลย

อีก 4 รูปด้านล่างนี้เป็นมุมไกล ถ่ายผ่านกระจกออกไปด้านนอก เพื่อเช็ครายละเอียดของภาพ และ แสงสีต่าง ๆ

เปรียบเทียบการถ่ายภาพจากมือถือทั้ง 5 รุ่นไปแล้ว ซึ่งทั้งหมดเป็นภาพที่ถ่ายในห้างสรรพสินค้า ที่คนเมืองใช้ชีวิตกันส่วนมาก พิจรณากันเอาเองว่าชอบกล้องของตัวไหน แต่สำหรับผม iPhone ก็ยังคงเป็นมือถือที่ผมชอบพกเพื่อถ่ายรูปต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน แต่เดี๋ยวรอได้ Note 2 ก่อนค่อยว่ากันใหม่